“บิ๊กป้อม”ให้คอยฟังซักฟอก'นายกฯ'โดนถล่มประเด็นอะไรบ้าง ด้าน 'ไพบูลย์'โวลั่นมีหมัดเด็ด รับรองประชาชนไม่ผิดหวังแน่ ตอก'สงคราม”ปรามาสลุงบ้านป่า หากไม่เป็นอย่างพูด ต้องมาขอโทษที่พรรค แซะพรรคร่วมรัฐบาลง่อนแง่น

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.68 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า “คอยฟังสิ ให้คอยฟัง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ประชาชนรอฟังว่า พล.อ.ประวิตร จะอภิปรายเรื่องอะไร จะใช่เอ็มโอยู 44 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้ำคำเดิมว่า “คอยฟังสิ คอยฟัง”

เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าประชาชนจะไม่ผิดหวังใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้ประชาชนรอฟังพล.อ.ประวิตร อภิปรายคนเดียวว่าจะมีหมัดเด็ดอะไร โดยพล.อ.ประวิตร ไม่ตอบ แต่เดินขึ้นรถทันที ก่อนที่จะลดกระจกลง พร้อมยิ้มทักทายกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่เดินลงมาส่ง

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้นำการอภิปรายภาพรวม โดยจะมีการกล่าวถึงประเด็นหลักๆ ที่พรรคตรวจสอบ ทั้งเรื่องที่ดินอัลไพน์ ซึ่งเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ กาสิโน การพนันออนไลน์ และ เอ็มโอยู 2544 รวมไปถึงเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นอกจากนี้ ยังมี 2 ประเด็นสำคัญที่อุบไว้ก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเปิดออกมาแล้วจะทำให้ตะลึงเลยหรือไม่ นายไพบูลย์ เลี่ยงที่จะตอบ โดยบอกเพียงว่า เป็นประเด็นของฝ่ายเตรียมข้อมูล ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นใหม่ โดยเป็นเรื่องของนายกฯเอง 

เมื่อถามย้ำว่า เป็นเรื่องทุจริตหรือเรื่องการบริหารงาน นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขอตอบแค่นี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวไปพูดหมด

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยเห็นบทบาท พล.อ.ประวิตร ในการอภิปรายในสภา หลายคนมีการจับตาถึงขั้นปรามาสว่าจะไม่มีข้อมูลเด็ด นายไพบูลย์ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่ท่านอภิปรายจะเลือกใช้ถ้อยคำแบบผู้ใหญ่และมีน้ำหนักและพุ่งเป้าไปสู่การอภิปรายนายกฯว่าทำไมเราถึงไม่ไว้วางใจนายกฯ และต้องทำความเข้าใจว่า การอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร เป็นการอภิปรายภาพรวม ส่วนการลงรายละเอียดแต่ละประเด็นนั้น เป็นเรื่องของ สส.ที่จะอภิปรายไปขยายผล

เมื่อถามถึงกรณีนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปรามาสว่าอยากเห็น พล.อ.ประวิตร อภิปรายลงลึกรายละเอียดในเอ็มโอยู 44 มากกว่าที่จะพูดคำว่าไม่รู้ ๆ นายไพบูลย์ กล่าวว่า “ให้รอฟัง ไม่เป็นอย่างที่เขาพูดก็แล้วกัน แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาพูด เขาจะทำอะไรให้ ขอโทษกันที่นี่ได้หรือไม่”

เมื่อถามอีกว่า ประชาชนจะไม่ผิดหวังกับบทบาทของหัวหน้าพรรค ในฐานะเป็นผู้ใหญ่และพรรคฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับตนได้ฟังอภิปรายแล้ว ตนไม่ไว้วางใจ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรมีการซักซ้อมการอภิปรายแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ระดับนี้แล้วท่านก็เตรียมอะไรของท่านสมบูรณ์อยู่แล้ว ส่วนจะอภิปรายกี่นาทีขอให้รอฟัง แต่ได้เวลาพอสมควร โดยจะไม่มีการพูดเยิ่นเย้อกินเวลา ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง  โดยมีจำนวนผู้อภิปรายรวม พล.อ.ประวิตรด้วย ทั้งหมด 6 คน ส่วนมีใครบ้างขออุบไว้ก่อน หลายเรื่องยังไม่อยากจะพูด อยากจะไปโชว์ในวันอภิปราย 

เมื่อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บอกว่า การอภิปรายจะมีงูเห่า โหวตให้รัฐบาล 10 เสียง เป็นเสียงจากพลังประชารัฐหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขอให้คอยดู ใครพูดอะไรก็พูดไป 

เมื่อถามย้ำว่า  ถ้ามีจะทำอย่างไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขอให้รอดู แต่ล่าสุดพรรคได้มีคำสั่งให้ปลด น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ ออกจากรองเลขาธิการพรรค เพราะไปร่วมกิจกรรมในการเปิดที่ทำการพรรคกล้าธรรม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่จะไม่มีการขับออกจากพรรค รอให้ลาออกเอง

เมื่อถามว่า หลังการอภิปรายจะยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดได้เลยหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จแล้ว มีหลายเรื่องที่จะถูกยื่นต่อ ป.ป.ช. หรืออาจจะถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ 2 ประเด็นที่อุบไว้ แต่เป็นประเด็นทั่วไป ตนเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะนำไปสู่ ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ 

นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องการแบ่งข้อมูลอภิปรายกับพรรคประชาชนนั้น ต่างฝ่ายต่างทำ แต่ประเด็นเหมือนกันไม่เป็นไร เพราะข้อมูลข้อเท็จจริงอาจจะแตกต่างกัน ไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลมาแสดงกัน เพราะแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ และ สส.มีการเตรียมการบ้าน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยร่วมมือกันเท่าไหร่ แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีการร่วมมือกัน ผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่น ขณะที่จากการฟังข่าวพรรคร่วมรัฐบาลรู้สึกจะง่อนแง่นกันพอสมควร

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนใช้คำว่าดีลแลกประเทศ พรรคพลังประชารัฐจะใช้คำว่าอะไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขอให้รอฝ่ายที่เกี่ยวข้องสรุปว่าจะใช้สโลแกนอย่างไร แต่การอภิปรายของพรรคพลังประชารัฐจะทำให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีนายกฯ แบบไหน