วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘นักวิชาการ’จี้ รบ.เร่งคลอดมาตรการ ป้องกัน‘จีน’สวมสิทธิ์สินค้า‘บริษัทไทย’

‘นักวิชาการ’จี้ รบ.เร่งคลอดมาตรการ ป้องกัน‘จีน’สวมสิทธิ์สินค้า‘บริษัทไทย’

วันอาทิตย์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2568, 17.00 น.
Tag : นักวิชาการธรรมศาสตร์ รัฐบาล จีน สวมสิทธิ์บริษัทไทย สหรัฐฯ การเมืองวันนี้ แนวหน้าออนไลน์
  •  

"นักวิชาการ"จี้ รบ.เร่งคลอดมาตรการ ป้องกัน"จีน"สวมสิทธิ์สินค้า"บริษัทไทย" หลังมีผู้ผลิตโซลาร์โดนสหรัฐฯขึ้นภาษี

"นักวิชาการธรรมศาสตร์"เสนอรัฐบาลเร่งคลอดมาตรการป้องกัน"จีน"สวมสิทธิ์บริษัทไทย เร่งฟื้นเชื่อมั่น"สหรัฐฯ"ผ่านการแก้ปัญหาจริงจัง ระบุควรตั้งกรรมการเฉพาะขึ้นมา และเปิดช่องให้ผู้แทนมะกันเข้ามาร่วมตรวจสอบสถานประกอบการเพื่อความไว้วางใจ


เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 รศ.ดร.อาชนัน เกาะไพบูลย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และนักวิจัยศูนย์ความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนา เปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) จากประเทศในอาเซียนจำนวน  4 ประเทศ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมการสวมสิทธิ์ของประเทศจีน ที่ได้เข้ามาสวมสิทธิ์ตั้งฐานการผลิตโซลาร์เซลล์ในบริษัทอาเซียน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย โดยผลการตรวจสอบของสหรัฐฯ ในปี 2023 สรุปว่ามีการสวมสิทธิ์ และทำให้เริ่มไต่สวนเพื่อคำนวณอัตราการเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุนและการทุ่มตลาดในปี 2024 และสรุปออกมาเป็นตัวเลขที่แน่ชัดได้ในช่วงเดือน เม.ย.2025 ที่ผ่านมา

รศ.ดร.อาชนัน กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่า มาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ แตกต่างกันในแต่ละประเทศ และภายในประเทศนั้นๆ บริษัทแต่ละบริษัทก็เผชิญภาษีในอัตราที่แตกต่างกัน โดยบริษัทจากมาเลเซียโดนภาษีตอบโต้การอุดหนุนและการทุ่มตลาดในอัตราที่ต่ำที่สุด ในขณะที่อีก 3 ประเทศเผชิญภาษีดังกล่าวมากกว่าร้อยละ 100 ดังนั้น มาเลเซียและผู้ผลิตโซลาร์ในสหรัฐฯ น่าจะได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีนำเข้า ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ด้วยอัตราภาษีในระดับนี้คงยากที่ทำให้เกิดการค้าระหว่างประเทศได้

อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตโซลาร์ของมาเลเซียโดยลำพังอาจไม่เพียงพอที่รองรับความต้องการของสหรัฐฯ ได้ ดังนั้น ราคาโซลาร์ในสหรัฐฯ คาดว่าจะสูงขึ้น และทำให้ความต้องการโซลาร์ลดลง ผลที่ตามมาคือการเปลี่ยนผ่านไปพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์คาดว่าจะชะลอตัวลง และทำให้ปัญหาสภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น

“ในเวลานี้คงเป็นเรื่องยากและอาจจะเลยจุดที่รัฐบาลไทยจะทำอะไรได้มากแล้ว เพราะเป็นกระบวนการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2024 สหรัฐฯ ตัดสินไปแล้ว ซึ่งเราก็อาจจะอุทธรณ์ได้ในบางกรณีแต่ก็คงไม่ง่าย ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องทำก็คือการหามาตรการป้องกันเรื่องการสวมสิทธิ์สินค้า ซึ่งแน่นอนว่าจะมีมาอีกเรื่อยๆ ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพราะการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมของโลกมีการแบ่งงานกันระหว่างประเทศ และจีนมีบทบาทในเกือบทุกสินค้า รัฐบาลจึงต้องเตรียมการเชิงรุกให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำรอยเดิมอีก” รศ.ดร.อาชนัน กล่าว

รศ.ดร.อาชนัน กล่าวว่า คำแนะนำในเบื้องต้นคือหลังจากนี้ไปรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ควรจะต้องมีกระบวนการที่เข้มข้นมากขึ้น ในการพูดคุยและเจรจากับผู้ประกอบการจากต่างชาติว่าจะมีแผนหรือกระบวนการต่างๆ อย่างไร เพื่อให้ลดการพึ่งพาชิ้นส่วนต่างๆ จากจีน และหันมาสร้างซัพพลายเชนในไทยมากขึ้น เรื่องดังกล่าวคาดว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งผู้ประกอบการทุกชาติในประเทศไทย ภาครัฐสามารถใช้กรณีบริษัทผลิตโซลาร์เซลล์ครั้งนี้เป็นกรณีศึกษาว่าหลักเกณฑ์ใดที่เข้าข่ายการสวมสิทธิ์ และแบบใดไม่เข้าข่าย ซึ่ง ช่องว่างของความแตกต่างเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องกลับมาทบทวน และถอดรหัสเพื่อหามาตรการรับมือ

“มากไปกว่านั้นคือควรใช้โอกาสจากการที่ไทยกำลังจะเดินหน้าเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งในการหารือถึงการทำงานร่วมกันกับสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้า โดยแสดงความจริงใจและความมุ่งมั่นผ่านการนำเสนอกระบวนการทำงานที่เป็นรูปธรรมหลังจากนี้ไป และอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อรับหน้าที่ดังกล่าวขึ้นมาโดยเฉพาะ และเชิญชวนตัวแทนเจ้าที่ทางการจากสหรัฐฯ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งสำหรับร่วมตรวจสอบสถานประกอบการ หรือบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาดำเนินการผลิตในไทย หากสามารถทำให้สหรัฐฯ มองเห็นถึงความเอาจริงเอาจังเพื่อจัดการปัญหาเรื่องการสวมสิทธิ์สินค้า ก็อาจจะส่งผลให้อเมริกาพิจารณาผ่อนคลายมาตรการการขึ้นภาษีได้ในท้ายที่สุด” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ประเสริฐ\' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเชิงรุก 4 จังหวัดอีสานกลาง 'ประเสริฐ' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเชิงรุก 4 จังหวัดอีสานกลาง
  • ถกนัดแรก! 10 อรหันต์พิจารณามติ \'แพทยสภา\' 20 พ.ค.นี้ ถกนัดแรก! 10 อรหันต์พิจารณามติ 'แพทยสภา' 20 พ.ค.นี้
  • รัฐบาลคุมเข้มปล่อยบั้งไฟใกล้สนามบิน ฝ่าฝืนโทษหนักจำคุก 5 ปี รัฐบาลคุมเข้มปล่อยบั้งไฟใกล้สนามบิน ฝ่าฝืนโทษหนักจำคุก 5 ปี
  • เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ยืนยันกับนายกฯ พร้อมยึดนโยบาย ยกระดับความร่วมมือด้านการเมืองความมั่นคง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ยืนยันกับนายกฯ พร้อมยึดนโยบาย ยกระดับความร่วมมือด้านการเมืองความมั่นคง
  • ‘พรรคปวงชนไทย’จัดเวทีเสวนาระดมกึ๋น หาทางรอด ‘สงครามกำแพงภาษีทรัมป์‘ ‘พรรคปวงชนไทย’จัดเวทีเสวนาระดมกึ๋น หาทางรอด ‘สงครามกำแพงภาษีทรัมป์‘
  • \'อสส.\'ตั้งคณะทำงานพิจารณาคำร้อง\'ณฐพร\' ชงส่งศาลรธน.ใช้ม.49 วินิจฉัยฮั้วเลือก สว. 'อสส.'ตั้งคณะทำงานพิจารณาคำร้อง'ณฐพร' ชงส่งศาลรธน.ใช้ม.49 วินิจฉัยฮั้วเลือก สว.
  •  

Breaking News

พบศพนักท่องเที่ยวอินเดีย ถูกถุงดำรัดคอลอยทะเลเกาะเสม็ด ตร.เร่งสอบสวน

'มิลลิ'สู้ยิบตารัวแข้งรัวหมัด ก่อนแพ้คะแนนคู่ชกชาวจีน ศึก'Fairtex Fight'

(คลิป) แนวหน้าTAlk : ตีแผ่!! การเมืองภาคใต้ ยุคที่ต้องใช้ทั้งเงินและปืน

คนร้ายยิงสองผัวเมียดับคาที่หน้าบ้าน ในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved