ยิ่งนับวันกระแส ‘กฎหมายกาสิโน’ ไม่เงียบหายลงไป กลับยังร้อนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากซีกพรรคเพื่อไทย หลังจากนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สั่งให้ สส.พรรคเพื่อไทย ให้ลงพื้นที่ไปอธิบายและทำความเข้าใจกับประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมสภา เพื่อให้เข้าใจถึงจุดยืนของพรรคในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. (ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ) พร้อมให้ไปรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนด้วยนั้น
และแล้วเริ่มปรากฏภาพชัดเจนขึ้น เห็นได้จากทุกคนในพรรคเพื่อไทยต่างพูดในทิศทางเดียวกันว่าจากการลงพื้นที่ของ สส.ส่วนมาก บอกประชาชน ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะในต่างจังหวัด มีสัญญาณดี ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยก็หวังจะนำเสียงสะท้อนของประชาชนไปเป็นข้ออ้างในการเดินหน้าดันกฎหมายฉบับนี้ให้ได้
แม้มีเสียงสะท้อนจากพรรคการเมือง กลุ่มต้านกาสิโนกลุ่มต่างๆล้วนวิพากษ์วิจารณ์มองว่า รัฐบาลแพทองธาร ไม่สนใจและไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง รวมถึง ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีอย่างต่อเนื่องแทบก่อเหตุกับประชาชนคนเปราะบางทั้งไทยพุทธ-มุสลิม
ท่ามกลางกระแสคัดค้านอย่างกว้างขวางการออกกฎหมายเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย ท่าทีคนที่อำนาจเหนือนายกฯอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร ยังคงแสดงความมั่นใจว่าเสียงในสภาผู้แทนราษฎรจะเพียงพอให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่สนใจเสียงสะท้อนภาคประชาชนภายนอกสภา จะมีกระแสต้านแค่ไหน
กระแสวิพากษ์จากสังคมครอบคลุม หลายมิติโดยเฉพาะด้านศีลธรรม ถือเป็นประเด็นหลักที่หลายภาคส่วนพร้อมใจลุกขึ้นมาแถลงการณ์แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ทั้งผู้นำศาสนาทุกศาสนา องค์กรทางจริยธรรมรวมถึงเครือข่ายแพทย์และสาธารณสุขต่างออกมาคัดค้านและเตือนถึงผลกระทบทางสังคมที่อาจตามมาหากรัฐบาลผลักดันให้มีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายเกิดขึ้นจริงในประเทศ
กลุ่มศาสนา มองว่าการเปิดกาสิโนขัดกับหลักคุณธรรมพื้นฐาน ที่เน้นการลดละกิเลสและความโลภขณะที่แพทย์ และนักวิชาการด้านสาธารณสุข เตือนถึงผลเสียต่อสุขภาพจิตของประชาชน ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาการพนันเรื้อรังและผลกระทบต่อครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เยาวชนและผู้มีรายได้น้อย แม้รัฐบาลจะพยายามยกเหตุผลอ้างด้านเศรษฐกิจ การดึงดูดนักลงทุนหรือการจัดเก็บภาษีจากกาสิโนแต่กลับละเลยต่อคำเตือนที่สะท้อนออกมาในเชิงคุณค่าทางสังคม
กระทั่งวันนี้ เมื่อดูท่าทีรัฐบาลไม่มีแนวโน้มถอย หรือถอนร่างดังกล่าวออกจากสภา ทำให้กลุ่มที่ต่อต้านจำเป็นต้องยกระดับการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ โดยอาศัยเครื่องมือ ทั้งภายในและภายนอกสภาเพื่อขัดขวางทุกรูปแบบ
แม้ในระบอบประชาธิปไตยเสียงในสภา เป็นเครื่องมือในการออกกฎหมาย ก็จริง แต่อย่าลืมเสียงจากประชาชนภายนอกก็มีส่วนสำคัญ เพราะหากเรื่องกาสิโน กลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อหลักศีลธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในประเทศโดยตรง ย่อมไม่อาจมองข้ามได้ หากรัฐบาลยังคงดึงดันเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงของสังคมทุกฝ่าย ก็อาจต้องเผชิญกับแรงต้านที่รุนแรงและลุกลามเกินกว่าจะควบคุมได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่พอใจที่รุนแรงยิ่งขึ้นในกลุ่มประชาชนและกลายเป็นชนวนใหม่ของการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในอนาคตได้
ล่าสุด นายสรวงค์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลเตรียมเปิดเวทีแจงกาสิโน ให้คนกลางเป็นเจ้าภาพ โดยยืนยัน รัฐบาลพร้อมแลกเปลี่ยนฟังความเห็นกลุ่มต้าน อีกทั้งบอกว่าคนที่ออกมาต่อต้านมีไม่ถึง 10%ที่ได้อ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ นักวิชาการและแกนนำก็น่าจะได้อ่านอยู่ แถมยังย้ำว่า “อย่าปิดกั้นโอกาสของประเทศไทยอีกเลย”
และเรื่องนี้ ถ้าทั้งนายใหญ่อย่าง นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทย ประเมินกระแสต้านผิดพลาด แล้วนายกฯ แพทองธาร ยังดึงดัน จะผลักดันกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ให้สำเร็จให้ได้ในรัฐบาลชุดนี้ โดยไม่ฟังเสียงต่อต้านและคัดค้านกาสิโน จากประชาชนทุกกลุ่มต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงภายในพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคโดยไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ
จากนี้ไป ขอให้จับรอดูว่า เมื่อไหร่ที่ในสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ คาดว่าจะมีพลังมวลชนต่อต้านกาสิโน จะลุกฮือพร้อมๆ กันทั่วประเทศ และเป็นไปได้ ที่มวลชนอาจจะขยายวงกว้างมากกว่าการต่อต้าน ‘พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย’ ในอดีตเสียอีกด้วยซ้ำ
ฉะนั้นเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ก็พร้อมจะเกิดขึ้น เพียงรอสถานการณ์สุกงอม เมื่อไหร่ทุกลุ่มหมดความอดทนต่อรัฐบาลชุดนี้ ที่มุ่งจะทำตามความต้องการให้ได้ โดยไม่สนใจต่อการแก้ปัญหาต่างๆแล้วเกิดวิกฤติศรัทธาภายในประเทศ คงจะอยู่บริหารประเทศต่อไปลำบากแน่นอน ถึงเวลานั้น นายกฯ แพทองธาร อาจถึงทางตันต้องลาออก หรือ ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
ณ วันนี้ยังไม่สายเกินไป ที่จะถอนฟืนออกจากกองไฟ ก่อนแผ่นดิน จะลุกเป็นไฟ เพราะ ‘กาสิโน’ จะกลายเป็นประเด็นร้อนก่อชนวนทำให้มวลชนทุกกลุ่มพร้อมใจลุกฮือออกมาชุมนุมทั่วประเทศขับไล่รัฐบาลชุดนี้ ถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไป และไม่มีใครหยุดยั้งได้ ถึงขั้นประชาชนชุมนุมขับไล่พ้นแผ่นดินไทย
ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี