วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาในหัวข้อ “คดีชั้น14 คดีฮั้ว สว. อย่าปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” ระบุว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 7 พฤษภาคม 2568) ก่อนเที่ยง มีกระแสข่าวพาดหัวสื่อหลายสำนักว่า “ฟ้าผ่าวุฒิสภา! กกต.ลงดาบฟัน 60 สว.ตัวเป้ง ยื่นศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ 138 สว.” ทำให้มีการวิเคราะห์ถึงคดีฮั้ว สว. ว่ามีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วแล้ว แต่พอช่วงเย็นก็มีกระแสข่าวจากนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวถึงกระแสข่าวที่ กกต.เตรียมยื่นศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ 60 สว.ตัวเป้ง ว่า เป็นข่าวคลาดเคลื่อน เพราะคดีฮั้ว สว.ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน หากมีมูลหลักฐานแล้วถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อให้ชี้แจง
เมื่อมีการปฎิเสธข่าว ทำให้หลายฝ่ายมึนงงกับกระแสข่าวที่ออกมา แต่เชื่อว่าถ้าไม่มีมูลความความจริง ข่าวก็คงจะไม่ออกมา เพียงแต่ยังไม่มีการยื่นต่อศาลฎีกาในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ตามกระแสข่าว แต่อาจจะใช้เวลาระยะหนึ่งในการรวบรวมพยานหลักฐาน และแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มี 7 คน มีคนของกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมด้วย 3 คน ซึ่งน่าจะนำข้อมูลการฮั้ว สว. จากการสอบสวนของดีเอสไอร่วมพิจารณาด้วย จนทำให้ปรากฏความจริงว่ามีการฮั้ว สว.เกิดขึ้นแน่นอน
ถ้าหากดูการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ จากการให้สัมภาษณ์ของพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เกี่ยวกับ 2 คดี ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ คือคดีฟอกเงิน และคดีอั้งยี่ ทั้ง 2 คดีจะมีพนักงานสอบสวน ที่ไปร่วมกับ กกต.อยู่ด้วย มีพยานหลักฐานครบถ้วน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร ภาพถ่าย เสียง สถานที่อยู่ มีกว่า 10 รายการ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเชื่อว่าสามารถเอาผิดคดีฮั้ว สว.ได้ เว้นแต่จะเกิดการฮั้วอำนาจ เคลียร์ปัญหา แบ่งปันอำนาจกัน ระหว่างผู้มีอำนาจฝ่ายสีแดงกับสีน้ำเงิน ซึ่งอาจจะเกิดเป็นเหตุการณ์มวยล้มต้มคนดูได้
ดังนั้นไม่ว่าคดีฮั้ว สว. จะลงเอยอย่างไร แต่ตอนนี้สังคมเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วว่า มีการฮั้วเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่จะหาพยานหลักฐานเอาผิดได้หรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างว่าป่วยวิกฤต ต้องรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตลอดเวลา 180 วันโดยไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว คนทั้งประเทศก็เชื่อว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง เพียงแต่ยังหาพยานหลักฐานเอาผิดนายทักษิณไม่ได้
ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทย ซึ่งจะต้องพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ เมื่อมีการกระทำผิดก็จะต้องได้รับการลงโทษ ความจริงจะต้องเปิดเผย “การปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” ต้องทำไม่ได้โดยเด็ดขาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี