รองผบช.น.เผยสัปดาห์หน้ารู้ผลออกหมายจับ 3 กลุ่ม “ผู้ออกแบบ-คนคุมงาน–ผู้ก่อสร้าง” ส่วนประเด็น 28 วิศวกรถูกอ้างว่าถูกปลอมลายเซ็นนั้น ต้องรอผลตรวจพิสูจน์สัปดาห์หน้าเช่นกัน
เมื่อวันที่ 8พฤษภาคม2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น. ) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง กรณีเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานวัตถุ เช่น เหล็กที่ใช้มีลักษณะอย่างไร รวมถึงเอกสารที่มีการขอมาตั้งแต่เริ่มทำ TOR โครงการ, สัญญาการจ้าง ทั้งการออกแบบ, การจ้างควบคุมงาน, จ้างการก่อสร้าง
พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวต่อว่า เบื้องต้นตำรวจมองแนวทางดำเนินคดีไว้ 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ออกแบบซึ่งประกอบไปด้วยกรรมการผู้มีอำนาจ วิศวกรที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฟอ-รัมอาร์คิเทค จำกัด และไมน์ฮาร์ท (ประเทศไทย) กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้ควบคุมงาน เช่น กรรมการผู้มีอำนาจ วิศวกรที่เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้า PKW (พีเอ็มซิงค์โครไนซ์, ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์เคพี คอนซันแทนส์แอนด์แมเนจเม้นท์ และกลุ่มที่ 3 คือ ผู้ก่อสร้าง ประกอบด้วยกรรมการผู้มีอำนาจ วิศวกรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี (อิตาเลียนไทย)-CREC ( ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์ 10 ประเทศไทย )
ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลและข้อเท็จจริงว่ามีการทำ TOR และว่าจ้าง 2 บริษัท ในการออกแบบอาคาร ซึ่งพนักงานสอบสวนส่งแบบไปให้สภาวิศวกร วิศวกรรมสถาน และผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ตรวจสอบว่า แบบดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ และในสัปดาห์หน้าจะทราบผลดังกล่าว โดยผลดังกล่าวจะสอดคล้องกับรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่า สิ่งที่มีการออกแบบดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงและมาตรฐาน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลจากผู้เชี่ยวชาญในสัปดาห์หน้าในประเด็นการออกแบบ ซึ่งก็จะมี 2 บริษัทที่เกี่ยวข้อง
ถัดมาคือประเด็นการก่อสร้างอาคารที่ได้มีการออก TOR และมีการว่าจ้างกิจการร่วมค้า 2 บริษัท เบื้องต้นได้มีการนำวัตถุที่ใช้ในการก่อสร้าง เช่น เหล็กแและคอนกรีดส่งพิสูจน์ ในช่วง 7 วันแรกหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนดีเอสไอและกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เดินทางไปเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุและเก็บชิ้นงานทุกวัน ซึ่งเหล็กได้มีการจัดเก็บไปแล้วทั้งหมด 315 ชิ้น ส่วนปูน ได้มีการเจาะตั้งแต่บริเวณ พื้น,เสา,ปล่องลิฟต์ ลงมาถึงบริเวณชั้นล่าง ได้ชิ้นส่วนตัวอย่างมาทั้งหมด 75 ชิ้น เบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบแล้ว และในสัปดาห์หน้าจะได้ผลในส่วนนี้ โดยขณะนี้ได้รับผลของเหล็กและปูนบางส่วนแต่ยังไม่ครบถ้วน ทำให้พนักงานสอบสวนยังคงรอพยานหลักฐานในส่วนนี้
และประเด็นที่ 3 คือการจ้าง ควบคุมงานก่อสร้าง ที่ได้มีการทำ TOR และว่าจ้างกลุ่มกิจการร่วมค้า ตรงส่วนนี้มีประเด็นเรื่องของการแก้ไขแบบการก่อสร้างผนังปล่องลิฟต์ หรือ Core Lift ซึ่งปรากฏประเด็นขึ้นมาว่าพบวิศวกรถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เอกสารข้อเท็จจริงมาแล้วและผลการตรวจสอบจะออกในสัปดาห์หน้าพร้อมกัน โดยทางตำรวจได้ประสานข้อมูลการทำงานร่วมกับดีเอสไอ เบื้องต้นพบว่าจากการสอบปากคำวิศวกร 40 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงลายมือชื่อ พบในจำนวน 36 คน ที่เข้าให้ข้อมูล มี 28 คน อ้างว่าถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องตรวจสอบ
ส่วนการสอบปากคำผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจรับงาน พนักงานสอบสวนมีการสอบปากคำไปแล้ว 36 ปาก โดยหากได้รับผลการตรวจสอบทั้งหมดครบถ้วนแล้ว พนักงานสอบสวนจะมีการนำมาพิจารณาองค์ประกอบทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกรูปแบบทั้งในฐานะส่วนบุคคลและนิติบุคคล เช่น กลุ่มวิศวกร ที่มีการลงลายมือชื่อ และยืนยันว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการออกหมายจับกับกลุ่มคนเหล่านี้บางส่วน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี