อีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้ เป็นจุดใหญ่ที่จะต้องจับตา ไม่ใช่เพียงแค่มิติด้านตัวเลขงบประมาณเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเครื่องทดสอบ“เสถียรภาพทางการเมือง”ของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร อีกด้วย
แม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำรัฐบาล แต่การมีเสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร เสียง ส.ส.314 จาก 500 แต่เป็นเสียงของรัฐบาลจริง ราว 250 กว่าเสียง ทำให้การผ่านงบประมาณต้องอาศัยความร่วมมือจากพรรคร่วมอย่างราบรื่น แต่ในความเป็นจริงรัฐบาลผสมชุดนี้ มีเสียงสนับสนุนอย่างไม่มั่นคงโดยมีเสียงในสภาที่พอเพียงต่อการผ่านร่างกฎหมายสำคัญแบบ“เฉียดฉิว”เท่านั้น ดังนั้นในการจะผ่านร่างงบประมาณวาระแรกจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล อย่างเหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณความระหองระแหงลึกๆภายใน อย่างเช่นพรรคภูมิใจไทยแสดงความไม่พอใจเรื่องคดีฮั้วเลือก ส.ว. และเชื่อว่าได้รับแรงกระทบจากกลุ่มการเมืองฝ่ายรัฐบาลบางส่วน อาจไม่พอใจการบริหารของแกนนำรุ่นใหม่ ซึ่งอาจทำให้พรรคนี้แสดงท่าทีแข็งกร้าวในการอภิปรายงบประมาณ หรือ แม้กระทั่งใช้เป็นเวที“ต่อรองทางการเมือง”กับแกนนำรัฐบาล
หากเกิดกรณี"วอล์คเอาต์"หรือ"งดออกเสียง"จากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคหรือหากฝ่ายค้านเลือกเล่นเกมตีรวนในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69ก็อาจเผชิญความเสี่ยงที่จะ“ถูกคว่ำร่าง”เป็นทางเลือกหนึ่งแม้จะเป็นโอกาสที่ไม่สูงนัก แต่มีความเป็นไปได้เชิงกลยุทธ์เกมต่อรองทางการเมืองในสถานการณ์ที่ผู้นำอ่อนแอ
เพราะฉะนั้น ประเด็นร้อนต้องเกาะติด ปมคดีฮั้วเลือก ส.ว.ถูกบี้หนักกับ สว.ชุดปัจจุบันโดยพุ่งเป้า สว.สีน้ำเงิน แล้ว อาจลามถึงกระทบเสถียรภาพการบริหารงานของรัฐบาลไปด้วย
จุดแตกหัก ที่น่าจับตามองที่สุด คือ ความสัมพันธ์ที่เริ่มร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย
แม้ตลอดที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทยต่างยืนยัน โดยเฉพาะนายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย จะไม่โหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ69ว่าเรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็บอกมาตลอดว่าพร้อมผลักดันนโยบายของรัฐบาลจึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมาขวางร่างพ.ร.บ.งบฯที่เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
นายประเสริฐยังมองว่า“คนที่ปล่อยข่าวนี้ออกมามีเจตนาทำให้คนในรัฐบาลระแวงกันเอง ส่วนตัวที่ได้ประชุมครม.ได้ทำงานร่วมกับรัฐมนตรีแต่ละพรรค ยังไม่เห็นประเด็นขัดแย้งในการทำงาน ทุกคนยังพร้อมให้ความร่วมมือการเดินหน้าภารกิจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯจึงมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลว่าจะสามารถทำงานแก้วิกฤติต่างๆที่เจอในขณะนี้ได้จนอยู่ครบวาระและเชื่อว่าด้วยความเป็นผู้นำของน.ส.แพทองธาร ที่ให้เกียรติผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างดี ทำให้การทำงานราบรื่น”
แม้กระแสความขัดแย้งระหว่าง เพื่อไทย–ภูมิใจไทย อาจไม่ถึงขั้นถอนตัว แต่มีแนวโน้มร้าวลึกแม้ภูมิใจไทยยังอยู่ในรัฐบาลแต่ความรู้สึก“ไม่ไว้ใจ”เริ่มขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะปมคดีฮั้วเลือกส.ว.ที่ทั้งกกต.และดีเอสไอ เดินหน้ารุกหนักอย่างต่อเนื่อง อาจยิ่งบานปลายสร้างแผลร้าวลึกกับวุฒิสภาจึงต้องจับตาท่าทีภูมิใจไทยและสว.สีน้ำเงินซึ่งอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญ
หากพรรคเพื่อไทยไม่มีการเคลียร์ใจกันอย่างจริงจัง อาจส่งผลให้ความร่วมมือทางการเมืองสั่นคลอน โดยเฉพาะช่วงอภิปรายงบประมาณ ซึ่งภูมิใจไทย อาจใช้เป็นเวทีแสดงจุดยืนหรือต่อรองทางการเมืองได้
เพราะฉะนั้นต้องจับตาการถกงบประมาณปี 69ครั้งนี้จะถือเป็นบททดสอบแรกของ“แพทองธาร”บนเวทีสภาในการพิจารณาร่างงบประมาณปี2569จะไม่ใช่แค่การตรวจสอบตัวเลขวงเงินงบรายจ่ายงบประมาณของแผ่นดินเท่านั้น แต่เป็นเวทีที่สาธารณชนจะได้ประเมินศักยภาพของ น.ส.แพทองธาร ทั้งในการบริหารจัดการพรรคร่วมรัฐบาล การประคองเสียงในสภาและการรับมือกับความขัดแย้งภายในอย่างเป็นรูปธรรม
หากผ่านพ้นไปได้อย่างมั่นคง ราบรื่นก็จะเป็นการส่งสัญญาณถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในระยะยาว และอย่างไรเสีย เชื่อว่าทุกพรรคยังไม่พร้อมที่ไปสู่สนามเลือกตั้งจึงหวังประโยชน์จากเม็ดเงินงบประมาณลงไปเพิ่มศักยภาพในพื้นที่ หวังตุนคะแนนเสียงเอาไว้ให้มาก แต่หากสะดุดเกิดรอยร้าวหรือ“ถูกคว่ำงบกลางสภา”ก็อาจเป็นสัญญาณความล้มเหลวที่ส่งผลรัฐบาล แพทองธาร อายุสั้นทันที…,,มีทางเลือก ต้องยุบสภา หรือลาออก เท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี