วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘เพื่อไทย’ดันสุดลิ่ม คาดพรบ.กาสิโนเข้าสภา9ก.ค. เล็งถกสส.พรรคฟังความเห็น

‘เพื่อไทย’ดันสุดลิ่ม คาดพรบ.กาสิโนเข้าสภา9ก.ค. เล็งถกสส.พรรคฟังความเห็น

วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ภูมิธรรม กาสิโน เพื่อไทย
  •  

‘เพื่อไทย’ดันสุดลิ่ม

คาดพรบ.กาสิโนเข้าสภา9ก.ค.

เล็งถกสส.พรรคฟังความเห็น

 

 


“ภูมิธรรม” ปัดเสนอความเห็น “กล้าธรรม” เตรียมเปิดตัว 2 อดีต สส.กทม. “เพื่อไทย” ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ลั่น 6 พรรคร่วมรัฐบาลเหมือน “พรรคพี่พรรคน้อง” กันทั้งหมด ด้าน “ดนุพร” สวนกลับ “โรม” โทษนายกฯปมดูดสส.งูเห่า

ลั่นจะไปสั่ง’กธ.’ได้ยังไง คาดสภาถกร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 9ก.ค.เตรียมเรียกประชุมสส.เพื่อไทยรับฟังความเห็น หลังลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชน-พร้อมรับมือถกงบ69 นายกฯชวนคนไทยทานผลไม้บ้านเรา ทัวร์จันทบุรีเสาร์นี้ พร้อมรับฟังแนวทางและให้นโยบายส่วนราชการ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนทั่วประเทศ ส่งเสริมสินค้าผลไม้ไทยไปในตลาดโลกให้มากขึ้น‘รทสช.’พร้อมโหวตรับร่างพรบ.งบฯ69 หนุนรัฐบาลแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน พร้อมร่วมปรับลดงบเกินจำเป็นออกในวาระ2

เมื่อวันที่ 16พ.ค.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.)และผู้บริหารพรรค นัดพูดคุยกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพและนายการุณโหสกุล อดีต สส.กทม.วันที่ 16พฤษภาคมนี้ ซึ่งทั้งสองถูกมองว่าเป็นคนเก่าของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคกล้าธรรม ไม่ใช่เรื่องของตน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีคนมองว่าพรรคกล้าธรรม เป็นพรรคที่พรรคน้อง หรือพรรคสาขาของพรรค พท.นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็จับมือร่วมกันตั้งรัฐบาล 6พรรค ก็เป็นพรรคพี่พรรคน้องกันทั้งหมด

‘กล้าธรรม’ไม่ใช่พรรคสาขาเพื่อไทย

ด้าน นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคกล้าธรรมเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ แต่เข้าใจคนที่มองเช่นนั้น เพราะสส.ของพรรคกล้าธรรมปัจจุบันหลายคนเมื่อปี2554 ก็เคยลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย จึงอาจจะทำให้มีการมองเช่นนั้นได้ แต่การเลือกตั้งในปี 2562 เขาย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเมื่อมีปัญหากันเขาก็แยกตัวออกมาสร้างบ้านหลังเล็กๆ ของเขาคือพรรคกล้าธรรม ฉะนั้นตนจึงไม่อยากให้มองว่าเป็นสาขาที่สองของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคกล้าธรรมก็มีอุดมการณ์ของเขา

เมื่อถามว่ายืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีสาขาสองใช่หรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ไม่มี ผลการเลือกตั้งซ่อมที่จ.นครศรีธรรมราช ก็ทำให้เราเห็นแล้วว่า พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคที่มีแสงของตัวเอง เขาชนะด้วยคะแนน 3 หมื่นกว่าคะแนน ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีฐานเสียงสำคัญหรือคะแนนจำนวนมากอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช จุดอ่อนพรรคเพื่อไทยอยู่ที่ภาคใต้ หากจะเอาฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะทำให้พรรคกล้าธรรมชนะแน่ แต่เขาเป็นพรรคทางเลือกหนึ่งของคนนครศรีธรรมราช จึงทำให้เขาชนะมา ย้ำว่าตนมองว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่สาขาสองของพรรคเพื่อไทย

สวน’โรม’นายกฯสั่งดูดสส.ไม่ได้

เมื่อถามกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่า นายกรัฐมนตรีปล่อยให้พรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ดูดสส.งูเห่าเข้าพรรคได้อย่างไร พรรคเพื่อไทยควรเข้าใจเรื่องนี้มากที่สุด นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคประชาชนกับสส.ในพรรคที่เป็นปัญหากัน ซึ่งเกิดการน้อยใจกันทำให้สส.ของพรรคประชาชน อยากไปสังกัดพรรคอื่น การที่ นายรังสิมันต์ โยนมายังนายกฯนั้น นายกฯ ท่านไม่ทราบหรอกว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน และท่านก็ไม่รู้จักสส.ที่จะย้ายพรรค อีกทั้งในสภาผู้แทนราษฎรก็มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อยู่ ซึ่งสส.แต่ละพรรคอาจจะสนิทกัน เพราะต้องไปดูงานและทำงานร่วมกันบ่อยๆ เมื่อมีปัญหาในพรรค เขาก็อาจจะมีการพูดคุยและปรึกษากัน

“จริงๆ ไม่อยากให้คุณรังสิมันต์มองว่าการเกิดงูเห่าแล้วนายกฯ ต้องรับผิดชอบ ถามว่านายกฯ จะไปสั่งพรรคกล้าธรรมได้หรือ ก็ไม่สามารถสั่งได้ ขนาดหัวหน้าพรรคประชาชนยังสั่งลูกพรรคไม่ได้ แล้วจะให้นายกฯ ไปสั่งนายธรรมนัสได้อย่างไร ก็ไม่ได้ เราอยู่คนละพรรคกัน จะไปก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละพรรคนั้น ทำไม่ได้ วันนี้พรรคประชาชนเขาอาจจะคุยกันไม่ได้ เพราะอาจจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่ผมก็ยังให้กำลังใจพรรคประชาชนว่า หากเวลาผ่านไปสักพัก ทุกคนอาจจะใจเย็นกันมากขึ้น แล้วกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะเขายังไม่ขับสส.ชลบุรีออกจากพรรค’นายดนุพร กล่าว

คาดสภาถกร่างพรบ.กาสิโน9ก.ค.นี้

นายดนุพร ยังกล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วจะพิจารณาร่าง พรบ.ดังกล่าวได้เลยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนฯค้างในวาระของสภาอยู่แล้ว ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพิจารณา คาดว่าจะมีการพิจารณาในวันที่ 9ก.ค.โดยภายในพรรคมีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้วว่าจะต้องเตรียมข้อมูล และคนอภิปรายให้เห็นว่าสาเหตุ และความจำเป็นของร่างกฎหมายฉบับนี้คืออะไร

นายดนุพร กล่าวต่อว่า จะมีการประชุมกันอีกครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังปัญหาหลังจากที่ สส. ได้ลงพื้นที่ช่วงปิดสมัยประชุมสภา เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องกฎหมายฉบับนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พ.ค.แต่ขณะนี้เรากำลังพูดคุยกันว่าจะมีการประชุมเมื่อใด โดยเราจะยึดตามหลักการเดิมคือ สส.คนไหนสนใจเรื่องอะไร งบประมาณของกระทรวง หรือหน่วยงานอะไร แล้วแยกกลุ่มกันทำงาน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกันแบบลงรายละเอียด

รทสช.พร้อมหนุนพรบ.งบประมาณ

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรีและโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีพ.ศ.2569 ที่จะพิจารณาระหว่างวันที่ 29-31 พ.ค.นี้ ว่า พรรครทสช.พร้อมลงมติรับหลักการในร่างพรบ.งบฯเนื่องจากรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องมีงบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดินและใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่สำคัญ ร่างพรบ.งบประมาณนี้ มีการพิจารณากลั่นกรองของหลายหน่วยงานที่พิจารณาอย่างรอบคอบ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีนี้แล้วเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาออกเป็น พรบ.งบประมาณ ปี 2569

รวมทั้งจากการลงพื้นที่ของสส.พรรครทสช.พบว่า ประชาชนต่างสนับสนุนให้ผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อให้งบประมาณเหล่านี้ในการพัฒนาประเทศและให้ส่วนราชการได้นำงบประมาณไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งรัฐบาลยังสามารถใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอีกด้วย ซึ่งหากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 ไม่ผ่านจะส่งผลกระทบกับทั้งการบริหารราชการแผ่นดินในภาวะเช่นนี้ รวมทั้งไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน การลงมติไม่เห็นชอบในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 จึงไม่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมลงมติรับหลักการในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 ทั้ง 36 เสียง เพื่อให้สามารถใช้ได้ในวันที่ 1 ต.ค.2568 ให้รัฐบาลได้บริหารประเทศชาติอย่างราบรื่นแต่อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาในวาระที่ 2 ตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติในตำแหน่งกรรมาธิการงบประมาณจะพิจารณางบประมาณอย่างละเอียดรอบคอบ และพร้อมจะปรับลดงบประมาณในส่วนที่เห็นว่าโครงการใดที่ไม่เป็นประโยชน์ ออกจากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ.2569 เชื่อว่าการลงมติร่างพรบ.งบฯจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสามารถผ่านในวาระที่ 1 รับหลักการ เพื่อให้กรรมาธิการงบประมาณพิจารณาในวาระ2ต่อไปได้

นายกฯอยู่ระหว่างเยือนเวียดนาม

วันเดียวกัน เวลา 08.30น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ.1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (BạchSơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม จากนั้นนายกฯเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ”บิดาแห่งชาติ”ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม

จากนั้น เวลา 10:00น.นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล

เปิดโปรแกรม’อิ๊งค์’ทัวร์จันทบุรี17พ.ค.

ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จ.จันทบุรี ในวันเสาร์ที่ 17พฤษภาคม2568 เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดทางภาคตะวันออก รวมทั้งให้ นโยบายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างจริงจัง ซึ่งภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของไทย โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ร่วมลงพื้นที่ด้วย

โดยช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.15 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากกองบินตำรวจ ท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินอำเภอท่าใหม่ (ทหารเรือที่ 31 ท่าใหม่) จังหวัดจันทบุรี จากนั้นเดินทางต่อไปยังสวนรักตะวัน เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออกและแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ และเข้าร่วม Live ขายทุเรียนกับ Young Smart Farmer ต่อจากนั้น จะเยี่ยมชมบูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT พร้อมร่วมรณรงค์ เชิญชวนการรับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล โดยจะรับฟังการนำเสนอข้อมูลเรื่องร้านอาหาร Thai SELECT จากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และรับฟังข้อมูลเรื่องรณรงค์การสนับสนุน การทานผลไม้ในฤดูกาล จากอธิบดีกรมการค้าภายใน

เยี่ยมชมขั้นตอนการส่งออกทุเรียน

นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่าในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.30น.นายกรัฐมนตรีจะเข้าเยี่ยมชมขั้นตอนการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดต่างประเทศ ณ บริษัท ดรากอนเฟรชฟรุท จำกัด อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โดยชมการคัดแยกมังคุดและการแพคกิ้งเพื่อการส่งออก บูธกิจกรรมแปรรูปผลไม้ รวมถึงโมเดลความร่วมมือ ในการนำเมนูผลไม้ขึ้นไปเสริฟบนเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมกันนี้ จะพบปะพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมรับฟังแนวทางการรับซื้อผลไม้จากผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกจากภาคส่วนต่างๆ และชมกระบวนการคัดแยกและบรรจุผลไม้สด (ทุเรียน) เพื่อการส่งออก ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเย็นวันเดียวกัน

สำหรับมูลค่าการส่งออก สินค้าผลไม้ของไทยอยู่ในอันดับต้นๆของโลก โดยทุเรียนในปี 2567 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออกรวม 4,404.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (157,506 ล้านบาท)โดยแบ่งเป็น (1) ทุเรียนสด 3,755.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (134,852 ล้านบาท) และ (2) ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 649.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (22,654 ล้านบาท) และล่าสุดปี 2568 ช่วง 2 เดือนแรก (มกราคม – กุมภาพันธ์) ไทยมีมูลค่าส่งออกรวม 128.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (4,374 ล้านบาท) แบ่งเป็น(1)ทุเรียนสด 85.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (2,918 ล้านบาท) และ (2) ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 42.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,456ล้านบาท) ทุเรียนเป็นสินค้าที่ไทยพึ่งพาตลาดส่งออกถึง 75% ขณะที่บริโภคภายในประเทศเพียง25% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด

พบผู้ประกอบการฟังปัญหา-วิธีแก้ไข

“การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเพื่อพบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการผลไม้ พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการตลาดและราคาผลผลิต โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ส่งออกที่สำคัญ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการส่งออกผลไม้ชนิดอื่นไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นมังคุด เงาะ ลองกอง ตลอดจนผลไม้เมืองร้อนของจังหวัดจันทบุรีและภาคตะวันออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยให้เป็นที่จดจำ โดยการหาตลาดรองรับทั้งในเมืองหลักและเมืองรองเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม พร้อมเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ตามแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 รวม 7มาตรการ ครอบคลุม25แผนงาน ให้ผลไม้ไทยปีนี้ได้ราคาดีตลอดทั้งปี” นายจิรายุ กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘อ้วน’พร้อมคุมDSI ถ้านายกฯมอบหมาย ยันทำตามก.ม. ‘อ้วน’พร้อมคุมDSI ถ้านายกฯมอบหมาย ยันทำตามก.ม.
  • \'โฆษก พปชร.\' ชี้รัฐปล่อยจอย ปราบปรามพนันออนไลน์ลุกลาม ล่อล่วงพระชั้นผู้ใหญ่ ไร้ความน่าเชื่อถือเปิดกาสิโน 'โฆษก พปชร.' ชี้รัฐปล่อยจอย ปราบปรามพนันออนไลน์ลุกลาม ล่อล่วงพระชั้นผู้ใหญ่ ไร้ความน่าเชื่อถือเปิดกาสิโน
  • \'ภูมิธรรม\'ไม่รู้เรือดำน้ำไทย เตรียมยกให้กัมพูชา หากยกเลิก รับ\'ทูตจีน\'จี้ขอคำตอบหลายรอบ 'ภูมิธรรม'ไม่รู้เรือดำน้ำไทย เตรียมยกให้กัมพูชา หากยกเลิก รับ'ทูตจีน'จี้ขอคำตอบหลายรอบ
  • ลุยดันกม.กาสิโน!! ‘ดนุพร’คาดเข้าสภาฯ 9 ก.ค. จ่อเรียกคุยสส.ฟังความเห็นหลังลงพื้นที่ ลุยดันกม.กาสิโน!! ‘ดนุพร’คาดเข้าสภาฯ 9 ก.ค. จ่อเรียกคุยสส.ฟังความเห็นหลังลงพื้นที่
  • ‘สมศักดิ์’ขยับ! ตั้ง 10 ขุนพล ถก‘มติแพทยสภา’ลงโทษ 3 หมอรักษา‘ทักษิณ’ ‘สมศักดิ์’ขยับ! ตั้ง 10 ขุนพล ถก‘มติแพทยสภา’ลงโทษ 3 หมอรักษา‘ทักษิณ’
  • ‘ภูมิธรรม’เผยที่ประชุม UN เห็นพ้องร่วมมือสร้างสันติภาพ ไทยเสนอช่วย‘กู้ระเบิด’ ‘ภูมิธรรม’เผยที่ประชุม UN เห็นพ้องร่วมมือสร้างสันติภาพ ไทยเสนอช่วย‘กู้ระเบิด’
  •  

Breaking News

(คลิป) แนวหน้าTAlk : ตีแผ่!! การเมืองภาคใต้ ยุคที่ต้องใช้ทั้งเงินและปืน

คนร้ายยิงสองผัวเมียดับคาที่หน้าบ้าน ในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา

'ประเสริฐ' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเชิงรุก 4 จังหวัดอีสานกลาง

(คลิป) เปิดค่าตัวทิพย์!! สส.พรรคส้ม ขี้โม้ ขี้ฟัน ราคาคุย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved