'นฤมล'จ่อเซ็นตั้ง'อนุดิษฐ์'นั่ง'ปธ.ยุทธศาสตร์'เป็นฝ่ายบุ๋น ส่วน'การุณ'ฝ่ายบู๊ ประสานเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายการุณ โหสกุล อดีต สส.กทม.เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรค กธ.โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา นายทะเบียนพรรค และ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค ให้การต้อนรับ
จากนั้นเวลา 15.25 น.นายอรรถกร และนายไผ่ พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ แถลงข่าวร่วมกันภายหลังสมัครสมาชิกพรรคเสร็จสิ้น โดย นายอรรถกร กล่าวว่า บุคลากรทั้งสองคนถือเป็นการเสริมทัพพรรค กธ.ที่ตรงจุด เชื่อว่าทั้งสองคนจะทำให้พรรค กธ.มีความพร้อมที่จะทำงานให้ประชาชนทั่วประเทศได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจากนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค กธ.ว่าหลังจากกระบวนการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเสร็จสิ้น ให้เตรียมเสนอเอกสารไปยังหัวหน้าพรรคให้มีคำสั่งเร่งด่วนแต่งตั้ง น.อ.อนุดิษฐ์เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค เพื่อช่วยวางแผนยุทธศาสตร์ให้พรรค โดยหลังจากนี้จะขึ้นรถด่วนไปยังหัวหน้าพรรค เพื่อมอบหมายภารกิจสำคัญให้กับทั้งสองคน
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมกับพรรค กธ.เพราะแม้ทุกพรรคจะมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนทั้งสิ้นในเรื่องที่ดีต่อประเทศชาติ แต่พรรค กธ.เป็นพรรคการเมืองที่ยึดเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตรงนี้สำคัญ การเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางอาจจะมีหลายพรรคที่ชอบใช้คำนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกเหนือคำพูดคือการปฏิบัติ การจะขับเคลื่อนนโยบายใดๆ ตอบสนองประชาชนต้องเข้าใจตั้งแต่รากเหง้าปัญหา ตนติดตามการทำงานของทุกพรรค ยอมรับว่า พรรค กธ.เป็นพรรคที่มีความใกล้ชิดประชาชน ฟังเสียงประชาชน เอาปัญหาเหล่านั้นมาหาคำตอบว่าจะแก้ไขให้ประชาชนอย่างไร คิดว่ามันตรงใจกับเราทั้งสองคน เราเองเติบโตมาจากการเป็น สส.แบบแบ่งเขต คลุกคลีกับประชาชน ถ้าเราจะเริ่มงานใหม่กับพรรคการเมืองใหม่การเมืองหนึ่งที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราจะทำงานที่พรรค กธ. เราทั้งสองคนจะทุ่มเท ใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่มีในการทำงานให้พรรค กธ.เติบโตจากพรรคน้องใหม่กลายเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง
เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์พรรคอย่างไร น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ดีเอ็นเอของพรรค กธ.คือ การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ถ้าจะต้องกำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคสำหรับการเลือกตั้งในปี 70 คงต้องใช้เสียงของประชาชนในการสะท้อนความต้องการและปัญหาต่างๆ เบื้องต้นวันศุกร์ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พูดเรื่องการกำหนดยุทธศาสตร์กับหัวหน้าพรรค เรื่องการได้มาซึ่งข้อมูล ซึ่งท่านก็สนับสนุน โดยจะมีแพลตฟอร์มเป็นสื่อกลาง ไว้ค่อยสื่อสารตรงมายังพรรค เพื่อนำความต้องการเหล่านี้มาประมวลผล นำข้อมูลมาตัดสินใจมาเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองต่อไป
เมื่อถามย้ำ จะทำให้พรรค กธ.เป็นพรรคระดับไหน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรค กธ.การจะเดินไปสู่จุดการนำเสนอนโยบาย สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเชื่อ คือ การพิสูจน์ในงานที่เรากำลังทำในปัจจุบัน ส่วนจะเดินไปจุดไหนอย่างไร เร็วไปที่จะตอบ ต้องดูการทำงาน 2 ปีที่เหลือ
ด้าน นายการุณ กล่าวว่า การมาอยู่ที่พรรค กธ.ครั้งนี้ พวกเราไม่ว่าจะเลขาธิการพรรค นายทะเบียนพรรค หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรค เราทำงานร่วมกันมาหลายโอกาส ร่วมมือกันมาด้วยดีตลอด เป็นดีเอ็นเอเดียวกัน ให้ความรัก ความใจกว้าง ความใจถึง บ้านหลังเล็กๆ หลังนี้เป็นบ้านที่อบอุ่น สำหรับตนได้โอกาสเข้ามาทำงาน ได้ประสานกับหัวหน้าพรรค ซึ่งบอกว่าอย่างตนเหมาะสมกับการบู๊ ส่วน น.อ.อนุดิษฐ์จะบุ๊น ในการจัดทัพ ระดมความคิด สร้างโครงสร้าง สนับสนุนหัวหน้าพรรคในการขับเคลื่อนพรรคให้ไปได้ไกล ตนได้รับมอบหมายให้ประสานภาคส่วนต่างๆ และประสานในต่างจังหวัด ในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า
"หลายคนจะเห็นว่า ความสง่างามของ ร.อ.ธรรมนัส ประธานที่ปรึกษาพรรค กธ.ใครจะพูดอย่างไรถึงท่านอย่าไปฟัง สิ่งเดียวที่มีคือ ไม่เคยถูกครหาว่าคอร์รัปชั่น มีความหวังว่า อยากจะเห็นพรรค กธ.เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ยืนยันว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเจอมรสุมอะไร เราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน ร.อ.ธรรมนัสใจถึง พึ่งได้ ผมเป็นน้องเล็ก ใจไม่ถึง แต่พึ่งได้ จะทำงานสุดความสามารถ" นายการุณ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี