‘ลิณธิภรณ์‘ ชูรัฐบาล เพิ่มงบการศึกษาวิจัยปี 69 เปิดฉากลงทุนทรัพยากรมนุษย์ไทย 3 มิติ อัดฉีด STEM พัฒนา AI หนุน Soft Power บรรลุ Zero Dropout ได้จริง
วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. งบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้านการศึกษา วิจัย พัฒนา ส่งเสริมเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ของไทย
น.ส.ลิณธิภรณ์ อภิปรายว่า งบการศึกษาในปีนี้คือหลักฐานว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้พูดถึงอนาคตเฉยๆ แต่กำลังลงทุนกับการเรียนรู้อย่างจริงจัง เพราะไม่มีอะไรจะชัดเจนเท่ากับการที่รัฐบาลให้งบการศึกษาเพิ่มขึ้น ทั้งที่รัฐต้องบริหารท่ามกลางความท้าทายทางการคลัง โดยจัดสรรงบกระทรวงศึกษาธิการ 355,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 140,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1%
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า งบประมาณปี 69 นสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร “ลงทุนสร้างอนาคตกับการศึกษาของเด็กไทยในโลกยุค Ai " พร้อมสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำไปพร้อมกัน ใน 3 มิติ คือ
(1) มิติการสร้างคนเพื่อรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงและส่งเสริมความสร้างสรรค์ ใช้งบประมาณ 35,149 ล้านบาท พัฒนาหลักสูตร STEM และ AI ตลอดจนงบ 215.33 ล้านบาท สนับสนุน Soft power ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย
(2) มิติการสร้างหลักสูตร Higher Education Sandbox หลังสูตรที่แตกต่างจากมาตรฐานอุดมศึกษา และงานวิจัยผลิตความรู้ต้นน้ำ อย่าง BCG อว.For EV ด้วยงบ 19,800 ล้านบาท ผลักดันเศรษฐกิจอนาคตผ่านเทคโนโลยีระดับสูง ตอบโจทย์ภาคอุตาหกรรม
(3) มิติการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กและเยาวชนไทย ด้วยงบ กสศ. 7,987 ล้านบาท ทำให้โครงการ Zero Dropout จากคำโฆษณากลายเป็นผลลัพธ์ที่เห็นได้จริง และเพิ่มทางเลือกการศึกษานอกระบบการศึกษา กว่า 200 ล้านบาท พร้อมฟื้นทุน ODOS กว่า 7,200 ทุนด้วยงบ 4,599 ล้านบาทเปิดโลกทัศน์ โอกาสแห่งความฝัน การเรียนของเด็กไทยในต่างประเทศ
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า แม้งบ 2569 จะมีข้อดีอยู่มาก แต่รายจ่ายบางส่วนอาจปรับปรุงเพิ่มเติมให้เหมาะสมได้มากกว่านี้ เช่น งบประมาณฝึกอบรมและสัมมนาครู โดยเฉพาะกิจกรรมภายใต้หน่วยงานต้นสังกัดในระดับภูมิภาค ที่มีเนื้อหาซ้ำซ้อน และขาดตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพราะเราไม่ได้ต้องการครูที่นั่งฟังบรรยายวันละ 8 ชั่วโมง แต่เราต้องการครูที่มีเวลาสอนเด็กให้เข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง ตลอดจนงบที่ซื้อเพื่อซื้อมากกว่าการพัฒนา เช่น บำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบสารสนเทศ 146 ล้านบาท หรือคอมพิวเตอร์ที่มีราคาต่อหน่วยต่ำกว่า 1 ล้านบาท รวม 243 หน่วยกำหนดวงเงิน 187 ล้านบาท
จึงฝากเป็นข้อสังเกตให้คณะอนุกรรมาธิการการศึกษาใช้เป็นแนวทางพิจารณา เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาไม่ควรเริ่มจากกล่องสินค้า แต่ต้องเริ่มจากความเข้าใจผู้เรียนและครูว่าต้องการอะไร? ใช้เป็นหรือไม่? และมีความพร้อมระดับไหน?
“นับตั้งแต่วันที่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลจนถึงวันนี้ รัฐบาลได้เห็นความสำคัญของการลงทุนใน ทรัพยากรมนุษย์ของไทย รัฐบาลนี้เข้าใจดีว่าการแข่งขันในโลกอนาคตไม่ได้วัดกันที่ GDP อย่าง เดียว แต่วัดกันที่คุณภาพของคน เราจึงให้การศึกษาเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา งบประมาณปี 2569 อาจไม่ได้หวือหวาในเชิงตัวเลข แต่เป็นการเริ่มวางกลไกแห่งอนาคต ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ และมีเป้าหมายชัดเจน ถึงโลกจะหมุนไป แต่เพื่อไทยหัวใจยังคงเป็นประชาชน” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี