‘ศธ.แถลงโต้’ฝ่ายค้าน‘ ไม่เคยได้รับงบจัดพิมพ์ตำราแม้แต่บาทเดียว พร้อมขออย่าตัดงบ 158 ล้าน หวั่นกระทบสวัสดิการครู แจงหลักสูตรใหม่รอบครอบ ให้เด็กทันสถานการณ์โลก
วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ได้อภิปรายงบประมาณด้านการศึกษา และพาดพิงหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการนั้น พบว่ามีความคลาดเคลื่อนหลายอย่าง จึงอยากจะขอชี้แจง เพื่อทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกับประชาชน
โดยนายพีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้ชี้แจง ว่า สกสค. มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการของครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 1 ล้านคน ซึ่งได้ดูแลมาตั้งแต่ปี 2494 และได้รับกาาจัดสรรงบประมาณแผ่นดินในส่วนนี้ เฉลี่ยปีละประมาณ 100 ล้านบาท แต่มีภารกิจต้องดูแลจริง 10,000 ล้านบาท ทำให้ สกสค. ต้องจัดหางบประมาทเพิ่มเติมเอง ส่วนองค์การค้าที่รับโอนมาจากคุรุสภานั้น สกสค. มีหน้าที่ต้องจัดหาแหล่งทุนสำหรับจัดพิมพ์ตำราเรียน ซึ่งตั้งแต่เริ่มก่อตั้งองค์การค้า ก็ไม่เคยได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดินแม้แต่บาท ทั้งที่ขอไปตลอดทุกปี แต่ถูกตัดงบประมาณตลอด ส่งผลให้ปี 2569 สกสค. ไม่ได้ของบประมาณในส่วนนี้
นายพีระพันธ์ กล่าวต่อว่า องค์การค้ามีส่วนแบ่งทางการตลสดในการจีดพิมพ์ตำราเรียน เพียง 30% เพราะต้องตรึงราคาไว้ ไม่ให้กระทบกับผู้ปกครองและนักเรียนกว่า 6,400,000 คน และต้องดำเนินการให้ทันก่อนเปิดภาคเรียน ดังนั้นในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ สกสค. ดำเนินการมาทุกปีตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ หวังว่า สส. จะไม่ใจร้ายตัดงบประมาณในส่วนที่ได้ขอไป 158 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่ใช้ดูแลสวัสดิการและสวัดิภาพ เพราะจะกระทบกับครูและบุคลากร
ด้านนายธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการจัดทำหลักสูตรใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับอนุบาล - มัธยมศึกษาปีที่ 6 ว่า จะต้องผ่านความเห็นชอบจาก กพฐ. ซึ่งมีทั้งอาจารย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ โดยเป็นการนำหลักสูตรเดิมที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุง ใช้ระยะเวลา 5 เดือน ไม่ใช่การยกร่างหลักสูตรใหม่ เรียกว่า หลักสูตรทางสมรรถนะ ซึ่งประกาศและทดลองใช้ในโรงเรียน 8 จังหวัด รวม 184 โรงเรียน
แต่เมื่อสถานการณ์โลก และเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงไป จึงเกรงว่านักเรียนจะพัฒนาไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลก กพฐ.จึงมีมติตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ให้ สพฐ. โดยสำนักวิชาการยกร่างหลักสูตรนี้ ซึ่งมีอาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้บริหารโรงเรียน ครู และศึกษานิเทศ มาร่วมกันร่างหลักสูตร โดยใช้ชื่อหลักสูตร “ประถมวัย 2568 และหลักสูตรประถมต้น 2568“ ซึ่งปัจจุบัน มีโรงเรียนสมัครใจเข้ามาใช้กว่า 4,300 โรงเรียน พร้อมยืนยันว่า ได้จัดทำหลักสูตรอย่างรอบคอบ จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี