"เลขาฯพท."ย้ำปรับครม.เป็นอำนาจ"นายกฯ" แต่คงไม่ใช่สัปดาห์นี้ บอกปัญหา"ภท.-พท."แค่ความเห็นไม่ตรงกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดาของคนต่างพรรค เผย"นายกฯ"เตรียมนัดดินเนอร์เร็วๆนี้ ปรับจูนความคิด ไม่เชื่อ"ภท."จะตีจาก ยอมรับสมาชิก พท.บ่นอยากได้"มหาดไทย-เกษตรฯ"ไปดูเอง เพราะเป็นเรื่องกระแส ต้องเร่งทำตามนโยบายที่ให้กับประชาชน
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ ว่า ไม่ทราบเลย เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวการระหองระแหงของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเพื่อไทย คิดว่าถึงเวลาที่จะปรับ ครม.หรือยัง นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ คำว่าระหองระแหงก็มีมาตั้งแต่ตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯแล้ว ไม่น่าจะมีอะไร ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีอะไรอย่างที่นายกฯ เคยบอกไว้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไม่ตรงกันมันมีได้อยู่แล้ว ขนาดพรรคเดียวกันยังมีความเห็นไม่ตรงกันมีเยอะแยะ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติของการเมืองของคนที่อยู่ร่วมกัน แต่เรื่องของการปรับ ครม.ขอให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า จะปรับ ครม.เมื่อไหร่ อย่างไร ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีส่งสัญญาณอะไรมาที่ตนเลย เมื่อถามว่า ตามข่าวที่ออกมาบอกว่าจะปรับ ครม.สัปดาห์นี้ คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้เลยหรอ คิดว่าน่าจะยังไม่ใช่สัปดาห์นี้ เพราะสัปดาห์นี้รัฐบาลและประชาชนให้ความสำคัญในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระราชินีฯ และนายกฯ เองก็ยังไม่ได้พูดอะไร ยังอยากจะทำงานร่วมกันอย่างนี้ต่อไปก่อน แต่ตรงนี้ตนก็ไม่ทราบ นายกฯ อาจจะมีคิดหรือวางตัวอะไรไว้แล้ว แต่ตนไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามข่าวที่ออกมาว่าพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะเอากระทรวงมหาดไทยมาอยู่ในการดูแลของตัวเอง นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความจริงมันก็มีบ้างที่สมาชิกจะบ่นกันว่าอยากได้ก็กระทรวงหลักๆ กลับมา ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็อยากได้กระทรวงหลักๆ กลับมา เพราะมันเป็นเรื่องของกระแส เรื่องของการทำนโยบายของเราด้วย แต่ทั้งหมดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะนายกฯ ได้วางตัวคนทำงานอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหา
เมื่อถามว่า ที่มีข่าวออกมาตอนนี้ว่าต้องการกระทรวงมาไทย มาดูแลเอง เพราะต้องเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้านี้หรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จริงๆ ไม่ใช่คาดหวังแค่การเลือกตั้งอย่างเดียว แต่นโยบายของเราหลายๆ อย่างมันต้องใช้หลายกระทรวงหลักๆ ที่จะต้องช่วยกัน อย่างที่บอกเราเป็นรัฐบาลผสมจริงๆ ครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาตอนเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลพรรคใหญ่พรรคเดียว และมีพรรคเล็กๆ เข้ามาร่วมแค่นั้น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นรัฐบาลผสมจริงๆ เพราะฉะนั้นการผลักดันนโยบายต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ตอบสนอง แต่การขับเคลื่อนมันไม่เหมือนกับการที่จะอยู่ในพรรคเดียวกัน
เมื่อถามว่า จากการที่มีกระแสข่าวจะดึงกระทรวงมหาดไทยกลับไปเลย ทำให้มีข่าวออกมาว่าพรรคภูมิใจไทยอาจจะชิงแยกตัวออกมาจากรัฐบาลก่อน จนมีข่าวปรับ ครม.ออกมาในสัปดาห์นี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องปรับ ครม.ตนไม่ทราบจริงๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการทำงานไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ถ้าภูมิใจไทยออกไปจริงๆ รัฐบาลจะมีปัญหาในเรื่องของเสียงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า "โอ้ย ผมว่าไม่น่าจะออกนะครับ เพราะถ้าจะออกจริง ก็น่าจะเป็นการโชว์ตั้งแต่โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แล้ว คิดว่าน่าจะเป็นเพียงการพูดคุยกันมากกว่า"
เมื่อถามว่า สถานการณ์ของพรรคภูมิใจไทยและเพื่อไทยจะเป็นลักษณะของการยื้อกันไป กันมา แบบนี้จะไปได้ตลอดรอดฝั่งจนครบวาระอีก 2 ปีนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เอาน่า แบบนี้แหล่ะ มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ รัฐบาลผสม คิดไม่เหมือนกันบ้าง ก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า อย่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลควรจะมีการนัดดินเนอร์กันอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ เพื่อปรับจูนความคิดกันใหม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีใกล้ๆ นี้แหล่ะ เพราะที่ผ่านมาเราก็ติดในเรื่องของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ คิดว่าเดี๋ยวนายกฯ คงจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลทานข้าวเร็วๆ นี้ แต่คงจะไม่ใช่ในสัปดาห์นี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี