‘หนู’ยันฟังนายกฯ‘อิ๊งค์’คนเดียว
เมิน‘แม้ว’ทวงมท.
ยึดข้อตกลงตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาล
ปธ.วิปฯยันนายกฯคนตัดสินใจ
‘รทสช.’ป่วนหนัก-ซัดกันนัว
‘สุชาติ’ท้าขับ/ซบพรรคใหม่
“อนุทิน”ยันฟังนายกฯคนเดียวไม่มีอะไรปรับครม.เมิน“ทักษิณ”ทวงคืนเก้าอี้มท.ลั่นไม่สับสนโผปรับครม. ยึดข้อตกลงร่วมรัฐบาลตั้งแต่ดั้งเดิม ด้าน“แรมโบ้”โผล่ทวงพรรค“รทสช.”คืน อ้าง“พีระพันธุ์”ไม่สง่างาม “เสธ.หิ”ยันลาออกแล้วทวงคืนไม่ได้ ป้อง“พีระพันธุ์”พบง่ายเย้ยสส.ร่วมวงข้าว“สุชาติ”หลายคนยังไม่คิดย้ายพรรค แต่ไปเพราะถูกเชิญ ด้าน"สุชาติ"ท้า"รทสช."ขับพ้นพรรค พร้อมยกทัพซบ"โอกาสใหม่"ขณะที่"ธนกร-จิรวุฒิ"สส.รทสช.ยันร่วมเฟรมแค่งานสังสรรค์ ลั่นไม่คิดย้ายพรรค
เมื่อวันที่ 2มิถุนายน2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคเพื่อไทยจะให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาคุมกระทรวงมหาดไทยแทนว่า ยังไม่มีมีการพูดเรื่องการปรับ ครม.กับนายกรัฐมนตรี หรือ นายทักษิณ ชินวัตร เพราะเมื่อนายกฯ บอกว่า ไม่มีอะไร ก็ต้องเชื่อนายกฯ จึงต้องถามนายกฯถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนกระทรวง เมื่อถามว่า มีความจำเป็นในการเปลี่ยนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า นายกฯ บอกว่า ยังไม่มีอะไร
‘อนุทิน’ฟังนายกฯ’อี๊งค์’คนเดียว
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า นายกฯ บอกไม่มี แต่พ่อนายกฯบอกว่ามี จะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หัวหน้ารัฐบาลคือนายกฯ ซึ่งนายกฯให้สัมภาษณ์แล้วว่า ยังไม่มีอะไรและบอกผู้สื่อข่าวเองว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับอะไร ขออย่าเพิ่งพูด เดี๋ยวข้อความจะไม่เหมือนกันแล้วกลายเป็นประเด็นขัดแย้ง ให้ฟังนายกฯ คนเดียว เพราะเป็นผู้มีอำนาจตัดสินปรับเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่ ส่วนได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุย ตนว่า ไม่มีอะไร ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย
ลั่นยึดข้อตกลงร่วมรัฐบาลเดิม
ผู้สื่อข่าวว่า ถ้ามีการปรับเปลี่ยนกระทรวงจะเกิดปัญหาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนทำงานมา 2 ปีแล้ว การเข้าร่วมเป็นรัฐบาลก็มีข้อตกลงกันอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิม ทุกคนก็ทำงานสนองนโยบายนายกฯ ตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มาจนถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯทุกกระทรวงทำงานสนองนโยบายนายกฯทั้ง 2คนอย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ก็ดี ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่า หากจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนกระทรวง พรรคภูมิใจไทยอยากได้กระทรวงอะไรและจะใช้เงื่อนไขเดิมมาต่อรองหรือไม่ นายอนุทิน ไม่ตอบคำถาม ย้ำเพียงว่านายกฯบอกว่า ยังไม่มีอะไรและนายกฯ ก็ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนชัดเจนแล้ว
ส่วนการที่นายกฯพูดชัดเจน แต่พ่อนายกฯ พูดอีกแบบจะเป็นการย้อนแย้งกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในความเป็นรัฐบาล นายกฯเป็นหัวหน้ารัฐบาล เราก็ต้องฟังหัวหน้ารัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยต้องเอากระทรวงอะไรมาแลก นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคต้องการกระทรวงขนาดใหญ่ทั้งนั้น อย่าพึ่งไปคิดเลย ถ้าถามอย่างนี้เดี๋ยวพรรคนี้ก็ต้องการกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ วันนั้นท่านก็พูดว่า ต้องการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย
ปธ.วิปรบ.ยันนายกฯคือคนตัดสินใจ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานสส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) รวมถึงการสลับกระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าวสส.พรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดคุยกัน เพราะหลังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณเสร็จสิ้น สส.แต่ละคนต่างเดินทางลงพื้นที่ของตัวเอง และสส.พรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นและแนวทางเดียวกันที่จะให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้ เพราะทำงานใกล้ชิดกับทั้งรัฐมนตรี และสส.ของพรรคเพื่อไทย ย่อมรู้ดีว่าใครควรได้ทำงานแบบไหน จากการสอบถามเพื่อนๆที่เป็นรัฐมนตรีต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ทราบเรื่องนี้เพราะให้เป็นการตัดสินใจของน.ส.แพทองธาร สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนไม่มีใครเข้าไปพูดคุยหรือวิ่งเต้นอะไรกับน.ส.แพทองธาร เพราะไม่อยากทำให้หนักใจ และสมาชิกพรรคทุกคนยินดีทำตามการตัดสินใจของน.ส.แพทองธาร เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด เมื่อถามว่า มีโอกาสที่จะมีคนวิ่งเต้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีใครแทรกแซงการตัดสินใจ ของน.ส.แพทองธารได้ เพราะท่านมีความเด็ดเดี่ยว มีวิจารณญานเป็นผู้นำที่เข้มแข็งไม่มีใครมาออกใบสั่งนายกฯได้
‘แรมโบ้’ทวงพรรค’พีระพันธ์’ไม่สง่างาม
หลังจากปรากฏกระแสข่าวความไม่ลงรอยกันในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระหว่าง สส.บางกลุ่ม กับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิพากษ์ หัวหน้าพรรค ออกมาเป็นระยะ จนนำมาสู่ภาพข่าวนัดกันรับประทานอาหารของสส.รวมไทยสร้างชาติกลุ่มใหญ่ร่วม 20คน นำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ กทม.ล่าสุด เค้าลางแห่งความยุ่งยากของพรรคร่วมไทยสร้างชาติก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เมื่อ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ ”แรมโบ้อีสาน”ประกาศทวงพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งตนเองเป็นคนไปจดทะเบียนเอาไว้กลับคืนจาก นายพีระพันธ์
โดยเมื่อวันที่ 2มิถุนยาน2568 นายเสกสกล ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มผู่สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลระบุว่า “ผมจะขอเอาพรรคคืน ขอไล่หัวหน้าออกไปท่านไม่สง่างาม ขอให้คนอื่นที่เหมาะสมกว่านี้มาเป็นหัวหน้าพรรคดีกว่า มีอีกหลายเรื่องที่ดรณีที่ นายสนธิญา สวัสดีไปร้อง กกต.และปปช.ข้อมูลค่อนข้างน่าเชื่อถือ ก็ไม่เคยออกมาชี้แจงความจริง ผมในฐานะคนก่อตั้งพรรค เมื่อมาขอพรรคผมไปดูแล แต่ทำได้ไม่ดี มีแต่ความแตกแยกในพรรค สส.ในพรรคบ่นมาว่า ไม่มีความอบอุ่นเลย มีแต่แตกแยก แตกความสามัคคี หัวหน้าพรรคเข้าถึงยากความคิดเป็นใหญ่ ไม่ค่อยสนใจเอาแต่พรรคพวกตัวเองและไม่ฟังความเห็นใคร ผมจึงจำเป็นต้องขอทวงพรรคผมคืน เพราะผมให้ยืมไปคิดว่าจะทำให้เติบโตมีแต่จะทำให้ตกต่ำลงกว่าเดิม สร้างความแตกแยกในพรรคตลอด ผมจึงจำเป็นต้องขอทวงคืนเพราะผมไม่ได้ขายพรรคให้เขานะครับท่าน”
‘เสธ.หิ’ยันพรรคของปชช.ทวงคืนไม่ได้
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ‘ตามหาพรรคให้พี่แรมโบ้อยู่ครับ ผมได้รับทราบ จากสื่อต่างๆ ว่าพี่ออกมาทวงพรรครวมไทยสร้างชาติ คืนจากท่านพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค ผมในฐานะ ผอ.พรรค ซึ่งมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับพี่ จึงได้รีบดำเนินการตรวจสอบเพื่อนำเสนอท่านหัวหน้าพรรคตามความต้องการของพี่ ผลการตรวจสอบปรากฎดังนี้ครับ 1.พี่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคไปเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันจึงไม่มีสถานภาพเป็นสมาชิกของพรรค 2.ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง ตามข้อบังคับพรรคและระเบียบ กกต.ในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่1/2565 เมื่อ 3ส.ค.65 3.วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคเสนอนโยบายและแนวทางบริหารต่อพี่น้องประชาชน ปัจจุบันพรรคมีสมาชิก 40,000กว่าคน ได้รับเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งหลังสุดถึงสี่ล้านกว่าเสียง ได้รับเงินบริจาคอุดหนุนผ่าน กกต.ในห้วงปีที่ผ่านมากที่สุด
จากการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงทั้ง 3 ข้อข้างต้น ผมจึงเข้าใจได้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นของประชาชนผู้สนับสนุนพรรค ไม่ใช่ของส่วนตัวของผู้ใด ผมจึงไม่สามารถหาข้อมูลหรือเหตุผลที่จะนำเสนอท่านหัวหน้าพรรค เพื่อคืนพรรคให้พี่ได้ หากพี่มีหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นของพี่ กรุณาส่งหลักฐานเพิ่มเติมให้ผมได้ที่พรรคเพื่อจะได้ประมวลเรื่องนำเรียนท่านหัวหน้าพรรคตามขั้นตอนต่อไป
สวน’สุชาติ’5ข้อย้ำ’รทสช.’ยึดชาติ-ปชช.
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า จากภาพข่าว การร่วมรับประทานอาหารของ สส. พรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนหนึ่ง นำโดยท่าน สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีการแถลงข่าวตามสื่อต่างๆในโอกาสต่อมา ว่าเป็นการพูดคุยหาความชัดเจน ในแนวทาง ทางการเมืองของกลุ่ม สส. ดังกล่าว ซึ่งท่านสุชาติฯ พูดไว้ในหลายประเด็น ผมในฐานะผู้น้อยขออนุญาตกราบเรียนท่านในฐานะรองหัวหน้าพรรค และเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ดังนี้ครับ
1. แนวทางการทำงานและอุดมการณ์ของพรรค ท่านพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค ยังมุ่งเน้นในเรื่องการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 2.กรรมการบริหารพรรค 9ท่าน เป็นคนที่ท่านรู้จักดี โดยเฉพาะในรูปที่รับประทานอาหารวันนั้น ก็มีกรรมการบริหารพรรคอยู่ด้วย 1ท่าน กรรมการบริหารพรรคที่เหลือเป็น สส.4ท่าน เป็นพ่อ สส.1ท่าน เป็นลูก สส.1ท่าน รวมหัวหน้าพรรค อีก 1ท่าน ดังนั้น8ท่านนี้ ท่านรู้จักแน่นอนครับ ท่านอาจจะลืมไปครับ เลยให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จัก 3.ในจำนวน สส.หลายท่าน ผมได้รับข่าวยืนยันกลับมาว่าเป็นการไปร่วมรับประทานอาหารตามคำเชิญ แต่การตัดสินใจย้ายพรรคหรือไม่นั้น หลายท่านแจ้งว่า ยังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ 4.สส.ที่ไป มี 2ประเภท คือ 4.1แบบเขตเลือกตั้ง ซึ่งแบบนี้คะแนนที่เลือกมีทั้งส่วนตัวและของพรรคร่วมกันอยู่ สส.ในแบบนี้จึงมีภาระผูกพันอยู่กับพรรค เพราะตอนเสนอตัวให้ประชาชนเลือก ท่านเสนอตัวในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านจึงควรเคารพมติพรรคและอยู่ในกติกาของพรรคอย่างมีมารยาท หากเมื่อถึงเวลาแล้ว ย่อมเป็นสิทธิของท่านที่จะพิจารณาหาพรรคที่เหมาะสมกับจริตของท่านต่อไป 4.2แบบบัญชีรายชื่อ แบบนี้คะแนนเสียงที่เลือก เป็นคะแนนของพรรค เพราะประชาชนเลือกที่พรรคไม่ใช่ตัวบุคคล และบัญชีรายชื่อที่พรรคเสนอ มีลำดับที่ชัดเจน สส.แบบนี้ หากเห็นว่า พรรคที่สังกัดไม่ตรงกับความต้องการของตัวเองแล้ว ควรจะลาออกจากสมาชิกพรรคในทันที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีรายชื่อถัดไปได้มีโอกาสมาทำงานตามนโยบายพรรคต่อไป 5.การเข้าพบหัวหน้าพรรค ไม่ได้เป็นเรื่องยาก หากท่านเข้าประชุมพรรค ท่านจะพบว่า ท่านสามารถเสนอความคิดเห็นได้อย่างอิสระและหลังประชุมแล้ว สส.ก็เข้าพบท่านหัวหน้าพรรคที่ห้องตลอดเวลา รวมถึงงานเลี้ยงสังสรรค์หลังประชุม
‘พีระพันธุ์’แก้ข้อบังคับพรรคขับพ้นได้
มีรายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แจ้งว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยยกเลิกความในข้อ53ของข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 และ ให้ใช้ข้อความดังต่อไปนี้แทนข้อ53ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง เมื่อผู้นั้นขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคในกรณี….โดยมีสาระสำคัญใน (5) คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะกระทำผิดวินัยหรือมาตรฐานทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมืองตามข้อ55 หรือกระทำความผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายแรงอื่น (6) ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสนับสนุนผู้สมัครในตำแหน่งทางการเมืองใดๆที่ไม่ใช่ของพรรคการเมือง (7) กระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกหรือความเป็นเอกภาพในพรรคการเมือง หรือการบริหารพรรคการเมือง รวมทั้งสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำเช่นว่านั้น โดย นายสุชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อเนื่องยอมรับว่า เตรียมขน สส.ไปซบพรรคโอกาสใหม่ ขณะที่นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขาธิการพรรคโอกาสใหม่ ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า มีการเปิดเจรจากับนายสุชาติแล้ว
‘สุชาติ’ท้าขับ-ยกทัพซบ’โอกาสใหม่’
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงจำนวน สส.ที่จะย้ายไปอยู่พรรคโอกาสใหม่ ว่าที่ไปกินข้าวร่วมกันมาประมาณ 20คน ยืนยัน เคารพสิทธิ สส.ทุกคน เราไม่สามารถตัดสินใจแทนคนอื่นได้ แต่แนวทางของเราหากไปอยู่ที่อื่นและสามารถแสดงออก หรือแสดงความคิดเห็นได้มากกว่าก็ควรไป แต่สำหรับบางคนที่ยังให้ความเห็นจะไปหรือไม่ไป เป็นเรื่องของการบำรุงสถานะความเป็น สส.อยู่ ยอมรับว่ามีความลำบากพอสมควร เพราะการตีความต่างๆมันผิด สาเหตุที่เชิญ สส.20คน ไปร่วมกินข้าวหารืออนาคตการเมือง ต้องไม่ลืมว่าตนมาร่วม รทสช.เพราะออกมาจากพรรคพลังประชารัฐด้วยกัน เรากินข้าวร่วมกันมา 5-6เดือนแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมากินตอนนี้ ทุกคนเป็นเพื่อนกัน เช่น สส.ชลบุรี สส.ฉะเชิงเทรา สส.ราชบุรี หรือจังหวัดอื่นๆ เรามาร่วมกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สาเหตุหนึ่งเกิดจากตนคิดว่า วันหนึ่งอยากไปทำการเมืองในพรรคของตัวเองและเป็นพรรคที่เหมาะสมกับตน ผมอยากจะเติมเต็ม สิ่งที่อยากทำให้กับประเทศชาติมากกว่านี้ ที่สามารถให้พวกผมเข้าไปกำหนดนโยบายได้ ไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว เรามาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน” นายสุชาติ ระบุ นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า หลังถูกสบประมาทว่าจะมี สส.ไปเพียง5-6คน รทสช.สามารถขับตนออกจากพรรคได้ ก็จะได้รู้ว่ามีกี่คน แต่ที่บอกว่า 5-6คน ก็อยากบอกว่า เป็นเพียงเสี้ยวเดียว
‘ธนกร-จิรวุฒิ’ลั่นยังไม่คิดย้ายพรรค
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการปรากฏชื่อและภาพถ่ายในงานเลี้ยง สส.จนถูกจับตามองว่าอาจเป็นอีกคนที่ย้ายไปอยู่พรรคที่มีกระแสข่าวในปัจจุบันว่า ตนแค่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์เท่านั้นและเพิ่งไปเป็นครั้งแรก ขอยืนยันว่า ยังรักและเคารพพรรครวมไทยสร้างชาติ เหมือนเดิม เพราะเป็นมรดกและมีดีเอ็นเอการทำงานจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนกระแสข่าวที่เกี่ยวกับพรรคใหม่นั้น ตนไม่มีความเห็นใดๆ
นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี เขต4 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ตนขอยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปพรรคใด จะขออยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อไปแน่นอน ส่วนข่าวที่ออกมาก็ว่ากันไป ซึ่งตนก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงมีชื่อตนอยู่ในกลุ่มด้วย ทั้งที่ไม่เคยแสดงออกว่าจะอยู่กับกลุ่มใด พร้อมย้ำว่าตนเป็นคนชัดเจน เมื่อเลือกมาทำงานกับพรรคแล้ว ก็ขออยู่ร่วมมือและช่วยเหลือกันกับพรรคอันเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังต่อไป เมื่อถามว่า อนาคตมีโอกาสไปร่วมงานกับพรรคอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคที่เป็นกระแสข่าวในปัจจุบัน นายจิรวุฒิ กล่าวว่า ตนย้ำอีกครั้งว่า ปัจจุบันยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ขออยู่กับพรรคไปจนครบวาระสมัย สส.นี้
รบ.ตีปี๊บแถลงใหญ่คอมเพล็กซ์4มิ.ย.
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 4 มิ.ย.นี้ รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง จะนำเสนอแผนงานการดำเนินการในโครงการ “THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก เพื่อคนไทยทุกคน” โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำเสนอรายละเอียด “ENTERTAINMENT COMPLEX” และเหตุผลที่ว่า ทำไมประเทศไทย ต้องถึงเวลาที่ต้องมีโครงการขนาดใหญ่ระดับโลก เพื่อเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
“ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนร่วมฟังแนวทาง และการดำเนินการในวันพุธที่ 4 มิถุนายน เวลา 15:00-16:00 น. ที่ ห้อง 402 ชั้น 4 ตึก 150 ปี กระทรวงการคลัง พร้อมรับฟังการแถลงข่าว ในทุกช่องทาง live: NBT connect /Facebook / Youtube”ฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี