วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ปกป้องอธิปไตยอย่าให้ใครรุกราน  แม่ทัพ2ปลุกใจทหาร  ‘ภูมิธรรม’ยังหวานใส่กัมพูชา

ปกป้องอธิปไตยอย่าให้ใครรุกราน แม่ทัพ2ปลุกใจทหาร ‘ภูมิธรรม’ยังหวานใส่กัมพูชา

วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : แม่ทัพภาค2 ไทย-เขมร ภูมิธรรม ช่องบก โฆษก ทบ. MOU43
  •  

ปกป้องอธิปไตยอย่าให้ใครรุกราน

แม่ทัพ2ปลุกใจทหาร

‘ภูมิธรรม’ยังหวานใส่กัมพูชา

ใช้สงครามเป็นบรรทัดสุดท้าย

โฆษกทบ.โต้สื่อเขมรใส่ร้าย

ตีข่าวไทยส่งโดรนสอดแนม

“ภูมิธรรม”แสดงจุดยืนกรณีเขมรกอด MOU2543 แน่น ท่องจำยึด“สันติวิธี” ไม่วางกำลัง-ไม่ปิดด่าน ใช้เจบีซียุติขัดแย้ง ด้านมท.ยันเตรียมพร้อมเข้มดูแลความปลอดภัยประชาชนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ประชุมด่วนซ้อมแผนอพยพจัดจุดปลอดภัยรองรับ รับมือหากเกิดรุนแรง ย้ำขอให้รับฟังข่าวสารจากราชการ อย่าตื่นตระหนก ขณะที่มทภ.2ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหารฐานภูมะเขือ สั่งเตรียมพร้อมตลอดเวลา ปกป้องอธิปไตย ชี้ประชาชนส่งแรงใจมาให้ พร้อมมอบเงิน500บ.และสิ่งของอุปโภคบริโภคส่วนเขมรฉะไทยรายวัน“ฮุนเซน”ประณามไทยก่อเหตุยิงปะทะชายแดน ซัดเป็นการละเมิดอธิปไตยเขมรร้ายแรง

เมื่อวันที่ 3มิถุนายน2568 ที่ท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีฯ ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีประเด็นปัญหาความขัดแย้งไทย – กัมพูชา ที่มีการรุกล้ำพื้นที่อ้างสิทธิ์ บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี รวมถึงเรื่องกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)


นายกฯหนีสื่อเลี่ยงตอบปมเขมร

โดยหลังจากนายกฯเดินทักทายผู้มาร่วมงาน ได้เดินเลี่ยงจุดที่สื่อมวลชนรอสัมภาษณ์ รวมถึงเลื่อนจุดขึ้นรถโดยเดินไปออกอีกทางหนึ่ง ซึ่งสื่อมวลชนได้วิ่งตามไปสอบถาม แต่นายกฯเพียงส่งยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถาม และขึ้นรถกลับทันที

“บิ๊กอ้วน”ท่องจำยึดสันติวิธี

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงจุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ตนบอกไปหลายครั้งแล้ว จุดยืนคือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง ยึดมั่นรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราพยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และหาช่องทางเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท ประสานงานทั่วถึงตลอดเวลากับกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่กองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูรายละเอียดมีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่บกพร่อง

กอดMOU43-JBCแก้ขัดแย้งชายแดน

ส่วนเรื่องเจรจา นายภูมิธรรมยืนยันว่า เราพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศว่าสิ่งที่เราอยากแก้ปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานพูดคุยกันตลอดทั้งวัน สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการใช้ความรุนแรง หรือสงครามมันจะหักไหม เป็นมาตรการสุดท้าย หลังการแก้วิกฤตต่างๆไม่สามารถเดินได้ แต่สิ่งสำคัญคือขณะนี้เริ่มต้นการเจรจา โดยยึด MOU 2543 และกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ในการแก้ไขปัญหา

ย้ำไม่มีการสั่งปิดด่าน-วางกำลัง

สำหรับการปิดด่านชายแดน นาภูมิธรรมกล่าวว่า ตนอยากทำความเข้าใจว่าเราไม่มีการสั่งปิดด่านชายแดน หรือมีการสั่งให้ปิดหรือเปิด และไม่ได้มีความขัดแย้งกันเรื่องนี้ เรื่องการปิดด่านชายแดน เป็นอีกหนึ่งมาตรการ ที่จะยกระดับการพูดคุย และตรงบริเวณด่านชายแดน ยังไม่มีเรื่องการวางกำลัง แต่เราเตรียมความพร้อมเอาไว้ ซึ่งการปิดด่านเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอยู่กับสถานการณ์ที่เป็นจริง และต้องเห็นตรงกันทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤต มันจะมีความเห็นและอารมณ์ มีเหตุผลปะปนกันไป แต่ทั้ง 3 หน่วยงาน ก็พูดคุยกันตลอด ถึงแม้ต่างคนจะมีมุมมองต่างกัน เราไม่อาจปล่อยให้การยกระดับต่างๆ เป็นไปตามอำเภอใจ แต่ทางถ้าต่างฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นการเจรจา มาถึงขั้นต้องปิดด่านก็ต้องปิดด่าน ยืนยันว่าการตัดสินใจทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดหรือคนใดคนหนึ่ง ไปยึดผลประโยชน์ที่เป็นอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง และยึดประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ

ใช้สงครามเป็นบรรทัดสุดท้าย

นายภูมิธรรม ยังยืนยันถึงความเป็นเอกภาพ และขอให้มั่นใจว่าหากมาถึงจุดสุดท้าย เราจะใช้สงครามเป็นบรรทัดสุดท้าย หากไปต่อไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เราต้องคำนึงถึงไม่ใช่แค่อารมณ์ ว่าอยากให้ทำอะไร แต่ต้องคำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็น เพราะหากยกระดับถึงขั้นสุดท้าย ที่เป็นสงคราม ก็คงไม่มีใครปรารถนา ถึงแม้แนวหน้าทั้งทหารและประชาชนพร้อมปกป้องประเทศ แต่เราต้องคำนึงถึงชีวิตและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้นถ้าเราหลีกเลี่ยงได้มากที่สุด เราก็ต้องหลีกเลี่ยง

ส่วนกรณีกัมพูชาเตรียมหยิบยกพื้นที่อ้างสิทธิ์ สามเหลี่ยมมรกต ขึ้นสู่ศาลโลกไทยเตรียมความพร้อมเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายภูมิธรรมชี้แจงว่า ตอนนี้ต่างฝ่ายจะพูดอะไรก็ได้ แต่กระบวนการเจรจาเป็นไปตามขั้นตอน การพูดเชิงอารมณ์หรือความรู้สึกของแต่ละบุคคลไม่อาจเป็นหลักฐาน ไปใช้ในระดับต่างๆได้ ตนคิดว่าหัวใจสำคัญคือเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน ถ้าการเจรจามันจบ ซึ่งเคยเกิดขึ้นก็ไม่มีอะไร

มท.สั่งผู้ว่าฯชายแดนเตรียมพร้อม

ขณะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาและส่งผลให้ด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่อื่น ต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้นด้วยนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีข้อกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีที่ตั้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียงดำเนินการตามภารกิจการดูแลความมั่นคงภายใน ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยของประชาชน ล่าสุด มีรายงานจากพื้นที่มายังนายอนุทินว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆได้จัดประชุมเตรียมพร้อมร่วมกับนายอำเภอฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับกรณีสถานการณ์มีความรุนแรงจนกระทบความปลอดภัยของประชาชน

ผู้ว่าฯอุบลฯถกแผนอพยพปชช.

โฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวต่อว่า ส่วนจ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 2มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าที่พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ประชุมการเตรียมความพร้อมรองรับการอพยพของประชาชนอ.น้ำยืน โดยที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ จำนวนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ชี้แจงแผนอพยพประชาชน กำหนดจุดรวมพลและจุดพักพิงในพื้นที่ปลอดภัยตลอดจนการดูแลประชาชนในจุดพักพิง ให้ทุกขั้นตอนปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่จ.ศรีสะเกษเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษจัดประชุมเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุของศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยร่วมประเมินสถานการณ์ปรับปรุงแผนเผชิญเหตุกำหนดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าหน้าที่ เตรียมกำลังพลให้พร้อมปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

“กระทรวงมหาดไทยเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนสถานการณ์แนวชายแดนมีทหารดูแลใกล้ชิด ยังไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นอีก ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก อย่าหลงเชื่อข่าวลือให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

มทภ.2ให้กำลังใจทหารฐานภูมะเขือ

ที่ภูมะเขือ ต.หนามแท่ง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการภูมะเขือ เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บนฐานโดยอัญเชิญพระพุทธรูป สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) ขึ้นไปประดิษฐานบนฐานปฏิบัติการภูมะเขือ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับทางผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาผืนแผ่นดินไทย

พล.ท.บุญสินกล่าวให้โอวาทและกำลังใจทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่บนฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท เตรียมพร้อมตลอดเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราเป็นการทำหน้าที่เพื่อรักษาอธิปไตยไม่ให้ใครมารุกราน ขณะนี้ประชาชนได้ส่งกำลังใจมาให้พวกเราที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดนให้มีขวัญและกำลังใจที่ดี ปฏิบัติภารกิจสิ่งใดขอให้สำเร็จลุล่วง โดยมีประชาชนมอบรถไถให้ทหารเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ตามชายแดน

มอบพระหลวงปู่ทวด-เงิน500บ.ให้ทหาร

จากนั้นแม่ทัพภาค 2 พร้อมผู้บังคับบัญชาได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม มาม่า ปลากระป๋อง พร้อมมอบเหรียญหลวงพ่อโชคดี เหรียญหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน และมอบเงินทหารทุกนายคนละ 500 บาท หรือประมาณ 60,500 เรียลกัมพูชา

ยุคนายกฯอิ๊งค์ระวังเสียตาเมือนธม

มีความเห็นจากหลายฝ่ายต่อปัญหาขัดแย้งไทย-เขมร อาทิ นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความว่า ระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอย2556 สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯเสียพระวิหาร รอบสองพ.ศ. 2568 นายกแพทองธาร ชินวัตร อาจเสียปราสาทตาเมือนธม ทั้งทางบกยันกลางทะเลถึงเกาะกูด?

เสธ.โหน่งเตือนอย่าหลงเหลี่ยมเขมร

พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ และอดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่าเรื่องกัมพูชาไทยแค่ป้องกันตัวให้ดี ไม่หลงเหลี่ยมเสียเปรียบก็ใช้ได้เหตุที่เกิดมาจากการเมืองภายในของเขา เราแค่ยืนยันเรื่องเขตแดนของเราที่มีสิทธิจะอ้าง

“ใครล้ำเข้ามาไม่ยอมถอยก็จำเป็นต้องผลักดันเพื่อไม่ให้ถูกถ่ายรูปเอาไปใช้ภายหลังได้อย่าหลงทางกับคำว่าพื้นที่ทับซ้อนจนลืมอ้างสิทธิ แต่กัมพูชาจะรุกเข้ามาอ้างสิทธิเสมอจนเสียท่าเกิดในอนาคตมีรัฐบาลไหนหลงเหลี่ยมไปขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเข้าจะเสียรู้เหมือนกรณีเขาพระวิหาร”พล.ท.พงศกรกล่าว

ย้ำเขมรแหย่อะไรมาต้องไม่นิ่ง

และว่า ข้ออ้างของเขมรเราจำเป็นต้องแถลงตอบโต้ไว้เป็นหลักฐาน พยานทุกเม็ด การนิ่งในทางการเมืองและทางกฎหมายแสดงว่ายอมรับแหย่อะไรมาต้องไม่นิ่งเฉยในเรื่องบูรณภาพแห่งดินแดน มีโอกาสดีแล้วเพื่อไม่ให้มีข้อขัดแย้งเข้าใจผิดอะไรอีก การประชุม JBC ที่จะมาถึงก็ให้ปักปันเขตแดนให้เสร็จเสียเลยจะดีหรือไม่ ไม่ควรปล่อยไว้เป็นปัญหา ทีนี้คำว่าพื้นที่ทับซ้อนและเส้นอ้างสิทธิจะได้จบลงไป และอย่าลืมแถลงการณ์ร่วมจะได้มัดให้พูดตรงกันไม่มีงานงอกออกมาเองอีกแต่กัมพูชาคงไม่ยอมง่ายๆ

ทบ.ปัดส่งโดรนล้ำแดนเขมร

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวว่า สำนักข่าวของกัมพูชารายงาน โดยอ้างรายงานจากชายแดนในบ่ายวันจันทร์ (2 มิ.ย.) ว่า ทหารกัมพูชาที่ประจำอยู่แนวหน้าใน จ.พระวิหาร ได้สกัดโดรนที่บินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการลาดตระเวนและจากการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า ทหารไทยได้ส่งโดรนดังกล่าวเข้ามารวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธของกองทัพกัมพูชานั้นว่า ไม่จริงและการใช้โดรนปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติ การใช้โดรนในพื้นที่ดังกล่าวต่างฝ่ายก็ใช้กันทั้งไทยและกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน การใช้โดรนจึงไม่สามารถรู้ได้ว่า รุกล้ำเขตแดนของใครหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ไทยเราไม่มีการส่งโดรนเข้าไป และโดรนดังกล่าว ก็ไม่ใช่ของไทย การเคลื่อนกำลังพล หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพกัมพูชา มีให้เห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียเต็มว่อนไปหมด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โดรน การดูข่าวสารจากฝั่งกัมพูชาช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง

ฮุนเซนประณามไทยโจมตีชายแดน

สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานอีกว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์ข้อความพร้อมแนบถ้อยแถลงจากสมาชิกรัฐสภาและวุฒิสภากัมพูชา แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่กองกำลังของราชอาณาจักรไทยใช้อาวุธโจมตีฐานทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต เนื้อหาในถ้อยแถลงสรุปว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างร้ายแรง อีกทั้งฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศชัดเจน ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนด้วยสันติวิธีผ่านช่องทางการทูตมาตลอดโดยสว.และสส.ของกัมพูชา ต่างประกาศจุดยืนร่วมกันปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ พร้อมสนับสนุนท่าทีและมาตรการของรัฐบาลทุกเวที ไม่ว่าจะเป็นระดับทวิภาคีหรือพหุภาคี พร้อมชื่นชมสมเด็จฯ นายกรัฐมนตรี ที่ยังคงยึดมั่นแนวทางสันติและการใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือหลักแก้ปัญหา โดยเฉพาะการดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา

ตอนหนึ่งของถ้อยแถลงยังประณามการกระทำของกองกำลังไทยว่าเป็นการรุกรานและละเมิดอธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้ไทยยุติพฤติกรรมดังกล่าวทันที และหันมาใช้กระบวนการเจรจาสันติเป็นแนวทางหลัก

สภาเขมรร้ององค์กรระหว่างปท.

รัฐสภากัมพูชายังส่งสารไปยังประชาคมระหว่างประเทศ องค์กรสิทธิมนุษยชนและรัฐภาคี เพื่อขอแรงสนับสนุนในการยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น และผลักดันการหาทางออกด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ รวมถึงเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคโดยรวมทั้งนี้ คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยเขตแดน (JBC) และคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (GBC) ยังคงเป็นกลไกสำคัญที่ทั้งสองประเทศต้องพึ่งพาในการเจรจาและแสวงหาข้อยุติต่อข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอย่างสันติและยั่งยืน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ทบ.โต้ทันควัน! เหตุปะทะ‘ช่องบก’ทหารกัมพูชายิงก่อน ทบ.โต้ทันควัน! เหตุปะทะ‘ช่องบก’ทหารกัมพูชายิงก่อน
  • ‘ภูมิธรรม’ขอความร่วมมือปชช.งดแชร์ข้อมูลปฏิบัติทางทหาร หวั่นสร้างความสับสนเพิ่ม ‘ภูมิธรรม’ขอความร่วมมือปชช.งดแชร์ข้อมูลปฏิบัติทางทหาร หวั่นสร้างความสับสนเพิ่ม
  • แถลงการณ์ฉบับ 2! รัฐบาลยันไม่ยอมรับ‘ศาลโลก’ ยึดกรอบ‘เจบีซี’แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แถลงการณ์ฉบับ 2! รัฐบาลยันไม่ยอมรับ‘ศาลโลก’ ยึดกรอบ‘เจบีซี’แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
  • ‘ภูมิธรรม’ยกคณะบินด่วนไปสระแก้ว หารือ‘เตีย เซยฮา’แก้ข้อขัดข้องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ‘ภูมิธรรม’ยกคณะบินด่วนไปสระแก้ว หารือ‘เตีย เซยฮา’แก้ข้อขัดข้องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
  • ‘ผบ.กองเรือฯ’เกาะติด‘กัมพูชา’ซ้อมรบใกล้‘เกาะกูด’ ขอปชช.มั่นใจทหารพร้อมเสียสละ ‘ผบ.กองเรือฯ’เกาะติด‘กัมพูชา’ซ้อมรบใกล้‘เกาะกูด’ ขอปชช.มั่นใจทหารพร้อมเสียสละ
  • \'ทบ.\'ชวนคนไทยติดแฮชเท็ก\'ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด\'เป็นขวัญกำลังใจให้ทหาร 'ทบ.'ชวนคนไทยติดแฮชเท็ก'ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด'เป็นขวัญกำลังใจให้ทหาร
  •  

Breaking News

โหร‘AI’ไขดวงชะตา! ‘ChatGPT’ที่พึ่ง‘ไทยสายมู’ยุคดิจิทัล

อนุสาวรีย์แห่งการโกง! ‘สรรเพชญ’ติดตามคืบหน้า‘อควาเรียมหอยสังข์’

'มทภ.2'ลั่น!อดทนถึงที่สุด ถ้าต้องใช้กำลังก็พร้อมรักษา'แผ่นดินไทย'

นักวิชาการ มธ.แนะรัฐปรับการสื่อสารใหม่ ชี้บรรยากาศ‘ไทย-กัมพูชา’เข้าข่ายวิกฤตแล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved