‘อังคณา’ฉะ‘สมศักดิ์’ วีโต้ป้อง‘นายใหญ่’ไร้ผลต่อการพิจารณาคดี‘ทักษิณ’ ในศาลฎีกา เชื่อ​ ผลสอบ ‘แพทยสภา’ มีน้ำหนัก

‘อังคณา’ฉะ‘สมศักดิ์’ วีโต้ป้อง‘นายใหญ่’ไร้ผลต่อการพิจารณาคดี‘ทักษิณ’ ในศาลฎีกา เชื่อ​ ผลสอบ ‘แพทยสภา’ มีน้ำหนัก

วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 13.03 น.

‘อังคณา’ชี้ ‘สมศักดิ์’ วีโต้ป้อง ‘นายใหญ่’ ไร้ผลต่อการพิจารณาคดี ‘ทักษิณ’ ในศาลฎีกา เชื่อ​ ผลสอบ ‘แพทยสภา’ มีน้ำหนักต่อเรื่องนี้​ หวังพิจารณาโดยนำกรณีอื่นมาเป็น ‘บรรทัดฐาน’ ด้วย​ ยกเคสป่วย ‘มะเร็งระยะสุดท้าย’​ ยังไม่ได้ออกมารักษารพ.ข้างนอก

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลการ วีโต้ มติแพทยสภา​ อาจลดทอนน้ำหนักหลักฐานการพิจารณาคดีของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย. ในคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า มติของแพทยสภาไม่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณหรือราชทัณฑ์ มติของแพทยสภานั้น​ มีหน้าที่กำกับดูแลแพทย์ ดังนั้นมติที่ออกมาจึงเป็นการกล่าวถึงการป่วย ของนายทักษิณ ว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ ในการเข้ารักษาแบบพิเศษที่ชั้น 14 จากผู้เชี่ยวชาญ คนที่เคยไปโรงพยาบาลของราชทัณฑ์​ ก็จะทราบว่า เป็นโรงพยาบาลที่มีความทันสมัยและสามารถรักษาโรค ซับซ้อนได้ ดังนั้น​ หากกรณีของนายทักษิณ ไม่มีความเจ็บป่วยจนถึงขั้นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ในการรักษาตัวเช่นที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจมองว่าเรื่องนี้อาจถูกเลือกปฏิบัติต่อนักโทษ หรือผู้ต้องขังรายอื่น หากย้อนกลับไปดูจะพบว่าบางคนใช้เครื่องช่วยหายใจก็มี หรือบางรายเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายออกไปทำครีโมข้างนอกก็กลับเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 


"นายทักษิณ ไม่ได้ป่วยวิกฤติ​ เพราะการป่วยวิกฤต ต้องถึงขั้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้ แต่ ปกติแล้วเมื่อโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้ ก็จะขอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามารักษา" นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวว่า​ การวีโต้กลับของนายสมศักดิ์ นั้นไม่มีผลต่อการพิจารณาของศาลฎีกา​ในวันที่ 13 มิถุนายน​ ​นี้​ และจริงๆแล้วนายสมศักดิ์​ ไม่ควรที่จะวีโต้ เพราะหากไม่เคารพต่อมติของแพทยสภา ที่ประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ​ ที่มีความอาวุโส​ มองว่าจะเป็นบรรทัดฐาน ที่เมื่อมีอะไรแล้วไปฟ้องรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีวีโต้กลับ​ จะมีแพทยสภาไว้ทำไม และใครจะเป็นผู้กำกับจริยธรรมแพทย์ให้มีมาตรฐานเดียวกัน

"ที่จริงแล้วสังคมตั้งคำถาม และข้อสงสัยมานานแล้วว่าคุณทักษิณป่วยจริงไหม เพราะว่าออกจากโรงพยาบาลคุณทักษิณก็ทำกิจกรรมอะไรต่อมิอะไรได้ สิ่งเหล่านี้ควรเปิดเผย เมื่อคุณอ้างสิทธิความเป็นส่วนตัว ที่จะไม่บอกว่าเป็นโรคอะไรแต่ความเป็นบุคคลสาธารณะควรทักษิณควรที่จะสละความเป็นส่วนตัวเพื่อประโยชน์สาธารณะด้วย" นางอังคณากล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามติแพทยสภาที่รอยืนยันกลับในวัน 12 มิ.ย.นี้ จะไม่มีผลต่อการพิจารณาของศาลในวันที่ 13 มิ.ย.นี้หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่มีผล เพราะศาลจะพิจารณา ว่านายทักษิณป่วยหนัก หรือไม่และป่วยถึงขนาดที่จะต้องออกมารักษาหรือนอนที่ชั้น 14 ที่ไม่มีใครรู้เลยว่านอนยังไง เพราะนักโทษบางคนหากไม่มีเจ้าหน้าที่คุมตัวบางรายต้องล่ามโซ่ที่ขาติดไว้กับเตียง ส่วนนี้เราไม่ชอบและไม่อยากให้มี

เมื่อถามถึงการไต่สวนของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้​ นางอังคณา กล่าวว่า ยังเดาใจศาลไม่ได้ แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก นายทักษิณได้จำคุกหรืออยู่ในสภาพที่เจ็บป่วย และจำเป็นต้องได้รับการดูแลพิเศษ เช่น ชั้นที่ 14 จริงหรือไม่​ มองว่าศาลจะดูในลักษณะเช่นนี้ พร้อมมองว่า​ การตรวจสอบของแพทยสภา ถูกนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานว่า​ นายทักษิณ​ ไม่ได้มีภาวะอาการเจ็บป่วยถึงขั้นที่จะต้องเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ​ แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ปกติก็สามารถรักษาได้ คิดว่าศาลจะชั่งน้ำหนักดูเรื่องสัดส่วน และหวังว่าศาลจะพิจารณาโดยนำกรณีอื่น มาพิจารณาเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ว่า​ ต่อไปเมื่อมีนักโทษ ท่านอื่นที่ไม่ใช่นายทักษิณที่เจ็บป่วยมากและขอรักษาตัวนอกกรมราชทัณฑ์จะเป็นไปได้หรือไม่ 

"หากไม่มีภาวะเจ็บป่วยถึงขนาดนั้นตรงนี้ต้องระวัง คนที่เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นพ่อนายกฯ เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จริงหากนายทักษิณเปิดเผยว่าเจ็บป่วยอะไรก็คงไม่มีใครสงสัย" นางอังคณา กล่าว

เมื่อถามว่า วันที่ 13 มิ.ย.นี้การเมืองจะเปลี่ยนเลยหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า อาจไม่ถึงจุดหักเหที่จะเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จากที่ควรเปลี่ยนมานานแล้ว เพราะปัญหาจากการบริหารประเทศของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เช่นปัญหาเรื่องการตัดสินใจ และปัญหารอบด้านทั้งที่กัมพูชา และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่แก้ไม่ได้สักอย่างเดียว ส่วนนี้นายกฯควรพิจารณาตนเองด้วย - 002

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top