แม้แต่มิลเดียวก็จะไม่ยอมเสีย!‘อนุทิน’ปลุกเลือดรักชาติในตัวคนไทย ร่วมผนึกกำลังปกป้องอธิปไตยบ้านเมือง โชว์ความเป็น‘ปึกแผ่น’ให้‘ฝ่ายตรงข้าม’เห็น ลั่นการเมืองเป็นเรื่องสุดท้าย วันนี้มีแต่พวก ไม่มีพรรค ทุกอย่างเรียบร้อยค่อยไปฟัดกันใหม่ ยัน‘มหาดไทย’พร้อมเป็นแนวหลังหนุนแนวหน้า‘รั้วของชาติ’ กำชับ‘ผู้ว่าฯ’หากต้องอพยพ ดูแลประชาชน-ครอบครัวทหารหาญ เหมือน‘บ้านหลังที่2’ สั่งห้าม‘พ่อเมือง’ออกนอกพื้นที่จนกว่าจะสงบ ยังหวังสัมพันธ์ 2 ประเทศคืนมาแบบยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ไร้เสียเปรียบ เชื่อคลี่คลายได้แน่นอน
8 มิถุนายน 2568 เวลา 12.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง และคณะ ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ โดยมีกองกำลังทหาร กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงสส.ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงของทั้งพรรคภูมิใจไทย อาทิ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี , นายสุทธิชัย จรูญเนตร สส.อุบลราชธานี , นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย และพรรคการเมืองอื่น ได้แก่ นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง , นายสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี พรรคไทรวมพลัง ซึ่งเป็นสส.ในพื้นที่รับผิดชอบอ.น้ำยืน มาร่วมลงพื้นที่ และให้การต้อนรับ
นายอนุทิน ขึ้นกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า จะเห็นได้ว่ามีสส.ใน จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงของพรรคภูมิใจไทย และสส.จากพรรคอื่น มาร่วมลงพื้นที่กับเราด้วย แสดงให้เห็นว่า วันนี้พรรคไม่มี มีแต่พวก มีแต่คนไทยเท่านั้น วันนี้การเมืองเป็นเรื่องสุดท้าย เรื่องทุกข์สุขของประชาชน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด วันนี้การเมืองก็ต้องผนึกกำลังป้องกันบ้านเมือง ป้องกันประเทศไทย ป้องกันประชาชนให้ปลอดภัยจากอันตรายทุกสิ่ง ทุกอย่างเรียบร้อยค่อยไปฟัดกันใหม่ วันนี้ขอกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความรักกันก่อนเพื่อประชาชน เรามาที่นี่ไม่มีเรื่องอื่นเลย มาด้วยหัวใจ ต้องมาให้เห็นกับตาว่าทุกคนยังมีจิตใจเข้มแข็งมีกำลังใจ มีความมั่นคง
“เชื่อมั่นว่าทหารของเราจะปกป้องดูแลอธิปไตยของไทยได้อย่างเต็มที่ เราต้องรวมกำลังใจส่งไปยังพี่น้องทหารหาญของเรา ที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณชายแดน รับรองว่าจะไม่ให้รุกรานเข้ามา อย่าว่าแต่ตารางนิ้วเดียวเลย มิลเดียวก็เข้ามาไม่ได้” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนเชื่อมั่นในเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาทหาร ตนได้คุยกับบรรดาผู้บังคับบัญชาของทหารระดับสูงแล้ว ได้ทำความเข้าใจ ยืนยันความพร้อมของกระทรวงมหาดไทย ที่จะให้ความร่วมมือในการตรึงแนวหลังดูแลประชาชน โดยเฉพาะครอบครัวของทหารหาญที่คอยตรึงกำลังป้องกันประเทศอยู่แนวหน้า เพื่อไม่ให้เขาวิตกกังวลใดๆ จะได้ดูแลรักษาบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันทางน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ส่งความห่วงใยมามอบให้ประชาชนชาวอุบลราชธานี และสั่งการให้ตนมาพบปะประชาชนในพื้นที่ วันนี้เต็มที่ทั้งใจ เต็มที่ทั้งภารกิจที่จะต้องทำให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจที่ดี ตนถามชุด ชรบ.ในพื้นที่ว่ากลัวหรือไม่ ซึ่งเขาตอบมาว่ากลัว ตนก็ตกใจ แต่เว้นไปสัก2วินาที เขาตอบมาว่ากลัวที่ไหนล่ะ มันสะท้อนจิตใจของประชาชนคนไทยทุกคน คนไทยเราพอเริ่มมีภัย เริ่มมีการรุกรานเมื่อไหร่ ตนยังไม่เคยเห็นคนไทยบอกว่ากลัวเลย เพราะคำว่ากล้าหาญมันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว โดยเฉพาะความกล้าหาญในการรักษาอธิปไตย ต้องขอชื่นชมทุกฝ่าย
รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนประเทศที่เรากำลังมีปัญหามาครบหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกจังหวัดพร้อม อุบลราชธานี ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมตรึงไว้ให้เพื่อให้มั่นใจว่าแนวหลังมีความพร้อม มีความปลอดภัย ขอให้มั่นใจ ตนจะมอบอำนาจเต็มให้กับผู้ว่าฯในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในการดูแลให้เกิดความมั่นใจ ทั้งความปลอดภัย คุณภาพชีวิต หากมีความจำเป็นที่จะต้องออกมายังที่พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ก็จะไม่รู้สึกแตกต่างจากการใช้ชีวิตประจำวันปกติ ตนยืนยันว่า หากต้องไปถึงจุดที่ต้องอพยพ หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย จะดูแลเคหะสถานของประชาชนเหมือนบ้านของเราเอง ไม่ต้องกังวล ขอให้ชีวิตปลอดภัยไว้ก่อน
นอกจากนี้ตนได้สั่งการผู้ว่าฯว่าศูนย์พักพิงชั่วคราว ต้องไม่ใช่เพียงที่ซุกหัวนอน แต่ต้องเป็นบ้านหลังที่2 มีความสะดวก มาตรฐานถูกสุขอนามัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคจะต้องมีมาตรฐาน สมกับเป็นศักดิ์ศรีของคนไทยในยามที่สถานการณ์ไม่ปกติ ขณะเดียวกันประชาชนมีอะไรก็บอกสส.ในพื้นที่ของตัวเองได้เลย เพราะมีอยู่เต็มที่ เที่ยวนี้จะได้ใช้งานผู้แทนฯ ใช้กันจนไม่มีคำว่าเหนื่อย สถานการณ์แบบนี้จะพิสูจน์ความไว้วางใจของประชาชนที่ได้เลือกมา
“ท่านนายกฯฝากบอกผมมา ท่านเรียกผมบางทีก็ท่านรองฯ บางทีโทรศัพท์มาก็เรียกอาหนู บอกพ่อแม่พี่น้องด้วย อิ๊งค์เป็นห่วง ส่งกำลังใจมาให้ ฝากบอกประชาชนว่านายกฯเป็นห่วง จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนดังกล่าวถือว่าเป็นผู้เสียสละ เพราะความอดทนอดกลั้น ไม่ออกมาประท้วงว่ากล่าวรัฐบาล ถือว่าทำให้ขวัญกำลังใจคนทำงาน และประชาชนทั่วประเทศมั่นใจว่าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายเกินไปกว่าที่เราจะควบคุมได้ นายกฯทราบดีถึงความอดทน อดกลั้น เสียสละ จึงสั่งการให้ผมมาดูว่ามีอะไรขาด เราจะเติมเต็ม จนไม่เหลือ ถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล ผมขอบคุณความร่วมมือที่มอบให้กับรัฐบาล ท่านไม่ต้องห่วง วันนี้ไม่มีใครที่จะคิดว่าเราจะต้องยอม หากประเทศไทยจะต้องสูญเสียอะไร เราไม่มีทางยอม ถ้ายอมแล้ว ประชาชนเดือดร้อน ยอมแล้ว ดินแดนเราเสียหายไป ยอมแล้ว ศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยหายไป ตรงนี้เราเลยจุดนั้นมาแล้ว เราจะต้องต่อสู้พิทักษ์รักษาบ้านเมืองของเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีใครคิดต่าง 1 มิลก็เข้ามาไม่ได้ ทหารฝ่ายทหารก็บอกว่าไม่มีวันยอม เพราะเรื่องนี้สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราไม่เชื่อในเรื่องของการสู้รบ หรือศึกสงคราม เรายังมีความหวังว่าความสัมพันธ์อันดีของทั้ง2ประเทศจะได้กลับมา แต่ไม่ใช่กลับมาเพราะเราไปยอมหรือเสียเปรียบ เราจะไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านั้น ต้องเข้าใจกันด้วยความยุติธรรมทั้ง2ฝ่าย แถลงการณ์ต่างๆจากแต่ละประเทศก็ยังเชื่อว่าความสัมพันธ์ของทั้ง2ประเทศตั้งแต่ในอดีตที่จะทำความเข้าใจให้เกิดขึ้น ในสายตาของตน ตนเชื่อว่าเราจะหาทางออกได้อย่างแน่นอน เราจะไม่ทิ้งกันแน่นอน ทางผู้ว่าฯในพื้นที่ติดชายแดนที่เกี่ยวข้องจะไม่ได้รับการอนุมัติจากปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ออกนอกพื้นที่ ต้องอยู่ในจังหวัดของตัวเอง จนกว่าสถานการณ์จะสงบ ตนจะไม่เรียกประชุมในกทม.เป็นอันขาด หากมีการเรียกประชุมจะใช้ทางระบบออนไลน์แทน
“ผมโตมาทันตอนที่ประเทศของเรามีศึกสงครามสมัยก่อนกับคอมมิวนิสต์ ผ่านยุคนั้นมากำลังห้าว กำลังเข้าเป็นวัยรุ่นฟังเพลงปลุกใจมาโดยตลอด เดี๋ยวนี้พี่น้องลองเปิดยูทูปฟังเพลงปลุกใจ แต่ละเพลงมันจะทำให้รักชาติ หวงแหนบ้านเมืองของเรา เพราะฉะนั้นบางทีต้องรู้สึกครั้งหนึ่งในชีวิต เราสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยราชอาณาจักรของเรา ครั้งหนึ่งในชีวิตมันก็ไม่เสียชาติเกิด การปกป้องรักษาบ้านเมืองเป็นหน้าที่ของทุกคน การให้ความร่วมมือกับทางการก็เป็นการช่วยรักษาบ้านเมืองอย่างหนึ่ง ทุกคนให้ความร่วมมือกับทางการก็แปลว่าประชาชนสมัครสมานสามัคคีในยามมีศึกสงคราม เป็นการแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าความเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวของประชาชน เราต้องไม่ทะเลาะเบาะแว้งเตะตัดขากันเอง ช่วงนี้เราต้องรักกัน เชื่อเถอะว่าการเมืองต้องมีความสมัครสมานสามัคคี แม้กระทั่งในรัฐบาล ถ้าเป็นเรื่องของการปกป้องบ้านเมือง ทุกคนเห็นไปในทางเดียวกันหมด เราต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ก็ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัดเป่าภัยภยันตรายทั้งหลายให้พ้นไปจากตัวท่านและครอบครัว ขอให้บารมีเหล่านี้นำความร่มเย็นเป็นสุขกลับมาอีกครั้งโดยเร็ว” นายอนุทิน กล่าว ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี