“ทวี” เผยศาลฎีกาฯไต่สวน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในฐานะพยานบอกเล่า ส่วนกรณีเรือนจำฯ ส่งตัว “ทักษิณ” รักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยไม่ผ่านรพ.ราชทัณฑ์ ยังไม่ทราบรายละเอียด ให้รอศาลไต่สวน
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนนัดแรก กรณีความปรากฏการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการถูกส่งตัวออกรักษานอกเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยศาลฎีกาฯ ได้ไต่สวนพยาน 1 ปาก คือนายมานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (คนปัจจุบัน) พร้อมได้มีหมายเรียกไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 20ปาก ว่าโดยหลักการพวกเราต้องเคารพศาล โดยเฉพาะตอนนี้ศาลค้นหาความจริงเป็นระบบไต่สวน อย่างน้อยที่สุดศาลได้ส่งปรัชญาที่ดีว่าศาลจะรับฟังพยาน เช่น ศาลได้มีการเรียกไต่สวนถึง 20 คนในส่วนของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แสดงว่าศาลต้องการที่จะค้นหาความจริง ซึ่งเราก็จะไม่ไปก้าวล่วง ขอให้ทุกคนเคารพ โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรม เราต้องเคารพในการดำเนินการ ไม่อาจจะไปวิจารณ์อะไรได้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่นายมานพ ถูกไต่สวนกรณีที่เรือนจำฯ ส่งตัวนายทักษิณ ออกไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ผ่านทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในขณะที่กรณีอื่นต้องผ่านทัณฑสถานโรงพยาบาลฯ ก่อนนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร แต่นายมานพ ก็เหมือนตน เป็นพยานบอกเล่า ศาลคงจะฟังประจักษ์พยาน ซึ่งประจักษ์พยานต้องเป็นผู้บัญชาการเรือนจำคนที่แล้ว แต่ในฐานะที่เคยเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรือนจำทั้งหมดภายในประเทศประเทศไทย เราไม่มีโรงพยาบาล โดยเฉพาะเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีข้อตกลงกับโรงพยาบาลตำรวจซึ่งเป็นเรื่องการส่งตัวออกไปยังโรงพยาบาลก็มีกฎหมายระเบียบ มีกฎกระทรวงรองรับอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมอยากรอให้ศาลไต่สวนประจักษ์พยานก่อน เพราะนายมานพ เป็นผู้บัญชาการเรือนจำที่เพิ่งย้ายมาใหม่
เมื่อถามว่า มีการตั้งคำถามถึงกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 โดยเฉพาะกรณีนายทักษิณ ที่ได้ไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 180 วัน ช่วงนั้นมีผู้ต้องขังเจ็บป่วยรายใดอีกอื่นหรือไม่ และพวกเขาเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า อันนี้สื่อถามเองใช่หรือไม่ เพราะไม่มีใครสงสัยตรงนี้ ขอให้ศาลได้ไต่สวนก่อน เพราะเรื่องพวกนี้มีการอภิปรายได้มีการพูดคุยไปแล้ว และเรื่องที่ปรากฏก็เป็นเรื่องที่อยู่ในกรรมาธิการอยู่แล้ว เราได้ชี้แจงไปแล้ว โดยเรือนจำจะมีแนวทางการดำเนินการตามระเบียบ โดยเฉพาะทุกเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ มีโรงพยาบาลเครือข่าย และโรงพยาบาลที่ทำข้อตกลง ซึ่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานครทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลตำรวจ
ต่อข้อถามว่าถือเป็นเรื่องไม่ผิดปกติใช่หรือไม่ที่เรือนจำฯ จะส่งตัวผู้ต้องขังป่วยออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำที่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ผ่านทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า รอให้ศาลท่านพิจารณาก่อน ส่วนรายละเอียดก็ขอให้ศาลได้ไต่สวนก่อนเมื่อถามย้ำว่าหากตัดเรื่องการป่วยวิกฤตหรือไม่ออกไปก่อน แต่เรือนจำฯ ได้ดำเนินการเช่นนั้นเพราะเป็นมาตรการดูแลรักษาพยาบาลและความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของผู้ต้องขัง เพราะหากเกิดอันตรายขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ราชทัณฑ์หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญปี 2560 ขึ้นมา ก็บอกว่าเราต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมาย อย่างกฎหมายไทยเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร ก็มีการปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี