อัยการฟ้องฎีกาเอาผิด‘กปปส.’สถานหนัก ‘ถาวร’ประกาศไม่หนี พร้อมสู้ต่อ
16 มิถุนายน 2568 นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. โพสต์หมายศาล ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องชั้นฎีกาในคดีที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. เป็นจำเลยที่ 1 กับแกนนำ กปปส. รวม 39 คน พร้อมข้อความ ระบุว่า...
“สู้กันต่อไป”
นับตั้งแต่ วันที่ 31 ตุลาคม 2556 จนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
เป็นเวลา 204 วันที่ แกนนำ กปปส ร่วมกับมวลมหาประชาชนนับล้านๆคนได้ร่วมกันต่อสู้ กับระบอบทักษิณ ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เพื่อช่วยเหลือนายทักษิณ และนักการเมืองที่ทุจริตคนอื่นๆ รวมถึงการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และเรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง
ผลที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ในครั้งนั้น พวกเราเสียชีวิตจากการต่อสู้ 24 คน บาดเจ็บ 800 กว่าคน เกิดผลตามมาคือ มีเด็กกำพร้า หญิงหม้าย ผู้พิการทุพพลภาพ ติดคุกไปหลายสิบคน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปจำนวนมาก
แกนนำถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตั้งแต่ 8 เดือนถึง 8 ปี ส่วนผมศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 5 ปี เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว ผมยื่นประกันตัว ผมต้องนอนในเรือนจำ 3 วัน 2 คืน ในระหว่างรอคำสั่งศาลอนุญาตให้ประกันตัวศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก 1 ปี
วันนี้ที่ 15 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ศาลได้นำสำเนาคำฟ้องในชั้นฎีกาของอัยการและหมายของศาลไปปิดที่บ้านผม แสดงว่าอัยการไม่พึงพอใจในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ อัยการจึงฎีกาขอให้ลงโทษผมกับพวกในสถานหนักตามที่อัยการสั่งฟ้อง และยื่นฟ้อง นั่นคือ ข้อหา ก่อการร้าย กบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นต้น ต่อจากนี้ผมก็จะแก้ฎีกา และ ยื่นฎีกา เพื่อให้ศาลยกฟ้อง ด้วยเหตุผลว่าผมไม่ได้กระทำผิด ผมทำไปเพื่อต่อสู้กับการเมือง นักการเมืองทุจริต ตามหน้าที่ของพลเมืองที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ผมจะไม่หลบหนี เดินเข้าสู่การดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี