ขอ'อิ๊งค์'ช่วยคุ้มครอง-หลังถูกคดีฮั้วสว.
‘หนู’โอดเล่นกันแรง
ครวญรบ.ไหนก็ไม่เคยมี
ยุครปห.‘แม้ว’ยังไม่เท่านี้
ภท.ลั่นฟ้องกลับชุดไต่สวน
เชื่อเป้าหมายหวังยุบพรรค
“อนุทิน”ขอนายกฯช่วยคุ้มครอง โอดทำไมเล่นกันแรงขนาดนี้ โดนหมายเรียกคดีฮั้วสว.โฆษกภท.มั่นใจไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ลั่นฟ้องกลับชุดไต่สวน “กรวีร์”เชื่อเป็นเกมการเมืองมีเป้าหมายยุบพรรค
เมื่อที่ 17มิถุนายน2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณีการได้รับหมายเรียกจากกกต.คดีฮั้วเลือกสว. จะไปชี้แจงวันใดนั้นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องกฎหมาย เพราะฉะนั้นใครถูกกล่าวหา หรือชี้อะไรมา โดยเฉพาะการชี้ที่เป็นข้อกล่าวหา ต้องให้ทนายความ และนักกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ เพราะไปเองก็ไม่มีความรู้เพียงพอ โดยตนได้แต่งตั้งทนายความ ไปดำเนินการ ซึ่งในหมายเรียกระบบให้ไปชี้แจงในวันนี้ ซึ่งเป็นหมายก๊อปปี้ ทุกคนเหมือนกันหมด ก่อนจะหันไปถาม นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับหมายเช่นกัน ก็เป็นข้อความเดียวกันหมด ซึ่งทุกคนได้แต่งตั้ง ให้ทนายความดำเนินการ
ย้ำไม่ได้ทำผิดอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นได้ปรึกษาทนายแล้วหรือไม่ที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่ายืนยันว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไร และตนก็ยัง งง ไม่รู้ ก็งงว่าทำไมถูกกล่าวหาล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่มาในระบอบประชาธิปไตย และเชื่อมั่นในระบอบนี้ ซึ่งข้อกล่าวหาทั้งตน นางสาวไตรศุลี และนายเนวิน ชิดชอบ ถูกข้อหาล้มล้างระบอบประชาธิปไตย นายเนวิน ก็เคยเป็นสส. ตลอดกาลของบุรีรัมย์ เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เวลามีรัฐประหาร ท่านก็เคยโดนกระทำ ทำให้ไม่เชื่อถือในระบอบอื่น นอกจากระบอบประชาธิปไตย พวกตนก็เช่นกัน ตรงนี้ เราก็ต้องไปฟัง แต่ ไม่อยากบอกว่าเป็น ข้อกล่าว ที่เลื่อนลอย แต่จะมาเหมาเข่งแบบนี้ก็ไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณที่ภูมิใจไทยแถลงว่าจะฟ้องกลับข้อหาในข้อหา แจ้งเท็จ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนนี้ ไม่ใช่กกต. แต่เป็นคณะอนุกรรมการชุดที่ 26 หากจะทำให้มีประสิทธิภาพจริงต้องมีสาเหตุ และมูลเหตุ วันเวลา แต่ถ้ามาแบบนี้ แล้วเดี๋ยวค่อยไปคิดว่าจะแจ้งว่าใครผิดอะไรอย่างไร ก็ต้องต่อสู้ อย่างวันนี้ถ้าตน จะไปชี้แจง ก็ไม่รู้จะชี้แจงอะไร เพราะไม่รู้ว่าทำอะไรผิด รู้แค่ว่าเป็นผู้ที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย อย่างที่บอกระบอบประชาธิปไตยของตน ไม่มีอย่างเดียว คือ ที่บ้าน มีเผด็จการอยู่ที่เดียว
ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเล่นกันอย่างนี้แรงเกินไปหรือไม่ นายอนุทิน ถึงกับอุทานว่าโอ้โห! นี่ยังไม่แรงอีกหรือ ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ เมื่อวานตน ได้เรียนนายกรัฐมนตรีไปว่า ไม่เคยเจอแบบนี้ หากบอกว่า สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโดน รัฐประหารก็ไม่โดนขนาดนี้ นี่ในระบอบประชาธิปไตย ระบอบรัฐสภาแท้ๆ ทำไมต้องเล่นกันขนาดนี้ ซึ่งตนก็ได้เรียนท่านไปว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ในคณะรัฐบาลชุดนี้จริงๆ ก็มาขอความเป็นธรรม ให้ท่านนายกได้ช่วยคุ้มครอง ถ้าทำได้ ก่อนที่นายอนุทิน จะรีบชิงกล่าวว่าพอแล้วนะ
แจ้ง”อุ๊งอิ๊งค์”ไปหมดแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีคลิปเสียงหลุด ในการเลือกสว. ว่าท่านสั่งมา ไม่อย่างนั้นกกต. ประกาศโมฆะแล้ว นายอนุทิน ถึงกับย้อนถามกลับว่าคลิปเสียงใครล่ะ เอานายกรัฐมนตรีไปพูดภาษาจีนป๋อ ยังทำได้เลย ตนว่าอย่างนี้มันไม่ได้มั้ง แล้วก็ข้ามไปเอา
เมื่อถามว่าการทำเช่นนี้ กังวลว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำอะไร แล้วจะยุบได้อย่างไร มันต้องมีหลักฐานก่อนสิ
เมื่อถามว่าเล่นการเมืองกันแรงแบบนี้ ประเมินหรือไม่ว่าอายุรัฐบาลจะสั้นลง นายอนุทิน เผยว่าไม่ได้ประเมินตรงนี้ ทุกอย่างแจ้งนายกไปหมดแล้ว ว่าเรื่องพวกนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น
โฆษกพรรคภท.ตอบโต้เดือด
นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณที่ กรรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ส่วนกลาง) คณะที่26 เชิญหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รับทราบข้อกล่วหาและชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา เกี่ยวกับการเลือกสว.ว่า ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือในการชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน มั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากทุกคนไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว.และหัวหน้าพรรคได้เคยประกาศห้ามกระทำการใด ๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสมาชิกทุกคนได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เปิด4ข้อกล่าวหาฉกรรจ์
สำหรับข้อกล่าวหาที่แจ้งมา 4ประเด็น คือ 1.การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ 2.การจ่ายเงินให้เป็นค่าจ้าง จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเลือก สว.3.การทำโพยฮั้วเลือก สว. 4.การให้ผู้สมัครเลือก สว.ที่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เขียนใบลาออกล่วงหน้าโดยไม่ลงวันที่ พรรคภูมิใจไทยมองว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นการขัดหลักพื้นฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรงและร้ายแรงสำหรับพรรค ที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยมาโดยตลอด ทุกคนที่ถูกกล่าวหาจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของตนเอง
นางสาวแนน บุณย์ธิดา กล่าวอีกว่าว่า หนังสือแจ้งข้อกล่าวหาที่ทุกคนได้รับมีข้อความเหมือนกันทั้งหมด โดยไม่มีรายละเอียด พฤติกรรม วันเวลาการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งแตกต่างจากการแจ้งข้อกล่าวหาของ กกต. ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ เนื้อหาของข้อกล่าวหาครั้งนี้ยังใกล้เคียงกับข้อมูลที่ พล.ต.ท. คำรบ ปัญญาแก้ว และนายณฐพร โตประยูร เคยร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ และเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดยมีพนักงานจาก DSI 3 ท่านร่วมอยู่ในคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนนี้ด้วย พรรคจึงมองว่ามีพฤติกรรมที่แปลกและแตกต่างจากมาตรฐานของ กกต.ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมและการดำเนินสอบสวนไต่สวนของคณะที่ 26 ถูกชี้นำหรือครอบงำโดยพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ และอาจเกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นไปตามแผนยุบพรรคภูมิใจไทย เป็นการกระทำเป็นขบวนการ ทั้งบุคคลที่เปิดเผยตัวและบุคคลที่เคลื่อนไหวในทางลับ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะขอใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์และรักษาเกียรติของพรรคภูมิใจไทย
เชื่อเป็นเรื่องการเมือง
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และคณะกรรมการบริหาร พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย เราไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการการเลือกตั้งของ สว. โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าและเลขาฯ ได้มีการกำชับกับสส.ทุกคนว่า ห้ามกระทำการใดๆ ที่ฝ่าฝืนข้อกฎหมาย โดยเบื้องต้นยืนยันชัดเจนว่า ตั้งแต่หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค ได้รับการย้ำเตือนจากหัวหน้าพรรคในช่วงที่มีการเลือก สว.”นายกรวีร์ กล่าว
นายกรวีร์กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สอง เรามีการคุยกันว่า เป็นเรื่องปกติหรือไม่เพราะเวลาแจ้งข้อกล่าวหากับใคร จะทำให้ใครที่ถูกข้อกล่าวหานั้น เสื่อมเสียชื่อเสียงได้ เพราะการแจ้งข้อกล่าวหาแบบเดียวกันหมด แทบจะทุกตัวอักษร เปลี่ยนแค่ชื่ออย่างเดียว แม้ตนไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่ออ่านข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งมานั้น ไม่ได้มีรายละเอียดเลยว่า นายกรวีร์ไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร รวมถึงได้มีการคุยกันอีกว่า จะต้องไปชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างไร เนื่องจากแทบไม่มีรายละเอียดอะไรมาให้เลย มีแต่ข้อกล่าวหาลอยๆ ในการแจ้งข้อกล่าวหาทุกคน
เป็นข้อกล่าวหารุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าไม่ได้เกี่ยวข้องเลยใช่หรือไม่ หรืออาจมีเส้นทางใดที่เชื่อมโยงถึงหรือไม่ นายกรวีร์กล่าวว่า ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว และไม่เคยทำเรื่องที่ขัดต่อข้อกฎหมาย ซึ่งหากเขากล่าวหาถึงพรรค หรือกก.บห.พรรคว่ามีส่วนรู้เห็น บงการ ล้มล้างการปกครอง ก็ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ซึ่งตนเชื่อว่า เขาน่าจะมีหลักฐานอะไรที่ควรเชื่อได้ แต่วันนี้เรายังไม่เห็น และมั่นใจว่าเราไม่เคยไปทำอะไร
เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่อาจเกี่ยวข้องกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรวีร์ กล่าวว่า จริงๆ พยายามมองในแง่ดีว่าคงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการปรับ ครม. แต่อาจวนมาเจอกันในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อยากจะฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า มันมองเป็นอย่างอื่นแทบจะไม่ได้เลย หลังจากที่ดูข้อกล่าวหาแล้ว ก็น่าจะเป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง ที่อยากจะมาโจมตีพรรค ภท. ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี