นายกฯ “แพทองธาร” ยันพร้อมแจงศาลรัฐธรรมนูญ ปมคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุนเซน” มั่นใจไม่ได้ทำประเทศเสียหาย

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องที่ประธานวุฒิสภายื่นร้องว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหากศาลรัฐธรรมนูญประชุมและมีคำสั่งรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัย ก็จะพิจารณาว่าระหว่างพิจารณาคดีจะมีคำสั่งให้น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยตามคำขอของประธานวุฒิสภาด้วยหรือไม่นั้น

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับหรือไม่รับคดีคลิปเสียงนายกฯว่า เราก็ประเมินเรื่องนี้หากต้องสนับสนุนในเรื่องข้อมูลหรืออะไรก็พร้อมในการให้ข้อมูลและชี้แจง เพราะคลิปเสียงที่หลุดออกมาก็ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ผู้นำแต่ละประเทศใช้เจรจากันอยู่แล้ว ก็จะเห็นได้ชัดว่าในคลิปเสียงตัวเองก็ไม่ได้อะไร และตนก็ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเสียหายอะไร จุดนี้คือจุดที่เป็นการคุยกัน ซึ่งก็ทราบอยู่แล้วว่าไม่ควรเปิดเผยคลิปที่เป็นการสนทนาแบบส่วนตัว ตนก็พร้อมยืนยันและพร้อมอธิบายเล่าทุกเหตุการณ์อยู่แล้วถ้าต้องมีการอธิบาย

ด้าน นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์กรณีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภายื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็นนายกฯของน.ส.แพทองธารสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซนว่า วันที่ 1 กรกฎาคม เรานัดประชุมไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะตัดสินคดีเกี่ยวกับกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ลงมติมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว  ส่วนเรื่องที่ร้องประเด็นคลิปเสียงตนยังไม่ได้ดู ตอนนี้อยู่ในกระบวนการรับเรื่อง ตนขอไปดูหนังสือทั้งหมดว่าเป็นตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่

 ทั้งนี้ วันที่ 1 กรกฎาคม จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปเสียงได้หรือไม่ นายนครินทร์กล่าวว่า ก็เป็นไปได้แต่ตอนนี้ต้องให้คณะตุลาการตรวจเอกสารครบถ้วนก่อน ถ้าพิจารณาก็จะออกได้ 2 ทางคือ รับหรือไม่รับเรื่อง  อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 กรกฎาคมจะมีคำสั่งได้เลยหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องรอตรวจเอกสารก่อนและเข้าองค์คณะ ทุกครั้งที่เราประชุมต้องมีองค์คณะครบ 9 คน

“ถ้าวันที่ 1 กรกฎาคม ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคดีคลิปเสียง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เสมอไป  เราก็จะดูว่ามีข้อเท็จจริงว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่จะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ที่ผ่านมาก็มีที่เรารับคดี แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่” นายนครินทร์กล่าว

  ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจหรือไม่ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องคลิปเสียงจะส่งผลกระทบหลายเรื่อง นายนครินทร์กล่าวว่า แน่นอนว่าหนักใจแต่เมื่อเราอยู่ตรงนี้ ก็ต้องทำตามหน้าที่

เมื่อถามเพิ่มเติมว่าคดีล้มล้างการปกครองขณะนี้ยังมีคดีตกค้างอยู่หรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี หลังจากที่พึ่งมีคำสั่งไม่รับคำร้องไปในคดีที่เเล้ว