46อดีตสส.-สส.ระทึก

‘ปปช.’ตั้งกก.ไต่สวน

ไล่สอบคดี‘แจกกล้วย’

เงินค่าเลี้ยงดูรายเดือน

'46 อดีต สส.-สส.-ขรก.การเมือง'ระทึก! คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ตั้งกรรมการไต่สวนคดีแจกกล้วย

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระ หว่างไต่สวนคดีกล่าวหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) และอดีต สส.หลายราย ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับเงินค่าเลี้ยงดู อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากปรากฏข่าวในช่วงอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วาง ใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2565 ว่านักการเมืองบ้างกลุ่ม มีการแจกเงินให้ สส.พรรคเล็ก เดือนละ 1 แสนบาท เป็นค่าเลี้ยงดู โดยเปรียบเทียบการจ่ายเงินดังกล่าวว่าเป็นการแจกกล้วย

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนคดีนี้เป็นทางการในช่วงปลายปี 2567 ปัจจุบันมี สส.และอดีต สส.จำนวน 5 ราย ปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในข่ายถูกไต่สวนคดี ในขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกยังพบว่ามีการแจกเงินไปยังกลุ่ม สส.และเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 100 คน รวมวงเงินกว่า 200 - 300 ล้านบาท

โดยความคืบหน้า ในการไต่สวนคดีนี้ มี นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช.และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช.เป็นคณะกรรมการไต่สวน โดยการไต่สวนกรณีนี้ แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ 1.การรับทรัพย์สินเกิน 3,000 บาท ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 128

2.การกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 รวมถึงกฎหมายอื่นๆ อาทิ กฎหมายพรรคการเมือง และประมวลกฎหมายอาญา

ทั้งนี้ ในคำร้องได้ระบุจำนวนผู้เกี่ยวข้องที่ถูกตั้งไต่สวนกรณีนี้มีจำนวน 131 ราย โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการการเมือง จำนวน 46 คน โดยปรากฎในเอกสาร ป.ป.ช.ซึ่งเคยสังกัดในพรรคการเมืองต่างๆ ในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และคาดว่า ป.ป.ช.จะออกหมายเรียกมารับข้อกล่าวหาในเร็วๆ นี้ ได้แก่พรรคพลังประชารัฐ 27 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 5 คน, พรรคภูมิใจไทย 3 คน, พรรคเพื่อไทย 2 คน, พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 คน, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน, พรรคทวงคืนผืนป่าไทย 1 คน, พรรคพลังปวงชนไทย 2 คน, พรรคไทยศิวิไลย์1 คน และข้าราชการการเมือง 2 คน

นอกจากนี้ ในคำร้องระบุว่า มีเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นธนาคารกสิกรไทย (K Plus) ในการทำธุรกรรมประเภทโอนเงินไปยังผู้อื่นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด