“บอร์ด สสว.” ไฟเขียว 3 มาตรการช่วยธุรกิจเอสเอ็มอี สั่งจัดทำแพลตฟอร์มขายสินค้า ช่วยไม่ถูกเก็บค่าต๋ง 30%
27 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมว่า ที่ประชุมเห็นชอบ 3 มาตรการในการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจได้อย่างเข้มแข็ง เชื่อมั่นว่าเอสเอ็มอีไทยจะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ประกอบด้วย 1.มาตรการสร้างรายได้ โดยให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐพัฒนาแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ และไลฟ์-คอมเมิร์ซ (e-Commerce และ Live Commerce)เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าเอสเอ็มอีนำสินค้ามาขาย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและขายสินค้ามในราคาถูกกว่าการนำไปขายในแพลตฟอร์มอื่นผู้ผลิตจะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 30%
ทั้งนี้ ได้หารือกันว่าแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นโดยรวมจุดแข็งที่ภาครัฐมีอยู่แล้ว เช่น คลังสินค้า และไปรษณีย์ไทย ที่มีระบบโลจิสติกอยู่ทั่วประเทศ โดยอาจร่วมมือกับ Thailand Post Mart หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ สสว. เห็นว่ามีความเหมาะสม อีกทัง้ใช้จุดแข็งของไปรษณีย์ไทยที่มีสาขา และระบบโลจิสติกส์ครอบคลุมทั่วประเทศในการเสริมความแข็งแกร่งของระบบ e-Commerce เบื้องต้นบอร์ดส่งเสริมฯ อนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถของระบบนิเวศ e-Commerce
นายประเสริฐ กล่าวว่า 2.สร้างโอกาส โดยให้ สสว. เร่งส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้เอสเอ็มอีทราบในวงกว้าง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 มีกว่า 750,000 ล้านบาท โดยให้สสว.ร่วมกับกรมบัญชีกลาง ด้วยสิทธิพิเศษที่ให้ภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างจากเอสเอ็มอีก่อนและให้แต้มต่อราคา 10% สำหรับเอสเอ็มอี และเพิ่มสูงสุด 15% สำหรับสินค้า Made in Thailand หลังจากปีงบประมาณ 2567 มียอดจัดซื้อจัดจ้างสูงถึง 726,211 ล้านบาท 3.เสริมแกร่ง ด้วยวงเงิน 2,700 ล้านบาท ด้วยการอัดฉีดการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 1% ระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 1 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี คาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ได้ในเดือนสิงหาคม 2568 เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ SME ไทย โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ Transformation Fund วงเงิน 1,000 ล้านบาทมุ่งเน้น SME ที่ต้องการพัฒนารูปแบบธุรกิจให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และแนวคิดธุรกิจที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ตามมาด้วยกลุ่ม Enhancement Fund วงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม SME ที่มีศักยภาพ เช่นธุรกิจสีเขียว การธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ ธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ธุรกิจหุ่นยนต์อัจฉริยะ และธุรกิจสร้างสรรค์ เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนในระยะยาว และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง วงเงิน 700 ล้านบาท ได้นำไปเสริมสภาพคล่องและเป็นทุนหมุนเวียน
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี