‘อิ๊งค์’ควบ วธ.
รองรับหยุดทำหน้าที่นายกฯ
‘นฤมล’โยกนั่งรมว.ศึกษา
ฮือฮา!หลาน‘สุริยะ’ผงาด
‘พงศ์กวิน’คุม‘ก.แรงงาน’
"ภูมิธรรม" ปัดแผนสำรอง ดัน“ชัยเกษม” นั่งนายกฯ ตีกอล์ฟเป็นเรื่องปกติ ด้าน “ชัยเกษม”ลั่นถ้าจำเป็นก็พร้อมเป็น"นายกฯ"เพื่อชาติบ้านเมือง ขณะที่"สมคิด"เหน็บ "ภท." ถามร่วมรัฐบาลมาตั้งนาน ทำไมเพิ่งรู้ว่ารบ.ไม่ดีหลังเตรียมยื่นซักฟอก รบ.สะพัดโผ"ครม.แพทองธาร 1/2"นายกฯ นั่งควบรมว.วัฒนธรรม "พงศ์กวิน"รมว.แรงงาน "สุดาวรรณ"รมว.อว. "สุชาติ"โยกนั่ง รมช.มหาดไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ออกรอบตีกอล์ฟช่วงสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีนัยอะไรหรือไม่ ว่า ท่านตีกอล์ฟทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ก็เหมือนกับพวกเราทุกคน หากมีเวลาก็จะออกกำลังกายในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งคนที่เล่นกอล์ฟก็ทำอย่างนี้กันอยู่แล้ว เมื่อถามว่า นายชัยเกษม ให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมเป็นนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถือเป็นไพ่ของพรรคเพื่อไทยที่จะเดินต่อให้ครบวาระใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คิดที่จะเดินอะไรต่อ แต่คิดที่จะให้นายกฯเดินต่อในรัฐบาล และตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เสร็จโดยเร็ว ไม่มีประเด็นอื่น อย่าจับแพะชนแกะ
ปัดตอบนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯหรือยัง
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีการทูลเกล้ารายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ไม่ทราบเป็นเรื่องของนายกฯ ซึ่งใจของนายกฯ ก็อยากทำให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อที่รัฐมนตรีจะได้เข้าไปรับหน้าที่ และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งตนเชื่อว่าเร็ว เมื่อถามว่า ทราบหรือยังว่าตัวเองยังอยู่ที่เดิมหรือย้ายกระทรวง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบเลย แต่รู้แค่ว่ายังเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เพราะยังมีงานต่อเนื่องที่ตั้งขึ้นมาเพื่อมอบหมายดูแล ตรงนี้มีความชัดเจน ส่วนในเรื่องของกระทรวง หรือการเป็นรองนายกฯ อย่างเดียว อันนี้ไม่ทราบ ต้องถามนายกฯ คนอื่นก็อยู่ในสภาวะเดียวกัน เรารู้แค่ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลง และทุกคนก็ได้ยืนยันประวัติของตัวเองไป อยู่ที่นายกฯ ว่าจะหยิบใครไปอยู่ตรงไหน เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยเคลียร์กันจบแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหา ขณะนี้เรารอนายกฯ พิจารณา
‘ชัยเกษม’ลั่นถ้าจำเป็นพร้อมเป็นนายกฯ
นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับ 3 ของพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการ “เจาะลึกทั่วไทย”กรณีมีภาพตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ ผู้ดำเนินรายการถามว่า มีการพูดกันว่าถ้าจวนตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเปลี่ยนตัวนายกฯจาก น.ส.แพทองธารและเชิด นายชัยเกษม ขึ้นเป็นนายกฯ แต่นายชัยเกษม เคยมีประวัติสโตรกและอาการขึ้นๆลงๆ มีการพูดกันว่า จะไหวหรือไม่ ถ้าต้องเป็นนายกฯนายชัยเกษม โฟนอินเข้ารายการ ระบุว่า ที่เคยมีปัญหาสโตรก ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว ชีวิตปกติ ไม่มีปัญหา แพทย์บอกว่าโชคดีที่หายแล้ว เมื่อวานเลยตีกอล์ฟได้สบาย เมื่อถามว่า พร้อมจะเป็นนายกฯหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องให้ตนเป็น ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเป็นเถอะ ตนทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็น ก็ได้ เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นมีเยอะ คนรุ่นใหม่มีเยอะ เรื่องของตนคงเงียบไปแล้ว ถามย้ำถ้าจำเป็นต้องเป็นนายกฯ พร้อมหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ถ้าจำเป็นเพื่อชาติบ้านเมือง ตนก็ทำได้ ไม่มีปัญหา
‘สมคิด’เหน็บ’ภท.’เพิ่งรู้รัฐบาลไม่ดี
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกาศพร้อมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและครม.หลังเปิดประชุมสภาในเดือนกรกฎาคมนี้ ว่า เป็นสิทธิ์ที่พรรคภูมิใจไทยจะกระทำได้ ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิดที่จะยื่น ที่น่าประหลาดใจ คือ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาตั้งนาน พอเป็นพรรคฝ่ายค้านสิ่งแรกที่ทำคือ ยื่นอภิปรายทันที ทำไมความรู้สึกช้าจัง เพิ่งรู้ว่ารัฐบาลไม่ดีหรืออย่างไร อยากให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูว่า มันสมเหตุสมผลหรือไม่ ส่วนเป้าหมายพรรคภูมิใจไทยคือ อยากขยายความเรื่องคลิปที่เป็นประเด็นอยู่ ซึ่งที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ได้อธิบายไปหมดแล้วว่า ทำเพื่อประเทศ ไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ลดการเผชิญหน้าทั้งสองฝ่าย พูดเพื่อลดความขัดแย้ง เพราะรัฐบาลกังวลว่า หากเกิดการเผชิญหน้าจะกระทบกับประชาชน
ยันเสียงพรรคร่วมรบ.ไม่มีปัญหา
“สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคติดต่อซื้อตัว สส.ในพรรคร่วมรัฐบาลให้ไปร่วมงานด้วยการที่ซื้องูเห่า ที่พรรคการเมืองบางพรรคเคยทำในอดีต น่าจะหมดยุคแล้ว อีกทั้ง สส.มีศักดิ์ศรีอยู่ คงไม่มีใครไปแน่ เพราะหากใครไปทำเช่นนั้น ต้องดูว่าประชาชนเขาจะคิดอย่างไร นอกจากนี้ส่วนใหญ่ที่ย้ายออกไปตามปัจจัยใดๆ ก็ตาม ในอดีตล้วนสอบตก ยืนยันว่า เสียงรัฐบาลไม่มีปัญหา มีพอที่จะช่วยให้รัฐบาลไปต่อได้อย่างแน่นอน” นายสมคิด กล่าว
‘พงศ์กวิน’คุมแรงงาน/’สุดาวรรณ’อว.
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปรับ ครม.ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เตรียมนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯภายในวันที่ 27มิถุนายนนี้ โดย น.ส.แพทองธาร จะนั่งควบเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม เนื่องจากมีโยก นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ไปดำรงตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายภูมิธรรม รองนายกฯ รมว.กลาโหม จะโยกมาดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม จะขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต้องการให้ทหารเข้ามาบริหารจัดการงานด้านความมั่นคงเต็มตัว นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชาย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.พาณิชย์ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ
‘สุชาติ’รมช.มท.-‘ชัยชนะ’รมช.สธ.
พรรครวมไทยสร้างชาติ ในกลุ่ม18 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ โยกเป็น รมช.มหาดไทย พรรคกล้าธรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะโยกไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ มาดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ ในโควตาพรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข จะโยกไปดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รมช.สาธารณสุข
นายกฯไม่ตอบนำโผทูลเกล้าฯหรือยัง
ที่พื้นที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มตะวันออก OR14 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เขตห้วยขวาง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงโผคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ ว่าได้มีการทูลเกล้าฯไปแล้วหรือยัง โดยนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ยิ้มและเดินไปโดยไม่หันมามองสื่อมวลชน
พท.ยันปรับครม.ไม่มีแรงกระเพื่อม
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหญ่ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ว่า ไม่ทราบว่ามีการทูลเกล้าฯหรือยัง เนื่องจากเป็นกระบวนการภายใน และนายกฯยังไม่แจ้งว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ใครจะอยู่ตรงไหน รวมถึงตนก็ไม่ทราบว่า จะได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ตรงไหน แต่จะอยู่ตรงไหน ตนคิดว่า นายกฯ ก็คงดูความเหมาะสม สำหรับตนยินดีทำงานทุกตำแหน่งที่นายกฯมอบหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าเมื่อเห็นหน้าตา ครม.ใหม่แล้ว ภายในพรรค พท.จะรับได้ ไม่มีแรงกระเพื่อมใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มี ตนคิดว่า การปรับ ครม. นายกฯคงจะมีเหตุมีผลในเรื่องของการวางบุคคลลงในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งตรงนี้เป็นอำนาจของนายกฯ อยู่แล้ว
เปิดข้อมูลเมีย’พีระพันธุ์’โอนหุ้นไม่สำเร็จ
จากกรณีที่ได้มียื่นต่อหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ (ปปช.) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้น บริษัท รพีโสภาค จำกัด และถือหุ้นในบริษัทอื่น ได้แก่ บริษัท วีพีแอโร่เทค จำกัด บริษัท พีแอนด์เอส แลนด์แอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท โสภา คอลเล็คชั่นส์ จำกัด อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (การขัดกันแห่งผลประโยชน์)
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงจะขัดต่อกฎหมายและฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงของนายพีระพันธุ์ เกี่ยวกับคู่สมรสของนายพีระพันธุ์ คือนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค เนื่องจากในมาตรา 187 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ และต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใดและรัฐมนตรีจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทตามวรรคสองไม่ว่าในทางใด ๆ มิได้ โดยข้อห้ามของการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นดังกล่าว ให้ใช้บังคับแก่คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้เพื่อมิให้มีผลประโยชน์ที่ขัดกันและไม่ให้มีการปิดบังหรือซ้อนเร้นบัญชีทรัพย์สินของรัฐมนตรีและคู่สมรส เนื่องจาก นางสุนงค์ ซึ่งเป็นคู่สมรสของนายพีระพันธุ์ ยังถือหุ้นใน บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด จำนวนร้อยละ21.68% ซึ่งเกินกว่าเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 5% ต่อมานางสุนงค์ จึงได้ดำเนินการโอนหุ้นให้แก่ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (MFC) เข้ามาเป็นผู้จัดการหุ้นดังกล่าวแทนตนเอง ตามสัญญาฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 ธ.ค. 2566 และฉบับที่ 2 ลงวันที่ 4 ก.ย. 2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายพีระพันธุ์ ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และทำให้นางสุนงค์ ย่อมไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวก้าวก่าย หรือดำเนินการใด ๆ ในฐานะผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบฉันทะของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้นายพีระพันธุ์พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีทันที
กระทบตำแหน่งนั่งรัฐมนตรีใหม่
ทั้งนี้ ในข้อบังคับข้อที่6ของบริษัทชนัตถ์และลูก จำกัด ได้มีการกำหนด“ห้ามมิให้ถือหุ้นโอนหุ้นของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอกเว้นแต่จะโอนหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมหรือผู้สืบสันดานของผู้ถือหุ้นเดิม” โดยนางสุนงค์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นย่อมทราบถึงข้อบังคับของบริษัทดีอยู่แล้ว แต่ยังกระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงเจตนาว่าไม่ต้องการให้การโอนหุ้นนั้นมีผลตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. 2568 บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด มีหนังสือปฏิเสธการโอนหุ้นต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ MFC ว่าไม่สามารถจดแจ้งการโอนหุ้นได้ เนื่องจากการโอนหุ้นให้ MFC ผิดข้อบังคับข้อที่ 6 ของบริษัท ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 นางสุนงค์ ได้เข้าประชุมและใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด
ต่อมาวันที่ 30 พ.ค. 2568 MFC แจ้งนางสุนงค์ว่า ขอยกเลิกการรับโอนหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด และขอเพิกถอนหนังสือสัญญาโอนหุ้นทั้ง 2 ฉบับของบริษัทชนัตถ์และลูก จำกัด โดยให้การโอนหุ้นสิ้นสุดลงและมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2566 เสมือนไม่เคยมีการโอนหุ้นกันมาก่อน ทั้งนี้ ผู้จัดการหลักทรัพย์จะรายงานการเปลี่ยนแปลงรายการหุ้นของรัฐมนตรีตามสัญญาจัดการหุ้นต่อประธาน ปปช.เพื่อทราบต่อไป ดังนั้น จากกรณีดังกล่าวมีประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี