‘กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน’ ออกแถลงการณ์ไล่บี้ ’แพทองธาร‘ ลาออกจากนายกฯทันที สับ ‘พรรคร่วมฯ’ ยังฝืน ’สังฆกรรม‘ เข้าข่ายร่วมเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ
วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา18.00น. ในการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าสู่ช่วงสำคัญ บรรดาแกนนำของกลุ่มฯ และผู้ชุมนุมที่มาร่วมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จากนั้นนายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ในนามกลุ่มรวมพลังแผ่นดินว่า สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทยนับตั้งแต่พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา นับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรีสมาชิกรัฐสภาไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริงจนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมืองเศรษฐกิจกระบวนการยุติธรรมความมั่นคง ดุลสำคัญระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรมจริยธรรมและสังคมอย่างกว้างขวางลึก ลึกและรุนแรง เหตุมาจากผู้ที่ไม่นำพาไม่นับถือยำเกรงกฎหมาย กฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมืองทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศ ชาติและประชาชนจนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผลให้ความสำคัญกับรูปแบบวิธีการยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย
นายนิติธร อ่านแถงการณ์ระบุต่อว่า นอกจากนี้ยังมีกระบวนการประกอบด้วยกลุ่มบุคคลฝ่ายการเมืองฝ่ายทุนผูกขาดเหนือตลาด เหนือรัฐ เหนือฝ่ายความมั่นคงเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระองค์กรตรวจสอบ รวมตลอดถึงบุคคลที่อาศัยตำแหน่งอำนาจหน้าที่ แอบอ้างร่วมกันทำลายรัฐธรรมนูญหลักนิติธรรม หลักคุณธรรม จริยธรรม และเอกราชอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติ และประชาชนทำลายหลักป้องกันการตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างแรงใช้อำนาจตรวจสอบบ้านเมืองตามอำเภอใจ ทั้งรัฐบาลยังอยู่ภายใต้การบงการการสั่งการการครอบงำจากต่างชาติ พฤติกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นพฤติกรรมที่ประจักษ์ชัดสายตาต่อประชาชนทั่วทั้งแผ่นดินต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าบรรดานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ไม่นำพาต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม
“ที่เลวร้ายที่สุดแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไร้ความสามารถขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกนโยบายทำลายความมั่นคงทำลายสถาบันหลักของชาติกระทำการในลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำการประมวลกฎหมายอาญาหมวด3ว่าด้วยการกระทำความผิดความมั่นคงของรัฐภายนอกล่าช้าณาจักรขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหมวด5 หน้าที่ของรัฐ มีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าวสาธารณะ ในเชิงสมคบคิดและแสดงออกซึ่งเจตนาอำนาจหน้าที่ตอบสนองต่ออริราชศัตรู ทั้งแสดงตัวตนด้วยคำพูดและการกระทำที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรูที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำละเมิดอธิปไตยการยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน และขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี”
นายนิติธร ระบุตามแถลงการณ์ด้วยว่า แม้ปรากฏข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดตามข่าวสาธารณะ และการยอมรับของนายกรัฐมนตรี บรรดาคณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลยังคงสนับสนุนแพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จึงอาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทำการกับนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กระทำการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเฉกเช่นเดียวกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความมั่นคง และอำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ ความผาสุขของประชาชนโดยรวม ให้แพทองธาร ชินวัตร ลาออกทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี