‘จุลพันธ์’เชื่อหากทำโพลหลัง‘นายกฯ’แจงปมคลิปเสียงหลุดสนทนา‘ฮุน เซน’จะดีกว่านี้ แต่ยินดีรับฟังพร้อมนำมาปรับการทำงานให้ดีขึ้น เชื่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปในทางบวก ชี้หาก‘นายกฯ’ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่เกิดเดดล็อกทางการเมือง บอกไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็น้อมรับ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจของนิดาโพลเปิดผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่คะแนนนิยมน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หล่นไปอยู่อันดับที่ 5 และคะแนนนิยมของพรรค พท.ตกไปอยู่อันดับที่ 3 ว่า โพลอยู่ที่ช่วงระยะเวลา ซึ่งวันที่ทำโพลอยู่ในช่วงที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาของน.ส.แพทองธารกับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลุดออกมา แน่นอนว่าอารมณ์ของประชาชนอ่อนไหว ฉะนั้น เรารับไว้เป็นข้อคิดและข้อสังเกตเพื่อที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและดีขึ้น แก้ไขปัญหาให้เต็มกำลังความสามารถ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งใดๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นโพลแล้วก็จะมีความห่วงใยพรรคของตัวเองเป็นหลัก ย้ำว่าเรายินดีรับฟัง ตระหนักรู้ และต้องมาปรับการทำงานของเราให้ดีขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าหากทำโพลในช่วงที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงแล้ว ผลโพลจะดีกว่านี้แน่นอน
นายจุลพันธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมของพรรค พท. ต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาคำร้องของ 36 สว. กรณีจริยธรรมของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในพรรคไม่มีการพูดคุยและเตรียมตั้งรับเรื่องนี้ เพราะเรามีความมั่นใจ สิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก็ขอยืนยันตามเดิมว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีสนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไม่ได้เป็นสิ่งผิดปกติ เพราะกระบวนการพูดคุยกันระดับประเทศโดยการยกหูคุยกันนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้นำทำกัน วันก่อนนายกรัฐมนตรีก็ยกหูคุยกับแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อหารือในการเดินหน้าพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคมต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดาและธรรมชาติ สิ่งที่พูดไปก็ไม่ได้มีผลร้ายหรือผลเสียต่อประเทศไทย เราก็ดูว่าประเทศไทยสูญเสียอะไรไปหรือไม่ในเรื่องของดินแดน
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงไม่ได้มีอะไรที่เราห่วง และกระบวนการยื่นตรวจสอบก็ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อมีกลุ่มที่ดำเนินการไปแล้วและได้ขึ้นไปอยู่ในชั้นของผู้พิจารณาไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญหรืออะไรก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเรา และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรรัฐบาลก็พร้อมที่จะน้อมรับผลที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าประเทศไปได้ในช่วงวิกฤตเช่นนี้
เมื่อถามว่า หากศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จะทำอย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้อ่านถึงตรงนั้น แต่หากจริงก็ต้องดำเนินการไปตามที่ศาลสั่ง และหากนายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จริง ตัวอย่างอดีตนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาก็เคยมีให้เห็นแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นตัวชี้วัดใดๆ
เมื่อถามว่า จะเกิดเดดล็อกทางการเมืองหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่เกิด ไม่ว่าจะกรณีใดๆ และเข้าใจว่ามีการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ไปแล้ว แต่การโปรดเกล้าฯ ลงมานั้นถือเป็นพระราชอำนาจโดยเต็ม ซึ่งไม่ว่าจะกรณีใดๆ องค์คณะของ ครม.ยังมีอยู่ ณ ขณะนี้ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างครบถ้วน ทุกหน่วยงานมีครม.กำกับดูแล ฉะนั้น ไม่ได้มีประเด็นปัญหาในการปฏิบัติราชการใดๆ ทั้งนี้ ขออย่าเพิ่งสมมติอะไร ขอให้รอฟังอีกแค่หนึ่งวันก็จะทราบแล้ว และกลไกรัฐภายใต้รัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้มีกลไกรองรับไว้ทุกกรณี เช่น หากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ประเทศก็ไม่ได้ติดขัดอะไร การประชุมครม.และการทำงานก็ยังเดินหน้าได้ แต่ตนมีความเชื่อมั่นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นไปในทางบวก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี