ศาลสั่งห้ามนำคำเบิกความเผยแพร่ "ทนายวิญญัติ"ขอบคุณศาลที่ออกข้อกำหนดห้ามเผยแพร่ข้อมูลไต่สวน ถ้ามีคำสั่งชัดเจนก็พร้อมเปิดเผย ยัน"ทักษิณ"ไม่ได้ขอให้ร้องศาลว่าต้องพิจารณาลับ แต่มีคนบางกลุ่มเอาข้อมูลไปเผย ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็ขอป้องสิทธิ์ตัวเอง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ศาลฎีกาไต่สวนพยานกลุ่มสุดท้ายวันนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อีก 4 ปาก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมบริเวณหน้าห้องรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ประกอบด้วย นายนพรัตน์ นักทัณฑวิทยาชำนาญการ , นายเจนวิทย์ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ชำนาญการ , นายศิวพันธุ์ เจ้าพนักงานราบทัณฑ์ ปฏิบัติการ และนายนิภัทร์ชล เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ปฏิบัติงาน จนศาลไต่สวนพยานเสร็จสิ้นเวลา 14.45 น.และให้เลื่อนการไต่สวนเป็นวันที่ 15 กรกฎาคม เวลา 09.00 น.ตามที่นัดไว้เดิม
ทั้งนี้ เนื่องจากศาลเคยมีคำสั่งให้คู่ความและผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีงดเว้นการเผยแพร่โฆษณาคำเบิกความพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ศาลไต่สวน แต่ปรากฏว่ายังมีผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีและผู้สื่อข่าวบางรายนำคำเบิกความพยานไปไปโฆษณาเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ศาลกำชับคู่ความและผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด
ต่อมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนขอกราบขอบคุณทางศาล ที่ได้กำชับในสิ่งที่ตนได้ร้องขอไปสองครั้งแล้ว ซึ่งตนได้ร้องขอไม่ให้มีการนำข้อเท็จจริงในการเบิกความหรือสาระสำคัญต่างๆ ออกไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ แม้บางคนจะไม่ได้เผยแพร่ความเบิกความ แต่นำไปสรุปและวิเคราะห์ตั้งประเด็นการซักถามของศาล ถึงปฏิกิริยาของพยาน ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ ทางศาลก็กรุณากำชับให้มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ความจริงตนขอให้ศาลออกข้อกำหนดให้พิจารณาคดีลับ แต่ศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุให้พิจารณาลับ จึงยังคงให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเปิดเผย ซึ่งภายหลังจากศาลออกคำสั่งแบบนี้ตนก็ต้องยอมรับ เชื่อว่าหลังจากนี้ถ้าการพิจารณาเสร็จสิ้นแลถมีคำสั่งของศาลออกมาชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงในคดีตนก็พร้อมที่จะพูดในภายหลัง แต่ระหว่างนี้ตนยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะเป็นข้อมูลหลายส่วน
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า โดยนัดไต่สวนครั้งต่อไป ศาลนัดอีกครั้งวันที่ 15 กรกฎาคม และมีการกำหนดพยานเอาไว้ 5 - 6 ปาก โดยจะเป็นกลุ่มผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และผู้บริหารโรงพยาบาลราขทัณฑ์ หลังจากนั้นจะมีการไต่สวนอีกในวันที่ 18 กรกฎาคม และวันที่ 25 กรกฎาคม ในส่วนของจำเลยหากศาลยังไม่มีหมายเรียกพยานอื่นเพิ่มเติม ตนก็จะขอใช้สิทธิ์ระบุพยานจำเลยที่เราประสงค์ไว้เข้ามาเบิกความในวันที่ 30 กรกฎาคม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะมีดุลพินิจอย่างไร เราก็จะดูอีกว่าพยานจำเลยซ้ำกับพยานที่ศาลมีหมายเรียกมาหรือไม่ และถ้าคนไหนไม่ซ้ำและเราเห็นว่ามีข้อเท็จจริงที่อยากให้ศาลทราบ ก็จะเตรียมมา ซึ่งตนยังบอกไม่ได้ว่ามีทั้งหมดกี่ปาก และคาดว่าจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 1 นัด
ส่วนเรื่องการแถลงปิดคดี ตนยังไม่ทราบว่าจะมีขึ้นหรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ได่เป็นการพิจารณาคดีทั่วไป เป็นการไต่สวนที่ศาลเห็นว่ามีความปรากฎ การจะให้แถลงปิดคดีหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่ถ้าอนุญาต ก็จะแถลงปิดคดี
เมื่อถามว่า ประเด็นที่สมเด็จฮุนเซ็น ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการไม่ได้ป่วยจริงของนายทักษิณ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ คดีนี้ศาลอยากทราบอะไรก็จะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ส่วนใครจะพูดอะไรก็ขอให้ใช้ดุลพินิจว่าจะรับฟังหรือไม่ และตนไม่มีความกังวลในคดีนี้ เพราะนายทักษิณมีอาการป่วย และได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานราชการ กระบวนการได้รับสิทธิประโยชน์ในช่วงที่เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดก็ได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนความกังวลเกิดขึ้นเป็นรายครั้ง เหมือนวันนี้ที่ได้นำเรียนต่อศาล
เมื่อถามว่า ทนายจำเลยร้องขอให้พิจารณาลับเป็นคำสั่งของนายทักษิณ หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้กังวลในส่วนนี้ เป็นหน้าที่ของตนที่ทำงานอยู่หน้างานอยู่แล้ว ซึ่งตนจะเป็นคนประเมินและดูบรรยากาศ และจะดูว่าฟีดแบคหรือมีผลอะไรตามมา เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่ต้องช่วยศาลตรวจสอบด้วย จึงถือเป็นดุลยพินิจที่ศาลออกข้อกำหนดออกมา ซึ่งศาลก็กำชับเรื่องที่มีบุคคลไปโพสเฟซบุ๊คและออกรายการต่างๆ แล้วให้ข้อมูลขาดๆ เกินๆ ถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่ก็จะใช้สิทธิ์ปกตนเอง ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ร่างคำฟ้องเพื่อฟ้องใครเพราะยังอยู่ในการไต่สวนอยู่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี