‘อดีตผู้พิพากษา’เลคเชอร์ 3 ข้อ ทุบเปรี้ยงคดี‘ฮั้ว สว.’แค่พิสูจน์‘เลือกไม่สุจริต’ก็พอ
17 กรกฎาคม 2568 นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “คดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา กกต. มีภาระการพิสูจน์ให้เห็นเพียงว่า การเลือก สว. มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมเท่านั้น ไม่ต้องพิสูจน์ให้เห็นจนสิ้นข้อสงสัย” ระบุว่า...
คดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา กกต. มีภาระการพิสูจน์ให้เห็นเพียงว่า การเลือก สว. มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมเท่านั้น ไม่ต้องพิสูจน์ให้เห็นจนสิ้นข้อสงสัย
-------
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ กกต. และ DSI ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) Big Data, โทรศัพท์, โซเชียลมีเดีย, ภาพจากกล้องวงจรปิด และระบบติดตาม GPS แสวงหาความจริง จนพบว่า มีการกระทำเป็นขบวนการในรูปแบบคณะบุคคล วางแผนสลับซับซ้อน จ่ายเงินค่าตอบแทน จัดทำโพยฮั้วเลือก สว. ผลปรากฏว่า มีผู้ได้รับเลือกเป็น สว. จำนวน 138 คน และอยู่ในลำดับสำรอง 2 คน
และวันนี้ (ที่ 17 กรกฎาคม 2568) คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. จะสรุปสำนวนเสนอต่อสำนักงาน กกต. เพื่อดำเนินการในชั้นที่ 2 ถึง 4 ต่อไป
เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ให้ความเห็นผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ว่า ในกรณีจ่ายค่าจ้างไปฮั้วเลือก สว. จะเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับการเลือก สว. หากจ่ายเป็นเงินสด ทำให้ไม่พบเส้นทางเงิน พยานหลักฐานประเภทปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีน้ำหนักน้อย และ กกต. มี 7 คน การลงมติใช้เสียงข้างมาก 4 เสียง ในเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมี กกต. ครบวาระ พ้นหน้าที่ไปหลายคน หากได้ กกต. คนใหม่ ซึ่งผ่านการเห็นชอบจาก สว. ที่ถูกกล่าวหากว่าครึ่งสภา อาจมีผลทำให้การลงมติพลิกไปอีกทางหนึ่งก็ได้ นั้น
ผู้เขียนมีความเห็นดังนี้
1) คดีฮั้วเลือก สว. โดยผิดกฎหมาย จะมีผล 2 ประการ คือ
(1) ผู้กระทำผิดจะถูกศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หากผู้กระทำผิดได้รับเลือกเป็น สว. สมาชิกภาพของ สว. ผู้นั้นจะสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย อันเป็นมาตรการควบคุมการเลือกให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามหมวด 4 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. (มาตรา 62)
กรณีนี้กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ไว้เพียงว่า “เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า” (reasonable ground to believe) ซึ่งหมายถึง มีหลักฐานเพียงพอที่จะให้เชื่อโดยมีเหตุอันสมควรเท่านั้น แตกต่างจากคดีความผิดทางอาญาดังจะกล่าวต่อไป
(2) ผู้กระทำผิดจะมีความผิดทางอาญาซึ่งมีโทษจำคุกและปรับตามหมวด 6 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. เช่น การให้เงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อย่างอื่นอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ (มาตรา 77 (1))
กรณีนี้กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ว่า โจทก์จะต้องพิสูจน์ให้เห็นโดยปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล (beyond a reasonable doubt) และโจทก์จะต้องฟ้องจำเลยต่อศาลชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ
2) คดีฮั้วเลือก สว. ที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. (ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ กกต. 4 คน และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 คน) กำลังจะสรุปสำนวนเสนอสำนักงาน กกต. จัดเป็นคดีควบคุมการเลือกให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยง เพื่อขอให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และให้สมาชิกภาพของ สว. สิ้นสุดลง (ถอดถอนจากตำแหน่ง สว.) กฎหมายกำหนดให้ใช้หลักเกณฑ์ว่า “เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า” (reasonable ground to believe) เท่านั้น
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามข่าว น่าเชื่อว่า มีการฮั้วเลือก สว. โดยผิดกฎหมาย กกต. สามารถร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิ และถอดถอนตำแหน่ง สว. ตามหมวด 4 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. ได้แล้ว
กรณีนี้ไม่ใช่การฟ้องผู้กระทำผิดทางอาญาต่อศาลชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ เพื่อให้ลงโทษจำคุกและปรับ ตามบทกำหนดโทษในหมวด 6 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งต้องพิสูจน์ให้เห็นโดยปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล (beyond a reasonable doubt) ว่ามีการกระทำผิดจริง
3) หากปรากฏว่า การดำเนินคดีฮั้วเลือก สว. ล่าช้า จน กกต. หลายคนครบวาระ พ้นจากตำแหน่งไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แล้วได้ กกต. ชุดใหม่ที่มีเสียงข้างมาก คดีอาจเดินทางไปไม่ถึงศาลฎีกา
วัส ติงสมิตร
นักวิชาการอิสระ
17/7/68
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี