'สว.นรเศรษฐ์' วอนผู้มีอำนาจในกองทัพ เร่งแก้ไขวัฒนธรรมความรุนแรงการฝึกซ้อม

'สว.นรเศรษฐ์' วอนผู้มีอำนาจในกองทัพ เร่งแก้ไขวัฒนธรรมความรุนแรงการฝึกซ้อม

วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 12.52 น.

“นรเศรษฐ์” มองวัฒนธรรมการใช้ความุรนแรงในการฝึกทหาร เป็นต้นเหตุความสูญเสีย วอน ผู้มีอำนาจในกองทัพเร่งแก้ 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. แถลงกรณีศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาคดีนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ซึ่งศาลสั่งลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี ว่า ตนเข้าใจว่าเมื่อคำพิพากษาออกมา ทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลายในสังคม โดยเฉพาะเรื่องตัวโทษว่าได้สัดส่วนกับความผิดหรือไม่ เพราะการทำให้บุคคลหนึ่งเสียชีวิต แต่โทษที่เกิดขึ้นดูแล้วไม่ได้สัดส่วน 


อย่างไรก็ตาม กรณีของนายภคพงศ์ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการกระทำทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อปี 2565 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกลไกที่ช่วยตัดอำนาจศาลทหาร และทำให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำผิด หรือกระทำทรมานต่างๆ แทนที่จะขึ้นศาลทหารต้องมาขึ้นศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ เปรียบเทียบกับกรณีของคดีของ พลทหารวรปรัชญ์ พัดมาสกุล ทหารเกณฑ์ที่ถูกครูฝึกทำโทษซ่อมวินัยบาดเจ็บบอบช้ำหนักจนเสียชีวิต เข้าเกณฑ์พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งผลการพิจารณาของศาล ให้จำคุกจำเลยตั้งแต่ 10 – 20 ปีขึ้นไปตามสัดส่วน จะเห็นว่าโทษจากการถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิตซึ่งเป็นกรณีคล้ายกัน แต่เมทื่อขึ้นศาลพลเรือนจะเห็นว่าโทษแตกต่างจากศาลทหารเยอะมาก 

“นี่คือความเหลื่อมล้ำของกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในการฝึกซ้อมของกองทัพ เป็นวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงในการฝึกซ้อม ซึ่งวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นได้ เพราะมีวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดซึ่งเกิดขึ้นควบคู่อยู่เสมอ การที่ผู้กระทำผิดยังได้รับการคุ้มครอง ยังสามารถใช้อิทธิพล และยังไม่ได้รับโทษตามสัดส่วนกับความผิดที่เกิดขึ้น จึงทำให้เหตุแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ การซ้อมทรมานพลทหารจนเสียชีวิต ช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เฉพาะที่เป็นข่าว 20 กว่าราย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ต้นเหตุคือวัฒนธรรมความรุนแรงในกองทัพ ผมอยากวิงวอนไปยังผู้มีตำแหน่งในกองทัพ ให้ช่วยแก้ไขวัฒนธรรมความรุนแรงจากการฝึกซ้อมในกองทัพ ผมเชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากใช้พ.ร.บ.อุ้มหาย หรืออยากเห็นลูกหลานที่ถูกส่งมาเป็นรั้วของชาติ ต้องมีจุดจบเหมือนหลายกรณี”นายภคพงศ์ กล่าว


โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top