วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘โรม’ซัด‘รัฐบาลเขมร’ ก้าวร้าว-ยั่วยุใช้อาวุธ หวังดึงไทยขึ้น‘ศาลโลก’

‘โรม’ซัด‘รัฐบาลเขมร’ ก้าวร้าว-ยั่วยุใช้อาวุธ หวังดึงไทยขึ้น‘ศาลโลก’

วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.30 น.
Tag : ชายแดนไทยกัมพูชา ไทยกัมพูชา พรรคประชาชน รังสิมันต์โรม
  •  

"โรม"ซัด"รัฐบาลเขมร" ก้าวร้าว ยั่วยุ ใช้อาวุธ หวังล่อดึงไทยไป"ศาลโลก"ให้ได้ แนะตอบโต้เหมาะสม ลาก"นานาชาติ"มาลงพี้นที่ให้เห็นกับตา เหน็บ"ฮุนเซน"ทำทุกวิธีโฆษณาชวนเชื่อ บี้"บัวแก้ว"กระตือรือร้นกว่านี้ ใช้ทุกเวทีคำความเข้าใจ รับ"แพทองธาร"ไม่มาแจง"กมธ.ความมั่นคงฯ​"เข้าใจได้ แม้ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ขณะนี้ แต่เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ต้องรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) และประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ปัจจุบันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาทวีความรุนแรงมากขึ้น ว่า ตนของประนามรัฐบาลกัมพูชา เพราะพฤติกรรมของกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นการยั่วยุ การใช้ความรุนแรง การละเมินอนุสัญญาออตตาวาโดยใช้ระเบิดที่เป็นกับดัก ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ควรมีการใช้กันแล้ว และคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้ของกัมพูชาเป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เรายอมรับไม่ได้ ดังนั้น ประเทศไทยต้องประนามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชา เพราะเชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชาต้องมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตนคิดว่ากัมพูชาควรจะเข้าใจกว่าหลายๆประเทศด้วยซ้ำว่าความร้ายแรงและรุนแรงของกับดักระเบิดเป็นอย่างไร เพราะคนกัมพูชาได้รับความสูญเสียจากกับดักเหล่านี้มาเป็นเวลานาน และกัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุด ประเทศหนึ่งของโลกแต่กลับใช้พฤติกรรมเรื่องกับดักระเบิดต่อฝ่ายไทย


"ผมคิดว่าการเจรจาเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย และฝ่ายไทยคงจะต้องมีการตอบโต้อย่างเหมาะสม ผมคิดว่าเบื้องต้นที่ฝ่ายไทยสามารถดำเนินการได้ หลังจากที่ได้ชี้แจงกับทูตทหารของหลายๆประเทศ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่คิดว่าเราสามารถทำได้ในทันทีเพื่อให้โลกได้เห็นพฤติกรรมของกัมพูชา คืออาจจำเป็นต้องมีการเชิญทูตจากประเทศต่างๆไปสังเกตสถานการณ์ในที่เกิดเหตุ ผมคิดว่าโลกต้องเห็นอย่างเต็มที่ และมีข้อมูลที่เพียบพร้อมว่ากัมพูชามีความก้าวร้าว ยั่วยุเพื่อให้สถานการณ์บานปลาย และกระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำงานเชิญรุกมากกว่านี้ และย้ำว่าการที่จะไปรอเดือนธ.ค. เพื่อเอาเรื่องไปหารือตามแนวทางของอนุสัญญาออตตาวาเป็นสิ่งที่ช้าเกินไป และสิ่งที่เป็นรูปธรรมคือควรเอาเรื่องนี้เสนอต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ซึ่งเป็นเวที่สำคัญของสหประชาชาติ เพื่อให้ทั่วโลกได้เห็น ไม่ใช่แค่ระดับนักการทูตแต่ต้องระดับผู้นำประเทศถึงพฤติกรรมของกัมพูชาว่าก้าวร้าว และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนได้หารือกับ นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะ กมธ.ความมั่นคงฯ ทราบว่าวันนี้มีการยิงปืนใหญ่กันแล้ว สถานการณ์บานปลาย ซึ่งสิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดคือประชาชนตามแนวชายแดนที่จะได้รับผลกระทบ และทราบว่าในพื้นที่มีการซักซ้อมการอพยพแล้ว จึงเชื่อว่าในพื้นที่มีความพร้อม แต่เราไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายอย่างนี้นานแค่ไหน เราจึงมีความจำเป็นต้องเตรียมทุกความเป็นไปได้ เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนที่อนู่ในพื้นที่ไม่สมควรได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทั้งผู้ป่วยติดเตียง และเด็ก รัฐบาลต้องหามาตรการรองรับ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การประชุมกมธ.ในวันนี้ เดิมเราใช้อำนาจเรียกไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และรักษาการนายกฯ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และนายมาริษ​ เสงี่มพงษ์ รมว.การต่างประเทศ รวมถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม ด้วย ซึ่งเราเข้าใจว่ารัฐมนตรีบางส่วนอาจจะมีความจำเป็น และมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ เช่น พล.อ.ณัฐพล เราทราบว่าท่านติดภารกิจที่ต้องแก้ไขสถานการณ์ ก็เข้าใจได้ และต้องมีการหารือในกมธ. ซึ่งหากรัฐมนตรีบางคนอาจไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และไม่มาชี้แจงกับกมธ. เราคงต้องฟังคำอธิบายว่าไม่มาชี้แจงนั้นไม่มาด้วยเหตุผลอะไร เช่น น.ส.แพทองธาร เป็นหนึ่งในผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง เพราะเราต้องยอมรับว่าเรื่องคลิปเสียงที่สนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำให้รัฐบาลคุยกับรัฐบาลไม่ได้แล้ว และต้องยอมรับว่าผู้นำ 2 คน อาจจะมีปัญหาเรื่องส่วนตัว เรื่องขัดกันของผลประโยชน์หรือไม่ ไม่ทราบ แต่นำไปสู่สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านทั่วไปได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ซึ่วสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหาทางออกได้ เราต้องยอมรับว่าบุคคลเหล่านี้ต้องรับผิดชอบ และเรื่องนี้ต้องมีการคุยกันในกมธ. ว่าสิ่งที่น.ส.แพทองธารไปพูดในคลิปจะมีประเด็นชี้แจงต่อกมธ.อย่างไร และน.ส.แพทองธาร คงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการที่จะแก้ไขสถานการณ์ในวันนี้แล้ว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนนายภูมิธรรม ก็ต้องชี้แจงว่าไม่มาด้วยสาเหตุอะไรหรือติดภารกิจอะไร ส่วนนายมาริษเราได้รับแจ้งว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ​แต่กำลังดูว่าภารกิจที่ต่างประเทศเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงกระทรวงการต่างประเทศว่าถ้ากระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ให้ดีมากๆ ตนเชื่อว่าจะลดโอกาสของความขัดแย้งให้ลดลงมาแต่อาจจะไม่ได้การันตีร้อยเปอร์เซ็น อย่างน้อยที่สุดถ้าเรามีเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ การใช้อาวุธก็อาจะลดความสำคัญ ส่วนตนคิดว่าไทยต้องตอบโต้ในสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะไม่อยากให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจนเกินไป

เมื่อถามว่า ทางทหารไทยระบุว่าเจรจากับฝ่ายกัมพูชาไม่ได้แล้วจะมีข้อเสนอแนะอย่างไรเพื่อให้ไทยได้เปรียบ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นคิดว่าการเชิญทูตจากนานาชาติไปดูสถานการณ์ในพื้นที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในเมื่อเราคุยกับกัมพูชาไม่ได้ ไม่เป็นไร แต่เราคุยกับโลก ดังนั้น จึงคิดว่าการพูดคุยกับต่างประเทศให้เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความจำเป็น โดยไล่สถานการณ์จากเบาไปหนัก พร้อมกับความรองรับไม่ให้พลเรือนได้รับผลกระทบ ส่วนสุดท้ายสถานการณ์จะไปถึงไหนตอนนี้คงตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ากัมพูชาจะยั่วยุ และใช้ความรุนแรงไปถึงเมื่อไหร่แต่ดูแล้วท่าทีของสมเด็จฮุน เซน พร้อมทำทุกอย่างทุกวิธีการ โดยไม่ได้เลือกวิธีการเลย ดังนั้น ต้องยอมรับว่าการที่คุยกับสมเด็จฮุน เซ​นให้เข้าในสถานการณ์คงไม่ใช่เรื่องง่าย และคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ตอบโต้อะไรเลย และกัมพูชาพยายามต้องการที่เราไปสู่ศาลโลก และเมื่อมีการใช้อาวุธเกิดขึ้นก็มีโอกาสที่กัมพูชาจะพาเราไปสู่ศาลโลก

"แต่เมื่อทหารไทยได้รับบาดเจ็บ เราคงต้องตอบโต้ต่อไป และต้องยืนยันต่อโลกว่า เราไม่ได้รังแกกัมพูชา แต่กัมพูชามีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เหมาะสม ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อเป็นแบบนี้การสื่อสารของไทยต่อชาวโลกจึงต้องจำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น กระทรวงต่างประเทศต้องทำงานให้แอคทีฟกว่านี้ ใช้โอกาสและทุกเวทีในการสร้างความเข้าใจว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่ต้องการความขัดแย้ง และทำอย่างไรให้ทั่วโลกเข้าใจว่าประเทศไทยไม่ต้องการความขัดแย้ง ซึ่งจะเป็นการมอบโอกาสหลายอย่างที่ทำให้ไทยแก้ไขสถานการณ์ได้ ส่วนมาตรการเรื่องคอลเซ็นเตอร์และเรื่องอื่นๆรัฐบาลต้องกระตุ้นมากกว่านี้ ต้องทำทุกทางเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามของกัมพูชา ต้องยอมรับว่าสิ่งที่กัมพูชาทำอีกนิดเดียวจะเป็นเรื่องก่อการร้ายแล้ว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายมากและต้องประนาม และไม่มียาตัวไหนหยุดหยั้งความบ้าคลั่งของผู้นำกัมพูชาได้ จึงต้องใช้หลายตัวเพราะสมเด็จฮุน เซนก็อายุเยอะแล้ว เขาคิดว่าการใช้วิธีแบบนี้เพื่อเอาไปโฆษณาชวนเชื่อว่าเขาสามารถชนะประเทศไทยได้ การที่เขามีวิธีคิดแบบนี้ เขาทำทุกทางโดยไม่สนใจว่าความสูญเสียจะเป็นอย่างไร เมื่อเรารู้สถานการณ์ เราต้องทำให้ทั่วโลกรู้ว่าพฤติกรรมของกัมพูชาเป็นอย่างไร เราจะแสวงหาพันธมิตรได้ไม่ยาก และทำให้กัมพูชาเห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่หรือสิ่งที่ต้องการนั้น ไม่ได้อะไร และเราต้องรักษาศักดิ์ศรีของประเทศโดยที่กัมพูชาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ก่อเอาไว้" นายรังสิมันต์ กล่าว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'จักรภพ เพ็ญแข\'โอดสุดช้ำ! โพสต์ภาพตึกไทยคู่ฟ้า สะท้อนใจหลังปะทะเดือด\'น็อต วรฤทธิ์\' 'จักรภพ เพ็ญแข'โอดสุดช้ำ! โพสต์ภาพตึกไทยคู่ฟ้า สะท้อนใจหลังปะทะเดือด'น็อต วรฤทธิ์'
  • ‘ทบ.’โต้‘เขมร’ กระสุนคลัสเตอร์ใช้ตามความจำเป็น-เป้าหมายทางทหาร ‘ทบ.’โต้‘เขมร’ กระสุนคลัสเตอร์ใช้ตามความจำเป็น-เป้าหมายทางทหาร
  • \'อดีตบิ๊ก ศรภ.\'เผยเบื้องหลังความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ชี้เขมรจงใจโจมตีพลเรือนเพื่อกดดันไทย 'อดีตบิ๊ก ศรภ.'เผยเบื้องหลังความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ชี้เขมรจงใจโจมตีพลเรือนเพื่อกดดันไทย
  • \'ก่อแก้ว\'เผยเหตุขัดแย้ง\'ไทย-กัมพูชา\' เพราะ\'นายกฯ\'นามสกุล\'ชินวัตร\' 'ก่อแก้ว'เผยเหตุขัดแย้ง'ไทย-กัมพูชา' เพราะ'นายกฯ'นามสกุล'ชินวัตร'
  • ทบ.แจงไทม์ไลน์! สู้รบ 2 วัน ไทยกระทบ 10 จุด ซัด\'เขมร\'ไม่ใช่วิถีของนักรบ ทบ.แจงไทม์ไลน์! สู้รบ 2 วัน ไทยกระทบ 10 จุด ซัด'เขมร'ไม่ใช่วิถีของนักรบ
  • กต.แถลงคืบหน้า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กต.แถลงคืบหน้า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
  •  

Breaking News

‘ฮุน มาเนต’ฟ้อง‘อันวาร์’ อ้างกัมพูชาไม่ได้เริ่มก่อน-ไทยเลื่อนหยุดยิง

'จักรภพ เพ็ญแข'โอดสุดช้ำ! โพสต์ภาพตึกไทยคู่ฟ้า สะท้อนใจหลังปะทะเดือด'น็อต วรฤทธิ์'

ทภ.2แจ้งข่าว! ขอปชช.ทยอย'บริจาคโลหิต' ป้องกันหมดอายุ-สูญเสียโดยไม่จำเป็น

กทม.เปิดศูนย์ 'ส่งต่อกำลังใจ' 'ผู้ว่าฯชัชชาติ'ระดมสิ่งของจำเป็นช่วยผู้อพยพชายแดน3วันเต็ม!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved