ที่ประชุม‘ก.อ.’เคาะตั้ง 847 อัยการ ‘โกวิท’ขึ้นรอง อสส. ‘ประยุทธ’นั่ง อธ.อัยการภาค 4 คุมอีสานตอนบน ‘วัชรินทร์-สุรเชษฐ์’ผงาดขึ้น อธ.รอบแรกนั่งสำนักงานสอบสวน-เศรษฐกิจฯ ‘กรุณา’นั่งอธ.อัยการอาญา ‘สมคิด’คุมอาญามีนบุรี

26 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายนายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 11/2568 มีวาระสำคัญการพิจารณาบัญชีแต่งตั้งข้าราชการอัยการตั้งเเต่ตําแหน่งรองอัยการสูงสุดลงมาถึงอัยการอาวุโส รวมทั้งสิ้น 847 ตำเเหน่ง

สำหรับการเเต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้มีบัญชีรายชื่ออัยการและตำแหน่งที่น่าสนใจดังนี้

นายโชคชัย ทิฐิกัจจธรรม ผู้ตรวจการอัยการเป็น รองอัยการสูงสุดลำดับที่ 3 (คิวอัยการสูงสุดปี2569)

นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นรองอัยการสูงสุดลำดับที่7 (คิวอัยการสูงสุด2570)

นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเป็นผู้ตรวจการอัยการคนที่ 1 (หัวหน้าผู้ตรวจ)

นายกรุณา พันธุ์เพ็ชร อธิบดีอัยการคดีเศรษฐกิจเเละทรัพยากร เป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา

นายวีรยุทธ เนติวุฒิพงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานบังคับคดีเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด

นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค4 เป็นอธิบดีอัยการภาค4

นายสมคิด สายเจริญ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นั่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรี

นายสุรเชษฐ์ งามวงศ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เป็นอธิบดีสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีสอบสวนเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีสอบสวน

นายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามทุจริต 3 เป็นรองอธิบดีสำนักงานคดีปราบทุจริต

นายพลทัต สุราฤทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) ขึ้นนั่งรองอธิบดี อัยการสำนักงานคดีปกครองนครสวรรค์

นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุดเป็นอัยการอาวุโส(ที่ปรึกษาอัยการสูงสุด)

นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส สำนักงานต่างประเทศ

นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการคนที่1  โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส สำนักงานคดีแรงงานภาค3

นายชวรัตน์ วงศ์ธนะบูรณ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นอัยการอาวุโสสำนักงานอัยการคดีพิเศษ4

โดยบัญชีโยกย้ายครั้งนี้มีอัยการที่โดดเด่น ได้ขยับจากที่เดิม ได้เเก่

นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ที่ขยับขึ้นนั่งรองอัยการสูงสุดลำดับที่7 เเละยังมีคิวอัยการสูงสุดในปี 2570  ซึ่งบทบาทสมัยเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานปราบปราบการทุจริต ที่มีความสำคัญดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงเกี่ยวกับคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ซึ่งนายโกวิทเป็นอัยการสายบู๊ สายทำคดีลูกหม้อสำนักงานคดีพิเศษเก่า เคยรับผิดชอบคดีม็อบการเมืองและคดีผู้มีอิทธิพลสำคัญก่อนย้ายกลับไปภาคใต้ มีบทบาทในเรื่องคดีเกี่ยวกับปฏิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐที่สมัยเป็นอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 8 ที่สำคัญ ที่ผ่านมาตอนเป็นอธิบดีอัยการ สพอ.มีบทบาทในการจัดอบรมบรรยายปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรบทบาทหน้าที่ของอัยการผู้ช่วยที่สอบได้รวมถึงพัฒนาเพิ่มพูนทักษะของข้าราชการอัยการทั้งหมด รวมถึงหลักสูตรใหญ่ๆ ของอัยการทั้งหมดยังได้รับเลือกเป็นกรรมการเนติบัณฑิตยสภา เเละกรรมการอัยการถือว่าได้รับการยอมรับจากพี่น้องอัยการ

นายกรุณา พันธุ์เพ็ชร ขยับจากอธิบดีอัยการเศรษฐกิจเเละทรัพยากรเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งเป็นสำนักงานที่รับคดีอาญาอุกฉกรรจ์และมีความสำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลักมาพิจารณาและสั่งสำนวนคดี รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามที่มีอำนาจการดำเนินคดีอาญาทั่วประเทศ แบ่งเป็น 12 กองงานมีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลอาญาซึ่งเป็นศาลหลักของประเทศรวมทั้งยังเป็นสำนักงานที่มีหน้าที่แก้ต่างคดีอาญาให้กับข้าราชการทั่วประเทศที่ถูกฟ้องเพราะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ รวมถึงยังเป็น1ในคณะกรรมการพิจารณาคดี 112 ของอัยการด้วย

นายประยุทธ เพชรคุณ อดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด จากอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 ขยับนั่งอธิบดีอัยการภาค4

สำหรับนายประยุทธฉายานักรบภูธร เป็นอดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดคนดัง เเละเคยเป็นรองโฆษกอัยการมา 7 ปีที่ได้รับการชื่นชมเรื่องสื่อสารภาษากฎหมายที่กระชับและเข้าใจง่าย รับหน้าที่แถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและคดีใหญ่สะเทือนขวัญ สำคัญหลายคดี ให้กับสื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจชัดแจ้ง รวมถึงมีบทบาทการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กร ถือเป็นอัยการมหาชนที่ได้รับความนิยมชมชอบจากพี่น้องอัยการ เนื่องจากมีฝีมือทั้งบุ๋นบู๊ เป็นทั้งสายบวกงานวิชาการ กับนิสัยเป็นคนง่ายสบายๆ ไม่ถือตัว จึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ดูได้จากการเลือกตั้งคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) หรือกรรมการเนติบัณฑิตยที่ผ่านมาที่ได้คะแนนลำดับที่ 1 ด้วยคะแนนท่วมท้น และเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันจนมีการเปลี่ยนแปลงเสื้อครุยของพนักงานอัยการซึ่งอัยการทั่วประเทศจะเริ่มใช้1 เมษายนปีหน้า

นายสมคิด สายเจริญ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษขึ้นนั่ง เป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรีซึ่งมีอาคารของสำนักงานเอง  นายสมคิดผ่านงานสายคดีมาอย่างโชกโชนเนื่องจากประจำอยู่สำนักงานหลักอย่างสำนักงานอัยการคดีอาญา เเละสำนักงานอัยการคดีพิเศษซึ่งเป็นประเภทคดีใหญ่ที่มีความสลับซับซ้อน

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนขยับนั่ง อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน นายวัชรินทร์ ชื่อเล่นกุ๊ก ฉายา กุ๊ก FBI   หรืออัยการ FBI เนื่องจากจบหลักสูตร Major Case Management จาก F.B.I. Academy Quantico Virginia U.S.A.

นายวัชรินทร์เป็นอัยการสอบสวนฝีมือดีมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักกันหลากหลายวงการ เป็นลูกหม้อสำนักงานการสอบสวนที่ฝังตัวเป็นสิบปี เคยได้รางวัลอัยการดีเด่นช่วงที่ผ่านมา ได้รับความไว้วางใจจากอัยการสูงสุดหลายคนในการลงไปร่วมสอบสวนคดีสำคัญระดับประเทศจำนวนมาก เช่น มีบทบาทได้รับอนุญาตเป็นหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนร่วมกับ DSI เเละพนักงานสอบสวนตำรวจจำนวนมาก อาทิ คดีปล้นปืนทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดน, คดีปิกนิค ,คดีรถหรู ,คดีฮั้วประมูลหลายโครงการ ,คดีทุจริตภาษีน้ำมันความเสียหายหลายหมื่นล้าน ,คดี เครือข่าย ตุน มิน ลัต ,หัวหน้าชุดคดีเป้รักผู้การ ที่มีการกล่าวหา อดีตผู้บังคับการชลบุรีเรียกเงิน140 ล้านบาท ,คดีลุงเปี๊ยกโดนยัดข้อหา ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ  คดี7 ตำรวจจราจรรุมกระทืบหนุ่มผิดตัว เป็นอัยการร่วมสอบคดีกำนันนกยิงสารวัตรแบงค์ ตายในบ้านเเละนั่งเป็น ที่ปรึกษาคดีพิเศษสอบบริษัท กำนันนกฮั้วประมูลสร้างทางหลวง , คดีทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ฉ้อโกงเจ๊อ้อย เเละล่าสุดนั่งหัวหน้าคณะทำงานร่วมสอบคลิปเสียงฮุนเซนเป็นภัยความมั่นคง

ทั้งยังได้รับความเชื่อใจจากหน่วยงานภายนอกให้เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ สปสช.และ คณะกรรมการการเลือกตั้งด้วย รวมถึงยังเคยเป็นที่ปรึกษา ผบ.ตร.ด้านกฎหมาย อีกทั้งเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชากฎหมายในมหาวิทยาลัยรามคำแหงและมหาวิทยาลัยอื่นๆ  ที่ผ่านมาเคยถูกเเต่งตั้งเป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ที่รับผิดชอบเเถลงข่าวงานด้านการสอบสวนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหน้างานที่ดูเเลเเละจะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีความสลับซับซ้อนเเละมีกฎหมายเฉพาะ ให้สื่อมวลชนเเละประชาชนเข้าใจขั้นตอนต่างๆ

นายสุรเชษฐ์ งามวงศ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจฯขึ้นนั่งเป็นอธิบดีสำนักงานเดิมถือว่ามีความเหมาะสมเพราะถือเป็นลูกหม้อที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงานเดิม เนื่องจากสำนักงานนี้เป็นสำนักงานสำคัญที่รับสำนวนคดีเศรษฐกิจที่มีความสลับซับซ้อน ต้องใช้ผู้ที่เชี่ยวชาญมาทำงานต่อเนื่อง

สำหรับเส้นทางราชการ นายสุรเชษฐ์ ก่อนหน้านี้สมัยเป็นอัยการจังหวัดสมุทรปราการซึ่งเป็นจังหวัด สำคัญที่มีคดีสำคัญจำนวนมาก พอเข้าระดับฝ่ายก็มาอยู่ที่ที่สำนักงานอัยการคดีศาลสูงเเละสำนักงานคดีพิเศษซึ่งถือเป็นสำนักงานเกรดเอ เรียกว่าอัยการมีฝีมือ ที่ผู้ใหญ่ไว้เนื้อเชื่อใจให้อยู่สำนักงานสำคัญมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้รับเลือกจากอัยการทั่วประเทศให้เป็น ก.อ.ด้วยคะเเนนสูงสุด ถือเป็นมือดีทำงานครบเครื่องคนหนึ่ง

สามารถดูผลการประชุม ก.อ.ฉบับเต็มได้ตามลิงก์นี้

https://drive.google.com/file/d/1wPokBI5v8-mY07SGAl2CGRRBaElpK8qG/view