"เท้ง"นำฝ่ายค้าน หนุนงบฯ"แอนตี้โดรน"ป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เร่งดันให้ทันงบปี 69 ชื่นชม"จังหวัดตราด"รับมือและอพยพชาวบ้านได้ดี จี้รัฐแก้เศรษฐกิจระยะยาวหลังเหตุปะทะ
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด และคณะ สส.พรรคประชาชน เดินทางลงพื้นที่ตราด เพื่อรับฟังข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับ การรับมือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมี นายพีระ เอี่ยมสุนทร นายดำรงศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
โดย นายพีระ เอี่ยมสุนทร รายงานว่า สถานการณพื้นที่ชายแดนตราด จังหวัดตราด กลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่มีการอพยพมายังศูนย์พักพิง เมื่อคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หลังจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งให้อพยพ ซึ่งถือการข่าวมีความแม่นยำ ทำให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยปลอดภัยทุกคน ขณะที่แผนการอพยพในอนาคต ได้มีการวางแผนรับมือไว้แล้ว หากเกิดสถานการณ์ขึ้นมาอีก
หลังจบการประชุมแล้ว นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอชื่นชมจังหวัดตราด ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนจากสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนที่ผ่านมา ซึ่งการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวดำเนินการไปได้ด้วยดี และปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลงจนสามารถปิดศูนย์พักพิงและส่งประชาชนกลับสู่ภูมิลำเนาได้ตามปกติแล้ว ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาและแก้ไขอย่างเร่งด่วนในระยะยาวคือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในหลายภาคส่วนของจังหวัดตราด ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร, การประมง, การท่องเที่ยว และการค้าชายแดน นอกจากนี้ยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทวีความรุนแรงขึ้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของเราคือการมารับฟังปัญหาและรวบรวมข้อเสนอแนะส่งต่อไปยังรัฐบาล เพื่อให้ออกแบบนโยบายและมาตรการช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละส่วนมีความต้องการต่างกัน บางส่วนต้องการแรงงาน บางส่วนต้องการให้รัฐช่วยหาตลาดใหม่ๆ หรือบางส่วนต้องการแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โจทย์คือ การมองไปข้างหน้าเพื่อลดผลกระทบปัญหาปากท้องของประชาชนให้ได้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า ในพื้นที่มีการนำ Anti-Drone มาใช้ แต่ยังขาดแคลน Anti-Drone นายณัฐพงษ์ บอกว่า เชื่อว่า สส.ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะ พรรคประชาชน พร้อมที่จะสนับสนุนยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้กับหน่วยงานความมั่นคงในการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดน ซึ่งตอนนี้การรบเปลี่ยนยุคสมัยไป จะเห็นข่าวว่ามีการบินโดรนมาจากประเทศกัมพูชารุกล้ำชายแดนของไทย เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ในการสนับสนุน เรื่องของแอนตี้โดรน (Anti-Drone) หรือว่า โดรนโลเคเตอร์ (Drone Location) ในการกำหนดจุด ว่าโดรนที่บินเข้ามาถูกควบคุมสั่งการจากที่ไหนก็เป็นสิ่งสำคัญเป็นยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับโลกในอนาคต แล้วก็ในยุคปัจจุบันด้วย เพราะฉะนั้นในส่วนของการสนับสนุนงบประมาณในสภา ผมคิดว่าไม่น่าติดใจอะไรแล้ว แต่ว่าสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ งบประมาณต่างๆ จะต้องถูกเสนอมาโดยหน่วยงานต้นสังกัด ในพื้นที่เร่งเสนอแผนความต้องการงบประมาณ เพื่อผลักดันให้ทันในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 และ 3 ภายในเดือนนี้ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี