"กมธ.สาธารณสุข"ซัด"พรรคการเมือง" หยุดให้ร้าย"โรงพยาบาล-บุคลากรการแพทย์"ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมแสดงจุดยืนต่อการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่เข้าใจข้อเท็จจริง ซึ่งบั่นทอนขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 คณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา นำโดย นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงข่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการให้บริการสาธารณสุขของสถานพยาบาลในพื้นที่ รวมถึงส่งผลต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมากทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
นายประพนธ์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการฯ จึงขอแถลงข้อเท็จจริงและแสดงจุดยืน ดังนี้ 1.สถานการณ์ชายแดนกระทบรุนแรงต่อระบบบริการสุขภาพ คณะกรรมาธิการฯ ขอยืนยันว่า เหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนจ.อุบลราชธานี เป็นวิกฤตรุนแรงที่กระทบต่อความมั่นคงและระบบบริการสาธารณสุขโดยตรง สถานพยาบาลหลายแห่งเสียหายต้องหยุดให้บริการ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพเพื่อความปลอดภัย โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ในฐานะโรงพยาบาลศูนย์ระดับเขตที่ดูแลประชาชนใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร รวมทั้งศูนย์พักพิงหลายแห่ง จำเป็นต้องปรับระบบบริการให้สอดคล้องกับภาวะฉุกเฉินเพื่อดูแลผู้ป่วยทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างทั่วถึง โดยยึดหลักมนุษยธรรมและความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะทางรัฐ สื่อมวลชน และฝ่ายการเมือง ร่วมกันสนับสนุนและปกป้องผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ซึ่งกำลังเสียสละอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ชายแดนยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง มีศักดิ์ศรี และไม่ถูกบั่นทอนด้วยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
นายประพนธ์ กล่าวอีกว่า 2.การปรับระบบบริการของโรงพยาบาล เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยทุกกลุ่ม ขอเน้นย้ำว่า การที่โรงพยาบาลต้องปรับลดบริการบางประเภทเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการให้บริการในภาวะวิกฤต โดยยังคงเปิดให้บริการในส่วนที่จำเป็นอย่างเต็มกำลังและยังคงดูแลผู้ป่วยทุกเชื้อชาติอย่างเท่าเทียม 3.ขอประณามการให้ร้ายบุคลากรทางการแพทย์ และการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งบั่นทอนขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ โดยปราศจากข้อเท็จจริงที่เป็นธรรมต่อโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์และบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สถานการณ์ยากลำบาก การบิดเบือนข้อเท็จจริงในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงานเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน ถือเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบและไม่สมควรอย่างยิ่ง
นายประพนธ์ กล่าวต่อว่า 4.ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองบางพรรคหยุดใช้สถานการณ์วิกฤตเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน การที่พรรคการเมืองบางพรรคออกมาแสดงความเห็นในลักษณะให้ร้ายโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่เข้าใจข้อเท็จจริงของสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า การแสดงความเห็นทางการเมืองในภาวะวิกฤตควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ความรับผิดชอบ และความเคารพต่อผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ไม่ใช่การฉวยโอกาสสร้างความเข้าใจผิดในสังคม 5. ขอยืนยันเจตนารมณ์ในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ชายแดนทุกคนและขอยืนหยัดเคียงข้างให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบบริการสุขภาพยังคงดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับทุกชีวิตที่อยู่ในพื้นที่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี