วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
รัฐบาลจัดงบเยียวยาผู้เสียชีวิต จนท.รัฐได้10ล้าน ชาวบ้าน8ล./เหตุปะทะไทย-เขมร

รัฐบาลจัดงบเยียวยาผู้เสียชีวิต จนท.รัฐได้10ล้าน ชาวบ้าน8ล./เหตุปะทะไทย-เขมร

วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ไทย-กัมพูชา ปะทะชายแดน เยียวยาผู้เสียชีวิต
  •  

รัฐบาลจัดงบเยียวยาผู้เสียชีวิต

จนท.รัฐได้10ล้าน

ชาวบ้าน8ล./เหตุปะทะไทย-เขมร

ครม.อนุมัติสั่งจ่ายจากงบกลาง

‘ภูมิธรรม’มั่นใจก้าวผ่านวิกฤต

คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เยียวยา เหตุปะทะชายแดน จนท. รัฐเสียชีวิต 10 ล้าน พลเรือน 8 ล้านบาท “ภูมิธรรม” แถลง ย้ำคนไทยจะก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1.เห็นชอบหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 2568 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ หากมีผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม ให้หน่วยงานขอรับการจัดสรรงบฯ ตามขั้นตอนต่อไป 2.เห็นชอบกรอบอัตราเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ (ต่อราย) ดังนี้ เจ้าหน้าที่รัฐ (เช่น ทหาร ทหารพราน ตำรวจ ตชด.) เสียชีวิตและทุพพลภาพ10ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส1ล้านบาท บาดเจ็บมาก5แสนบาท ประชาชน เสียชีวิตและทุพพลภาพ 8 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 8 แสนบาท บาดเจ็บมาก 4 แสนบาท


3.เห็นชอบกรอบวงเงินงบฯ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (วันที่ 16 ก.ค. - 2 ส.ค. 2568) จำนวน 404.60 ล้านบาท โดย (1) เบิกจ่ายจากงบกลางฯ เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี และ (2) กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยตามระเบียบ นร. ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยพ.ศ.2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้จัดเตรียมข้อมูลต่อไป ในการเยียวยาทรัพย์สินที่มีความเสียหาย

ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ แถลงว่า “ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน”ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญสองประการ ที่ท้าทายและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศ เราเผชิญกับสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่เดือนก.พ.2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ การนำเสนอข่าวปลอมที่ทำลายความไว้วางใจทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ที่สำคัญ รัฐบาลยึดมั่นในการเลือกใช้แนวทางสันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และตามหลักมนุษยธรรมมาโดยตลอด เราชาวไทยมีเอกลักษณ์ที่สืบทอดกันมา คือ ความเป็นคนที่รักสงบ อยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเข้าใจในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีต่อกันและกัน แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งที่นำไปสู่การสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม

รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ในทันที ทั้งทางการทหาร การข่าว และการต่างประเทศอย่างรอบด้าน และเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตย และชีวิตของประชาชนในชาติ และทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนได้สิ้นสุดลงแล้วเบื้องต้น และได้เริ่มเข้าสู่การเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันผ่านการประชุม GBC ตามหลักสันติวิธี ซึ่งประเทศไทยของเราได้ยึดมั่นมาโดยตลอด รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว และพี่น้องประชาชนทุกท่านในจังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งแม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ

โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10,000,000 บาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8,000,000 บาท พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน

สถานการณ์สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐบาลขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ การที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ19 จึงสะท้อนให้เห็นถึง ความพยายาม และผลจากการทำงานอย่างใกล้ชิดของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค ซึ่งอาจถือได้ว่า นี่คือโอกาสใหม่ของไทยในการเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ดี รัฐบาลทราบดีว่า การเปลี่ยนแปลงกติกาและโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก ย่อมทำให้ทุกประเทศต้องมีการปรับตัว ดังนั้น รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง บทเรียนจากเหตุการณ์ทั้งสองที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้พวกเราต่างได้เรียนรู้ว่า การจะก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัยความสามัคคีของพวกเราชาวไทยทุกคนเพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อน

ขณะนี้ก็ถึงเวลาที่เราคนไทยทุกคนจะจับมือร่วมใจกัน มองตรงไปยังโอกาสและความท้าทายข้างหน้า เพื่อเริ่มก้าวเดินไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันอีกครั้ง นั่นคือ การสร้างประเทศไทยให้มีแต่ความสงบร่มเย็น และเพื่อประชาชนทุกคนได้อยู่ดีมีสุขโดยเร็ว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'บิ๊กเล็ก\'ถึงมาเลย์ เตรียมประชุม GBCไทย-กัมพูชา เผยชื่อคณะเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิง 'บิ๊กเล็ก'ถึงมาเลย์ เตรียมประชุม GBCไทย-กัมพูชา เผยชื่อคณะเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิง
  • รบ.ยกร่างเตรียมฟ้อง‘อาญา-แพ่ง’ระดับโลก เอาผิด‘กัมพูชา’ ฐานรุกรานอธิปไตยชาติไทย รบ.ยกร่างเตรียมฟ้อง‘อาญา-แพ่ง’ระดับโลก เอาผิด‘กัมพูชา’ ฐานรุกรานอธิปไตยชาติไทย
  • ชงจ่ายเยียวยาเพิม ครม.5ส.ค.เคาะช่วยเหยื่อเขมร ชงจ่ายเยียวยาเพิม ครม.5ส.ค.เคาะช่วยเหยื่อเขมร
  • อัยการบี้คดี‘อิ๊งค์’คุย‘อังเคิล’ นัดสอบพยานสัปดาห์หน้า อัยการบี้คดี‘อิ๊งค์’คุย‘อังเคิล’ นัดสอบพยานสัปดาห์หน้า
  • เจรจาหยุดยิงไทยถูกรุมกินโต๊ะ ‘จตุพร’ฉะ‘อ้วน’ เสียค่าโง่-เสียเปรียบ เจรจาหยุดยิงไทยถูกรุมกินโต๊ะ ‘จตุพร’ฉะ‘อ้วน’ เสียค่าโง่-เสียเปรียบ
  • ซัด‘เขมร’ไม่ซื่อ รบ.ออกแถลงการณ์ละเมิดหยุดยิง จวกแหลกไม่มีความจริงใจ ซัด‘เขมร’ไม่ซื่อ รบ.ออกแถลงการณ์ละเมิดหยุดยิง จวกแหลกไม่มีความจริงใจ
  •  

Breaking News

'ภูมิธรรม'ย้ำแล้วย้ำอีก!! ปลดล็อก'โป๊กเกอร์'เพื่อการกีฬา หวังจัดแข่งระดับสากล

'ภูมิธรรม'รับฟัง ทหารชายแดนใต้ร้องเยียวยาเทียบเท่าเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา"

พิพิธภัณฑ์เด็กกทม.1 จตุจักร ชวนมาเป็นนักสำรวจตัวจิ๋ว สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 12-17 ส.ค.นี้

‘ภูมิธรรม’มอบนโยบายมหาดไทย ลั่นไม่ได้ข่มขู่-อำนาจบาตรใหญ่ แต่มีแกะดำมาเป็นราชการ​

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved