วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
บึ้มข้อเท้าขาด1/บาดเจ็บอีก2นาย ทหารไทยเหยียบกับระเบิด แนวรบด้านศรีสะเกษระอุซ้ำ

บึ้มข้อเท้าขาด1/บาดเจ็บอีก2นาย ทหารไทยเหยียบกับระเบิด แนวรบด้านศรีสะเกษระอุซ้ำ

วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ‘ทบ.-บัวแก้ว’ประณามเขมรยับ ทหารไทย แนวรบด้านศรีสะเกษระอุซ้ำ แนวหน้าออนไลน์ เหยียบกับระบิด อุปสรรคหยุดยิง ‘บิ๊กอ้วน’ยึดกลไกRBCแก้ไข ข้อเท้าขาด1/บาดเจ็บอีก2นาย
  •  

บึ้มข้อเท้าขาด1/บาดเจ็บอีก2นาย
ทหารไทยเหยียบกับระเบิด
แนวรบด้านศรีสะเกษระอุซ้ำ
‘ทบ.-บัวแก้ว’ประณามเขมรยับ
เป็นอุปสรรคต่อการหยุดยิง
‘บิ๊กอ้วน’ยึดกลไกRBCแก้ไข

แนวรบพระวิหารด้านศรีสะเกษระอุ! ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเท้าขาด 1 นายเจ็บ 2 นาย ขณะลาดตระเวนเส้นทางวางลวดหนามป้องกันพื้นที่บริเวณ
รอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา โฆษก ทบ.–บัวแก้ว ซัด กัมพูชาใช้อาวุธซ่อนรูปอุปสรรคสำคัญต่อการหยุดยิง-แก้ปัญหาสันติ ขณะที่ “บิ๊กอ้วน” ยังใจเย็นขอยึด
หลักการขอใช้กลไก RBC แก้ไขปัญหา

วันที่ 9 ส.ค.68 กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเหตุเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 111 ได้เกิดเหตุเหยียบกับระเบิดในระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนและวางลวดหนามป้องกันพื้นที่รอยต่อชายแดนบริเวณโดนเอาว์-กฤษณา (ข้างภูมะเขือ) จังหวัดศระสะเกษ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้การช่วยเหลือและนำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลในพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อทำการรักษา


พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีมีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดในขณะทำการลาดตระเวนเส้นทางเพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นายได้แก่ 1.จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด 2.พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง และ 3.พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ ตำแหน่งพลปืนเล็ก ได้รับแรงอัดและบาดเจ็บบริเวณแก้วหู

“ผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลในพื้นที่ และนำส่งโรงพยาบาลทหารภาคสนามทันที โดยได้ส่งต่อ จ่าสิบเอก ธานี พาหา ไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน” พล.ต.วินธัย กล่าว

แฉเขมรใช้อาวุธซ่อนรูป

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้สังคมภายในประเทศและในสังคมโลก ทั่วไปเข้าใจได้ว่า การใช้อาวุธต่อกันยังคงมีอยู่ เป็นลักษณะของการพยายามที่จะใช้อาวุธต่อกันในแบบซ่อนรูป สิ่งนี้อาจนับเป็นอุปสรรคที่สำคัญ ต่อการดำเนินการในมาตรการหยุดยิง และการแก้ไขปัญหาในแบบสันติวิธี รวมถึงแสดงถึงว่าที่ผ่านมากัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มในการใช้อาวุธก่อนมาตลอด ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์

เปิดภาพเขมรซุกระเบิด

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 68 หน่วยทหารช่างได้เข้าดำเนินการทำพื้นที่ให้ปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในบริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบพบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น แบ่งเป็น จำนวน 16 ทุ่น บรรจุอยู่ในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด และจำนวน 2 ทุ่น วางแบบเร่งด่วน โดยไม่ฝังกลบ บริเวณรอบบ่อน้ำ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด หน่วยทหารช่างได้ดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้ง 18 ทุ่นเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันยังพบลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด และลูกจรวด RPG จำนวนมาก ซึ่งจากหลักฐานดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างชัดเจน

ทุ่นระเบิด PMN-2เพียบ

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” ได้เผยแพร่ภาพการปฏิบัติงานของทหารช่างจากกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งได้รับภารกิจให้เข้าไปทำความสะอาดและเก็บกู้อาวุธหลังเหตุการณ์ปะทะบริเวณภูมะเขือ โดยในภาพแสดงให้เห็นถึงการค้นพบสรรพาวุธและสิ่งปนเปื้อนจำนวนมาก โดยเฉพาะทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งนี้ ในโพสต์ดังกล่าวมีการตั้งข้อสังเกตถึงคำกล่าวของ นายเฮง รัตนา ผอ.สำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAC) ที่เคยระบุว่าไม่มีการใช้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติงานของทหารช่างไทยในครั้งนี้จึงสวนทางกับคำกล่าวอ้างของทางการกัมพูชาอย่างชัดเจน

โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ระบุว่า พล.อ.รัด ดารารัด รองปลัดกระทรวงกลาโหม ได้หารือกับผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) และกล่าวอ้างว่าทหารกัมพูชา 18 นายถูกควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายด้วย โดยยืนยันว่าการควบคุมตัวทหารกัมพูชาทั้ง 18 นายเป็นไปตามหลักกฎหมายสากล และอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของอนุสัญญาเจนีวา ไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง

“การควบคุมตัวนี้จำเป็นต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าสถานการณ์การหยุดยิงจะสงบลงอย่างสมบูรณ์และเป็นรูปธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเหล่านี้กลับไปทำการสู้รบกับฝ่ายไทยอีก ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักสากล” โฆษกกองทัพบก กล่าว

เป็นระเบิดชนิดเดียวกัน

ต่อมาเวลา 14.00 น.วันเดียวกันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยระบุว่าเมื่อเวลา 10.00 น.กำลังพลจาก ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่บริเวณรอยต่อช่องโดนเอาว์ - กฤษณา โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย ระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด สันนิฐานขั้นต้นจากเศษชิ้นส่วนที่พบ ในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN 2 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่หน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดของ พัน.ร.11 เก็บกู้ได้ในพื้นที่โดยรอบภูมะเขือ ในห้วงวันที่ 8 – 9 สิงหาคม 2568 โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 3 นายดังกล่าว ปัจจุบันทหารทั้ง 3 นายได้นำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

ในด้านการช่วยเหลือประชาชน กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินการหารือร่วมกับส่วนราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดที่รองรับประชาชนในศูนย์พักพิง เพื่อประเมินสถานการณ์ ความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่อย่างรอบด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนดจุดหรือพื้นที่ที่ปลอดภัยเพียงพอต่อการอพยพประชาชนกลับภูมิลำเนา

ส่วนการดูแลผู้อพยพ ส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ยังคงให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกในพื้นที่รวบรวมพลเรือนใน 4 จังหวัด จำนวน 267 จุด จากเดิม 307 จุด ปัจจุบันมียอดรวม 51,104 คน ลดลงจากวันที่ 8 สิงหาคมจำนวน 6,594 คน และมีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของส่วนราชการในพื้นที่ โดยการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในการปฏิบัติตามขั้นตอน โดยเน้นย้ำให้ประชาชนติดตามข่าวสารจาก ผู้นำชุมชนอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังได้ขอบคุณจิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน ประชาชนจิตอาสา หน่วยงานราชการทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ เสียสละเวลา กำลังกาย และกำลังใจ ในการดูแลช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัดด้วย

“ภูมิธรรม”รับเสียใจ

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ เกี่ยวกับกรณีที่กำลังพลทหารเหยียบกับระเบิดในพื้นที่รอยต่อช่องโดนเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษว่า ได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว เป็นกองร้อย ร.111 ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ใช่ในหมู่บ้าน แต่เป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการเจาะเป็นช่อง เพื่อเป็นการป้องกันการหลุดรอดเข้ามา และตนขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางปฏิบัติไม่ใช่การที่จะนำไปสู่ความเข้าใจกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรามีการบันทึกรายละเอียดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ เพราะเราต้องบันทึกเรื่องนี้เพื่อนำเข้าสู่อนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่เราต้องดำเนินการตรวจและระมัดระวัง เคลียร์พื้นที่อื่นตามไป ซึ่งจังหวัด.สุรินทร์ มีการเคลียร์พื้นที่ไปแล้วกว่า 400 ลูก

ยังใจเย็นขอถกในRBC

เมื่อถามว่าการกู้ทุนระเบิดเป็นหนึ่งในสองเงื่อนไขที่กัมพูชาไม่รับ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันต่อในการประชุม RBC และได้มอบให้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการ เพราะขณะนี้ส่งเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งเราจะต้องแจ้งตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้เห็นว่าข้อเท็จจริงคืออะไร

ส่วนเหตุการณ์นี้จะทำให้สถานการณ์ชายแดนกลับมาบานปลายจนเกิดเหตุปะทะขึ้นอีกครั้งหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เป็นการยิงเข้ามาใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและได้เกิดขึ้นแล้ว ถือเป็นหนึ่งหลักฐานที่เราจะเสนอให้เห็นว่า “มีเรื่องนี้เกิดขึ้นอยู๋”

กต.ประท้วงกำพูชา

ด้านกระทรวงการต่างประเทศออก แถลงการณ์ เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 3 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 111 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในดินแดนของไทยในพื้นที่บริเวณรอยต่อโดนเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการเก็บกู้ทุ่นระบิดเรียบร้อยแล้ว ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นั้น หลักฐานทุ่นระเบิดที่พบสอดคล้องกับผลการตรวจสอบการ พบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกองทัพบก่อนหน้านี้ว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ดังนั้น การวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่นี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และนับเป็นครั้งที่ 3 ที่กองกำลังไทยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 เดือนจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และเป็นการละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) อย่างชัดเจน ไทยอยู่ระหว่างการมีหนังสือประท้วงเรื่องดังกล่าวไปยังกัมพูชา และประธานอนุสัญญาฯ

การกระทำดังกล่าวเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรงต่อการดำเนินการตามมาตรการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ไทยจึงขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที และให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี และตามที่ฝ่ายไทยได้เสนอต่อที่ประชุม GBC ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบสนอง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ลงพื้นที่ให้ความรู้ปชช. ย้ำหากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยรีบแจ้ง จนท. ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ลงพื้นที่ให้ความรู้ปชช. ย้ำหากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยรีบแจ้ง จนท.
  • \'นันทนา\'โร่แจงปมโผล่มอบปริญญาฯ\'ฮุน เซน\' ลั่นเจอปฏิบัติการ\'ดิสเครดิต\' 'นันทนา'โร่แจงปมโผล่มอบปริญญาฯ'ฮุน เซน' ลั่นเจอปฏิบัติการ'ดิสเครดิต'
  • เขากระโดงระอุ! งัดเอกสารโต้แหลก‘คกก.มาตรา 61’ ยันเพิกถอนที่ดิน‘เขากระโดง’ไม่ได้ เขากระโดงระอุ! งัดเอกสารโต้แหลก‘คกก.มาตรา 61’ ยันเพิกถอนที่ดิน‘เขากระโดง’ไม่ได้
  • เขมรก็คือเขมร!! ปัดวางทุ่นบอมบ์ชายแดน ทำทหารไทยเจ็บ3นาย เขมรก็คือเขมร!! ปัดวางทุ่นบอมบ์ชายแดน ทำทหารไทยเจ็บ3นาย
  • นักวิชาการชี้\'ศาลฎีกา\'เพิกถอนสิทธิสมัคร สว.10 ปี ปมจับคู่แลกคะแนนในการเลือกตั้ง นักวิชาการชี้'ศาลฎีกา'เพิกถอนสิทธิสมัคร สว.10 ปี ปมจับคู่แลกคะแนนในการเลือกตั้ง
  • \'ศบ.ทก.\'รายงานเหตุชายแดนตลอดช่วงคืน-เช้า สถานการณ์ปกติ ย้ำพื้นที่ลาดตระเวนเขตไทย100% 'ศบ.ทก.'รายงานเหตุชายแดนตลอดช่วงคืน-เช้า สถานการณ์ปกติ ย้ำพื้นที่ลาดตระเวนเขตไทย100%
  •  

Breaking News

โลกลูกหนังเศร้า!ยิงนักเตะดังดับคาฉนวนกาซา

'อั๋น ภูวนาท'ฟาด'เจี๊ยบ ก้าวไกล' ลั่น'อย่าใช้ปากตามใจโดยไม่ผ่านสมอง'

กกต.พร้อมสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 เชียงราย 13-17 ส.ค.นี้

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ลงพื้นที่ให้ความรู้ปชช. ย้ำหากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยรีบแจ้ง จนท.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved