เขากระโดงระอุ! งัดเอกสารโต้แหลก ‘คกก.มาตรา 61’ สองชุดในปี 52-67 ยันเพิกถอนที่ดิน ‘เขากระโดง’ ไม่ได้ เหตุ‘รฟท.’ รับไร้แผนที่ ‘แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ปี 2462’ พ่วงกม. ‘จัดซื้อที่ดินปี 2464’ อ้างหาไม่พบ เพราะล่วงเวลามา 85 ปี แต่ใช้ ‘แผนที่ ทหาร’ แทน ขณะที่ข้อต่อสู้ใน ‘ศาลฎีกา-ศาลปกครอง’ ใช้หลักฐานกลุ่ม ‘สมัชชาคนจนปี 39’ แทน สอดรับข้อมูลปี 64 ตอกย้ำยอมรับไม่มีแผนที่แนบพรฎ.2ฉบับเช่นกัน
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) เวนคืนที่ดินพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์นั้น
ล่าสุดได้ตรวจสอบย้อนหลัง พบเอกสารที่นายสุชาติ เต็งสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญกรมที่ดิน ได้ทำบันทึกข้อความถึงนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน(ในขณะนั้น) โดยลงนามรับรองวันที่ 18 มี.ค.2552 เรื่องการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยบริเวณเขากระโดง เกี่ยวกับผลการสอบสวนคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
เกี่ยวกับตรวจสอบโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และ 8564 ต.อิสาน อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ บนเนื้อที่ประมาณ 5,083 ไร่ที่ไม่ชอบ เพราะได้ออกในเขตที่ดินของการรถไฟนั้น
โดยในตอนหนึ่งของเอกสาร พบเหตุผลที่กรมที่ดิน ไม่สามารถเพิกถอน และยุติเรื่องสอบ เพราะ รฟท. ไม่สามารถจัดส่งรูปแผนที่ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงต่อจาก จ.นครราชสีมา ถึง จ.อุบลราชธานี พ.ศ. 2462 มาแสดงได้
แต่ได้จัดส่งแผนที่นครราชสีมา (บุรีรัมย์) ของกรมแผนที่ทหาร พ.ศ. 2464 ลงวันที่ 13ก.พ. 2552 มาให้แทน โดยระบุว่า “ค้นหาไม่พบ เนื่องจากเวลาได้ผ่านมานานถึง 85 ปีเศษแล้ว” พบแต่แผนที่นครราชสีมา (จ.บุรีรัมย์) จากกรมแผนที่ทหาร พ.ศ. 2464 ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้เพราะปรากฏแนวเขตทางรถไฟส่วนที่แยกไปยังที่ย่อยศิลาตรงกันซึ่งเป็นการจัดทำการสำรวจในระหว่างปี พ.ศ. 2464 ถึง 2465 ซึ่งจัดทำเสร็จภายหลังพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินฯพ.ศ. 2464 และไม่มีการแจ้งว่าได้ดำเนินการจากหลักฐานใด
จึงน่าจะเป็นการสำรวจจัดทำรูปแผนที่ภูมิประเทศตามที่ปรากฏในภาคสนามทั่วไป จึงเป็นเหตุให้กรมที่ดิน ไม่เชื่อว่าที่ดินข้อพิพาทดังกล่าวเป็นที่ดิน อยู่ในแนวเขตทางรถไฟตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงฯ 2462
นอกจากนี้ ยังพบว่านายเจนกิจ เชฏฐวาณิชย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักมาตรฐาน กรมที่ดิน ได้ทำบันทึกข้อความถึงนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน(ในขณะนั้น) ในวันที่ 18 ต.ค.2567 แจ้งเรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟฯ เกี่ยวกับผลการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อตรวจสอบที่ดินในท้องที่ต.เสม็ด และต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 992 ฉบับเป็นหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกไปโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้พบว่า เอกสารที่ รฟท. นำไปใช้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 และประกอบการต่อสู้คดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-476/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่8027/2561
จึงน่าเชื่อได้ว่าแผนที่ที่ปรากฏตามคำพิพากษาไม่ใช่แผนที่ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟหลวงจัดการสร้าง ประกาศลงวันที่ 7พ.ย.2464 (ประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25พ.ย.2464)
แต่ รฟท. ใช้รูปแผนที่แสดงต่อศาลฯ จัดทำขึ้นเมื่อปี 2531 และปี 2539 เป็นการจัดทำขึ้นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐส่วนจังหวัด สันนิษฐานว่าน่าจะจัดทำขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22เม.ย.2539 และมีมติที่ประชุมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรกลุ่มสมัชชาคนจนเมื่อวันที่15เม.ย.2537
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรกลุ่มสมัชชาคนจน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ยังพบเอกสาร ที่ระบุ วันที่ 27ก.ย.2564 ที่นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน(ในขณะนั้น) ได้ทำหนังสือ ที่ มท. 0516.2/3530 ถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดย สาเหตุที่ไม่สามารถเพิกถอนที่ดินได้ เนื่องจาก รฟท. แจ้งว่า ไม่สามารถจัดส่งหลักฐานแผนที่ประมาณที่กำหนดแนวเขตทางรถไฟเพื่อสำรวจและทำการสงวนหวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตสร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี พ.ศ.2462 มาประกอบการพิจารณา และไม่มีแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ปี 2464
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี