"วันนอร์"นัดถกงบฯปี69 วาระสอง-สาม 13-15 ส.ค. เปิดรายงาน กมธ.ฯพบรายการปรับลดเกือบ 9 พันล้าน โยกให้ 7 หน่วยงาน-2 แผนงานทำภารกิจสำคัญ พร้อมรายการเปลี่ยนแปลงลดงบ"สธ." 70 ล้าน โยกให้"13 อบจ." ขณะที่"อบจ.พะเยา"ได้เติมงบเกือบ 10 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผูัแทนราษฎร ได้นัดประชุมสภาฯ วาระพิเศษ ระหว่างวันที่ 13 - 15 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน กมธ.ได้พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระ 2 - 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงานของ กมธ.ระบุว่า งบประมาณปี 2569 ที่ตั้งแต่ 3,780 ล้านล้านบาท กมธ.มีมติปรับลดทั้งสิ้น รวม 8,920 ล้านบาท โดยทุกกระทรวงและส่วนราชการถูกปรับลดงบประมาณ ทั้งนี้ มีกระทรวงและส่วนราชการที่ปรับลด สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.กระทรวงมหาดไทย ปรับลด 2,148 ล้านบาท สำหรับรายการที่ปรับลดส่วนใหญ่เป็นค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้างอาคารต่างๆ ของส่วนราชการ
2.หน่วยงานรัฐสภา 880 ล้านบาท
3.กระทรวงคมนาคม 795 ล้านบาท
4.กระทรวงสาธารณสุข 693 ล้านบาท
5.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 459 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบประมาณที่ปรับลดดังกล่าว ตามรายงานของ กมธ.ได้จัดสรรให้ส่วนราชการตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอตามความเหมาะสม และจำเป็น รวม 8,690 ล้านบาท และจัดสรรให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาลองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ รวม 230 ล้านบาท
สำหรับส่วนราชการที่ได้รับงบประมาณเพิ่มเติม ประกอบด้วย
1.รัฐวิสาหกิจ ตั้งเพิ่มจำนวน 4,914 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างงานโยธาตามสัญญาสัมปทานฯโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรม กทม.
2.กระทรวงการคลัง ตั้งเพิ่มจำนวน 1,568 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569
3.งบกลาง ตั้งเพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรณีป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง และภารกิจจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ
4.กระทรวงแรงงาน ตั้งเพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสมทบกองทุนประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ มาตรา 39
5.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งเพิ่มจำนวน 153 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสนับสนุนการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
6.หน่วยงานของศาล ตั้งเพิ่มจำนวน 83 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานการพิจารณาพิพากษาคดีที่รวดเร็ว มีคุณภาพ
7.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ส่วนของวัสดุเชื้อเพลิงและหล่อลื่น
นอกจากนั้น ยังได้ตั้งเพิ่มในส่วนของ 2 แผนงาน ได้แก่ แผนงานบูรณาการ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ติดสารเสพติดที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดและพัฒนาพฤตินิสัย , แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน 160 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายบุคลากร 6 หน่วยงาน อาทิ สำนักงานอัยการสุงสุด 78 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 32 ล้านบาท สำนักงานศาลปกครอง 27 ล้านบาท สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 13 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 6.9 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานของ กมธ.ยังได้แจ้งรายละเอียดถึงงบประมาณในส่วนของรายการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย ที่ปรับลดงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลง 114 ล้านบาท และได้เติมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาลเมืองโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 35 ล้านบาท เทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 21 ล้านบาท เทศลาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ 23 ล้านบาท และเทศบาลตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทา 33 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับลดงบส่วนของสำนักปลัดกระทรวงสาะธารสุข 70 ล้านบาท ไปจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง อาทิ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ 8.6 ล้านบาท อบจ.ยะลา 5 ล้านบาท อบจ.ร้อยเอ็ด 6 ล้านบาท อบจ.พะเยา 9.7 ล้านบาท อบจ.ตาก 7.8 ล้านบาท เป็นต้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี