'เอ็ดดี้ อัษฎางค์'เบิกเนตร!! 'ลุงตู่' กับการสกัดไม่ให้ MOU 44 เขมือบทรัพยากรทางทะเล?

'เอ็ดดี้ อัษฎางค์'เบิกเนตร!! 'ลุงตู่' กับการสกัดไม่ให้ MOU 44 เขมือบทรัพยากรทางทะเล?

วันอังคาร ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 09.58 น.

12 ส.ค. 68 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ระบุว่า " 'ลุงตู่' กับการสกัดไม่ให้ MOU 44 เขมือบทรัพยากรทางทะเล?
#อัษฎางค์ยมนาค #อ่านเกมอำนาจ

(1) มีการพูดกันว่า ยุครัฐบาลลุงตู่ได้ออกกฎหมายรักษาทรัพยากรทางทะเล เพื่อสกัดไม่ให้ MOU 44 เขมือบทรัพยากรทางทะเล
คำถามคือ ช่วงรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ มีการออกกฎหมายรักษาทรัพยากรทางทะเลจริงไหม—คำตอบคือ มีอยู่จริง
พระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. 2562 (2019)
ออกในยุครัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อ รักษาอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (เช่น UNCLOS)

สิ่งที่กฎหมาย พ.ร.บ. 2562 ทำได้คือ
• เป็น “กฎหมายภายใน” ที่กำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ของรัฐไทยในการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล
• ระบุขอบเขตการปฏิบัติของหน่วยงานรัฐ เช่น กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง ฯลฯ
• อ้างอิงหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น UNCLOS เพื่อกำหนดเขตอาณาเขตทางทะเล เขตต่อเนื่อง เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) และไหล่ทวีป
• ใช้ประกาศ “เขตที่ไทยถือว่ามีสิทธิ” เพื่อเป็นหลักฐานเชิงนโยบายและเอกสารในเวทีโลก
กฎหมายรักษาทรัพยากรทางทะเลสามารถ “กำหนดเขตหน้าน้ำไทย” ได้ในแง่การยืนยันสิทธิฝ่ายเดียว มีผลบังคับใช้ในเขตที่ไทยประกาศสิทธิ (เช่น เขตเศรษฐกิจจำเพาะ – EEZ, ไหล่ทวีป)
แต่ไม่ได้มีผลโดยตรง “สกัด” MOU 44 ให้หมดอำนาจ เพราะ MOU 44 เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งต้องแก้ไขหรือยกเลิกโดยการเจรจาระหว่างสองประเทศ ไม่ใช่แค่ประกาศกฎหมายฝ่ายเดียว

ข้อจำกัดของกฎหมายนี้
• ถ้าเป็นพื้นที่ที่ ไม่มีข้อพิพาท → กฎหมายนี้ใช้ได้เต็มที่
• ถ้าเป็น พื้นที่ทับซ้อนหรือคู่กรณีอ้างสิทธิเช่นเดียวกัน → การออกกฎหมายภายใน ไม่ทำให้คู่กรณียอมรับ หรือเปลี่ยนสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศ
• ในพื้นที่พิพาท เช่น กรณี MOU 2544 กับกัมพูชา กฎหมายไทยสามารถใช้เป็น “หลักฐานแสดงจุดยืน” แต่ไม่ใช่เครื่องมือแก้ข้อพิพาทได้
การอ้างว่ากฎหมายนี้ “กันไม่ให้ MOU 44 เขมือบหน้าน้ำไทย” เป็นการพูดในเชิงการเมือง–สัญลักษณ์ มากกว่าผลผูกพันจริงในทางกฎหมายระหว่างประเทศ

(2) มีการกล่าวว่า ในยุครัฐบาล คสช. มาตรา 44 ให้อำนาจหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งที่มีผลเหนือกฎหมายปกติ ทำไมไม่ใช้มันยกเลิก MOU 44
ข้อเท็จจริงคือ:

• มาตรา 44 อาจใช้ประกาศให้ MOU 44 เป็นโมฆะ “ในมุมของไทย” ได้ แต่ไม่ได้ทำให้ MOU หมดผลผูกพันในเวทีระหว่างประเทศ และเสี่ยงสูงต่อผลกระทบทางการเมือง–การทูต
• การเลิกโดยฝ่ายเดียวไม่ได้ทำให้กัมพูชาสูญเสียสิทธิหรือเลิกยึด MOU ได้ กัมพูชาสามารถใช้การถอนตัวฝ่ายเดียวนี้เป็นข้อกล่าวหาไทยว่า “ละเมิดพันธกรณี” และนำไปสร้างแรงกดดันในเวทีโลกหรือใช้ต่อรองในอนาคต
• เสี่ยงเกิดการเร่งรัดการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรจากฝั่งกัมพูชาในพื้นที่พิพาท เพราะถือว่า “ไม่มีข้อตกลงยับยั้งอีกต่อไป”
• เพิ่มความเสี่ยงต่อการปะทะทางทหารหรือข้อพิพาทในศาลระหว่างประเทศ
• ในทางยุทธศาสตร์ จึงมีเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลในหลายยุค รวมทั้ง ลุงตู่ เลือก “คง MOU ไว้” แม้จะถูกวิจารณ์ เพราะถือว่ามันเป็น “กลไกคุมเกม” มากกว่าการปล่อยให้สถานการณ์เปิดโล่ง

สรุปสั้น ๆ
พ.ร.บ. 2562 ช่วยยืนยันเขตและสิทธิของไทยในเชิง “ประกาศจุดยืน” และใช้เป็นฐานปฏิบัติของหน่วยงานความมั่นคง แต่ ไม่สามารถบังคับให้กัมพูชายอมรับเขตนั้นได้ ถ้าเขายังอ้างสิทธิอยู่

มาตรา 44 อาจใช้ประกาศให้ MOU 44 เป็นโมฆะ “ในมุมของไทย” ได้ แต่ไม่ได้ทำให้กัมพูชาสูญเสียสิทธิหมดในเวทีระหว่างประเทศ กฎหมายไทยยืนยันสิทธิได้ แต่ไม่สามารถ “บังคับให้เขมรยอมรับ” ได้ในพื้นที่ที่เขาก็อ้างสิทธิเหมือนกัน"

.-008 


ขอบคุณข้อมูลจาก : เอ็ดดี้ อัษฎางค์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top