'กรวีร์'ฉะ'ภูมิธรรม-เดชอิศม์'ขึงขังเพิกถอนเขากระโดง เหน็บผ่านมาเกือบเดือน ยังไม่ดำเนินการ เหตุไม่มีอำนาจสั่งการ ลั่นแม้แต่'อธิบดีที่ดินคนใหม่'ก็ไม่มีอำนาจ มองเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ กรมที่ดิน ว่า ที่ประชุมได้มีการเชิญ กระทรวงมหาดไทย รฟท.,กรมที่ดิน และกรมธนารักษ์ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์พื้นที่บริเวณเขากระโดง ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค.68 ว่าในวันที่ 2 ส.ค. จะมีการเพิกถอนที่ดินบริเวณเขากระโดงทั้งหมด แต่มาถึงวันนี้เกือบจะ 1 เดือน ก็ยังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว ซึ่งในที่ประชุมได้มีการพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น หรือจริงๆแล้วไม่มีอำนาจในการเพิกถอนตามคำสั่งของรัฐมนตรี
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า ทุกฝ่ายยืนยันชัดเจน ว่าทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมที่ดิน ไม่มีอำนาจใดๆ ในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่เป็นของประชาชน ซึ่งตรงจุดนี้มีการยืนยันชัดเจนและมีการถามตัวแทนของกระทรวงมหาดไทย ทุกฝ่ายยืนยันเหมือนกันหมดว่าตามกฎหมายไม่ได้มีอำนาจและไม่เปิดช่องไว้ เพราะฉะนั้นในประเด็นนี้จึงมองเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้เพราะไม่ใช่เรื่องทางกฎหมายแต่เป็นเรื่องทางการเมือง
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีการสอบถามว่าทำไมทางกรมที่ดินถึงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลฎีกา ที่มีการแพ้ชนะคดีกับประชาชน 30 กว่าราย ที่ต่อสู้กับการรถไฟ ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาชี้ชัดว่าที่ดินบริเวณนั้นเป็นของการรถไฟ จึงมีคำถามว่าอีก 5,000 กว่าไร่ ทำไมกรมที่ดินถึงไม่ไปเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แล้วยึดคืนเป็นที่ของหลวง ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความชัดเจนว่าคำสั่งของศาลเป็นคำเป็นคำสั่งที่ผูกพันเฉพาะ 30 กว่าราย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรใด ๆ กับพื้นที่ 5,000 กว่าไร่ 900 กว่าราย ดังนั้นจึงอยากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ด้วยเพราะการที่จะไปตีขุม ว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาที่บอกว่าเป็นที่ของการรถไฟนั้น ไม่สามารถไปบังคับใช้กับพื้นที่ทั้งหมดอีก 5,000 กว่าไร่ได้
นายกรวีร์ กล่าวว่า ในที่ประชุมได้สอบถามว่าหากจะเอาที่บริเวณเขากระโดงคืนกลับมาเป็นที่ของรัฐ และเชื่อว่าเป็นที่ของการรถไฟจะต้องทำอย่างไร ทางกมธ.จึงบอกว่าหากมีแผนที่จริง แล้วมีคำพิพากษาที่เป็นคุณกับการรถไฟทำไมไม่ไปไล่ฟ้องทีละแปลง เพื่อเรียกคืนที่ดินให้กลับมาเป็นของหลวงตามที่คุณมั่นใจ ทางการรถไฟชี้แจงว่า ถ้าการรถไฟไปไล่ฟ้องรายแปลงจะใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายมาก รวมทั้งเป็นภาระกับประชาชนด้วย จึงไปฟ้องที่ศาลปกครอง เพื่อที่จะให้ศาลปกครองสั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์และโฉนดต่าง ๆ ตามคำพิพากษา
นายกรวีร์ กล่าวต่อด้วยว่า ทางการรถไฟไปฟ้องใน 4 ประเด็น แต่ศาลปกครองรับฟ้อง 2 ประเด็น คือ ขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้ยุติเรื่องตามมาตรา 61 และขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของปลัดกระทรวงมหาดไทย
แต่ประเด็นที่ไม่รับฟ้อง คือ เรื่องขอให้กรมที่ดินไปเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ 5,000 กว่าไร่ และขอให้ไปเรียกคืนที่ดินอื่น ๆ ที่เป็นของการรถไฟที่สามารถพิสูจน์ได้ให้กรมที่ดินไปเพิกถอนทั้งหมด ดังนั้นเรื่องนี้คงจะเป็นโอกาสทั้งกรมที่ดินและการรถไฟได้พิสูจน์สิทธิ์ ทั้งนี้การรถไฟยอมรับว่าแผนที่แนบท้ายกฤษฎีกาไม่ได้บ่งชี้ชัดว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ส่วนที่ไม่คัดค้านในชั้นศาลฎีกา ทางกรมที่ดินชี้แจงว่า คดีดังกล่าวเป็นข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับการรถไฟ กรมที่ดินไม่ได้เกี่ยวข้องในคดี ดังนั้นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่ศาลพิจารณา จึงพิจารณาจากเอกสารแนวเขตของการรถไฟแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ได้พิจารณาจากเอกสารสิทธิ์ต่าง ๆ ของกรมที่ดิน จึงคิดว่าการต่อสู้คดีตรงนี้ในชั้นศาลปกครอง ก็น่าจะได้รับความกระจ่างและชัดเจนมากขึ้น
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า่ว่า ทางกมธ.ได้ย้ำกับตัวแทนของกระทรวงมหาดไทย กรมที่ดินและการรถไฟว่า ขอให้พิจารณาเรื่องนี้ตามข้อกฎหมาย ไม่ใช่ข้อคำสั่งทางการเมืองและขอให้ พิจารณาเรื่องนี้โดยให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน ที่เขาได้เอกสารสิทธิ์และโฉนดมาโดยสุจริต ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยบอกว่าสิ้นสุดปลายทาง ถ้าหากมีการพิจารณาแล้วว่าที่ดินตรงนี้เป็นของการรถไฟจริง และต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ประชาชนที่ได้รับโฉนดมาโดยชอบก็จะได้รับสิทธิ์ในการเยียวยาและชดเชย
"อยากฝากถึงท่านรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย การออกมาให้ข่าว แล้วมีข้อสั่งการใดๆ ที่ปรากฏทางสื่ออย่างขึงขังว่าจะต้องยึดเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ต่างๆ วันนี้เราทราบแล้วว่าในข้อกฎหมายมันทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะพิทักษ์สิทธิ์ต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ก็อยากให้ยึดถือข้อกฎหมายเป็นสำคัญด้วย และเรื่องนี้อยู่ในชั้นของศาลปกครอง คงต้องรอให้เกิดความชัดเจนทางกรรมาธิการจะติดตามเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะจากการสอบถามกรมที่ดิน อธิบดีที่ดินคนใหม่ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ถ้ามาปฏิบัติหน้าที่แล้วคงไม่มีอำนาจในการเพิกถอน ซึ่งทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย" นายกรวีร์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี