การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าชี้แจงกับชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ชาวบ้านที่กำลังสับสนจากบิลค่าไฟจำนวนมากใจชื้นขึ้น หลังกลับจากอพยพ แต่ยังมีความกังวลว่าจะถูกงดจ่ายไฟหรือไม่ ด้านผู้จัดการการไฟฟ้าฯ ชี้แจง ต้องรอรัฐบาลผ่านมติสภาจึงจะชัดเจน แต่ย้ำว่าช่วงนี้จะยังไม่มีการงดจ่ายไฟ

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2568 ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และอพยพออกจากบ้านพักชั่วคราว ได้ร้องเรียนผ่านสื่อถึงความสับสนกรณีได้รับบิลค่าไฟฟ้าสูงลิ่ว สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศว่าจะช่วยเหลือค่าไฟเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

นางสัจจา พาจันทา อายุ 44 ปี ชาว อ.บ้านกรวด เล่าว่าตนได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าในพื้นที่ แต่ได้รับคำตอบที่ยังคลุมเครือว่า “จ่ายก็ได้ไม่จ่ายก็ได้” เนื่องจากยังไม่ได้รับคำสั่งที่ชัดเจน ตนจึงตัดสินใจจ่ายค่าไฟด้วยความกังวลว่าจะถูกตัดไฟในภายหลัง

ขณะที่ นายวิทยา ส่วงเมา อายุ 38 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน กล่าวว่า หลังจากตนได้แจ้งเรื่องผ่านสื่อไป เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้ามาพบและชี้แจงว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังประสานงานและจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างแน่นอน ทำให้ตนรู้สึกสบายใจและขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้การดูแลประชาชน

ด้าน นายสำคัญ สยามประโคน ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขานางรอง ซึ่งดูแลพื้นที่ อ.บ้านกรวด, อ.ละหานทราย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ชี้แจงว่า บิลค่าไฟฟ้าที่ออกมาในช่วงนี้เป็นยอดค่าใช้จ่ายของเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมรวมกัน โดยเดือนมิถุนายนยังเป็นช่วงที่สถานการณ์ปกติ จึงเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระตามปกติอยู่แล้ว

ส่วนค่าไฟฟ้าของเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือ จะต้องรอการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรก่อนจึงจะมีผลอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการการไฟฟ้าฯ ยืนยันว่า ในช่วงนี้จะยังไม่มีการงดจ่ายไฟ หากชาวบ้านมาชำระก็ขอให้จ่ายเฉพาะค่าไฟของเดือนมิถุนายนเท่านั้น ส่วนผู้ที่ได้จ่ายค่าไฟทั้งหมดไปแล้ว การไฟฟ้าจะคืนเงินให้ในภายหลัง หรือนำไปหักกับบิลค่าใช้จ่ายในเดือนถัดไปตามนโยบายที่จะออกมาในอนาคต