ข้องใจมาถามอย่าพูดออกอากาศ
‘อ้วน’ซัด‘โรม’!
ฉะรบ.ออมมือไม่ฟ้องศาลICC
กมธ.ความมั่นคงถกลับ
บิ๊กเล็ก-กต.-รองมทภ.2
ยันสบายใจได้-ไร้ปะทะ
“ภูมิธรรม”สอนมวย“โรม” สงสัยมาคุยตรงๆ จะชี้ให้เห็นว่าอะไรสำคัญหรือไม่สำคัญ อย่าถามออกสื่อหวังผลการเมืองเพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่คุยออกสื่อด้าน“รังสิมันต์” เผย ปิดห้องคุยลับ “บิ๊กเล็ก-รองมทภ.2- กต.”เปิดใจตรงไปตรงมาพบสถานการณ์ชายแดนยังสบายใจได้ ไม่มีแนวโน้มขัดกันทางอาวุธเร็วนี้ ชี้รัฐบาลยังไม่ปิดประตูฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ต้องพูดคุย เล็ง หาวิธี End Game ให้ได้
เมื่อวันที่ 21สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร ระบุ รัฐบาลยั้งมือไม่ฟ้องผู้นำกัมพูชาต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เพราะเกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศหรือไม่ว่า ต้องถามนายรังสิมันต์ โรม พูดในฐานะประธานกมธ.หรือพูดในฐานะนายรังสิมันต์ โรม ถ้าพูดในฐานะประธานกมธ.ก็น่าจะเข้าใจ หลายเรื่องเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่มานั่งตั้งคำถามแบบนี้ เพราะเรื่องนี้ข้อเท็จจริงก็ว่าไปอย่างหนึ่ง แต่อีกหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่หยิบประเด็นใดประเด็นหนึ่งมาตัดสินใจได้ เรื่องนี้เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับอะไรหลายอย่าง ควรจะเข้าใจในฐานะนักการเมืองที่มีคุณภาพ ไม่ใช่หวังผลการเมืองที่ก่อให้เกิดความไม่เข้าใจ
ฉะ“โรม”สงสัยมาถามอย่าพูดออกอากาศ
“ถ้าคุณรังสิมันต์ไม่มั่นใจ หรือสงสัยอย่าถามออกอากาศ มาถามผมได้ มาพบได้ บอกได้เลย ชี้แจงให้เข้าใจว่าเรื่องไหนสำคัญไม่สำคัญ แล้วทำไมการพูดจึงไม่ควรพูดออกอากาศ ในเรื่องที่เป็นคดีความระหว่างประเทศ และเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าเป็นนักการเมืองที่เข้าใจควรเข้าใจสิ่งนี้” นายภูมิธรรมกล่าว
ความสัมพันธ์ระหว่างปท.ไม่พูดผ่านสื่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลสรุปของผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (ไอโอที) ที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในอ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จะมีผลสรุปออกมาอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ให้เขาทำก่อน ถ้าพบหลักฐานหรืออะไรที่สำคัญ ตนคิดว่าเขาคงไม่เที่ยวมาออกข่าว เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยวันที่ 10 กันยายน.ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ติดขัดตรงไหนไปพูดกันตรงนั้น และชัดเจนเมื่อไหร่ได้ข้อสรุปอย่างไรก็จะออกมา การทำงานของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เอาข่าวลือ หรือพูดไปโดยยังไม่ยืนยัน หรือมีมติ เพราะทุกอย่างต้องพูดอย่างระมัดระวัง เราไม่ได้ปรารถนาจะไปใส่ร้ายป้ายสีใคร ต้องการเอาข้อเท็จจริงและความจริงออกมา และจีบีซีจะเป็นเรื่องระดับทวิภาคีคุยกัน ซึ่งมีการพูดคุยระดับรัฐมนตรี และมีผู้สังเกตการณ์ร่วมด้วยอยู่แล้ว ถือเป็นเวทีที่ดีที่สุด เขาไม่พูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผ่านสื่อ
“โรม”ถกลับ“บิ๊กเล็ก-กต.-รองมทภ.2”
ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธานนานกว่า 3 ชั่วโมง พิจารณาวาระการประชุมเรื่องติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยเชิญ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.ต.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศมาเข้าให้ข้อมูล โดยให้เป็นการประชุมลับ
เปิดใจคุย-สบายใจไร้แนวโน้มปะทะ
นายรังสิมันต์เผยว่า เป็นการพูดคุยที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเปิดใจกันมาก เพราะเป็นการประชุมลับ ข้อมูลที่มีการพูดคุยกันเป็นข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ซึ่งยอมรับว่าลำบากใจในการตอบสื่อว่ามีอะไรบ้าง หลายอย่างเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ด้านหนึ่งตนอยากให้ทุกฝ่ายในสังคมสบายใจว่าเรายังมองไม่เห็นแนวโน้มการขัดกันทางอาวุธในเร็วนี้ ดังนั้น บรรยากาศอาจยังไม่ได้น่าเป็นห่วงเรื่องการปะทะกันทางอาวุธ
แต่ถามว่ายังมีความตึงเครียดหรือไม่ ก็ยังมี ซึ่งมีการให้คำแนะนำหลายประการในการที่จะพูดคุยและหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดความตึงเครียด ซึ่งอาจยังไม่มีข้อสรุปออกมาเป็นรูปธรรม นอกเหนือไปจากการพูดคุย ในวงประชุมต่างๆ ทั้งการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) การประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) และ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไประหว่างไทยและกัมพูชา (GBC) โดยวงประชุมเรายังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไรเพราะยังไม่เกิดขึ้น แต่พยายามให้ข้อมูลและรับฟังถึงข้อจำกัดของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการประชุม RBC เราคงต้องไปติดตามกัน
รบ.ไม่ปิดทางฟ้องICCพร้อมหาวิธีปิดเกม
“ ยืนยันว่าการพูดคุยวันนี้กมธ.ความมั่นคงฯทำงานกับฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ณัฐพล กองทัพ หรือกระทรวงการต่างประเทศ เรามีบรรยากาศทำงานที่ยอดเยี่ยม และเราพยายามให้เกิดการบูรณาการกันของทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้ อย่างไรก็ตามกำลังมองไปถึงหาวิธีการ End Game ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสุดท้ายต้องมีจุดจบ เพียงแต่ต้องประเมินและพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะจบอย่างไร”โรมระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยถึงเรื่องข้อเสนอการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า คุยกัน แต่ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เพราะบางอย่างมีความละเอียดอ่อน ซึ่งแนวโน้มเราพยายามเสนอช่องทางต่างๆ และเรายืนยันกับรัฐบาลว่ารัฐบาลต้องใช้ทุกช่องทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ เรายังมองว่าเรื่องกลไก ICC เป็นกลไกที่สำคัญ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ปิดประตูเรื่องนี้ ตนคิดว่าจะต้องพูดคุยกันมากขึ้น
ทางกมธ.ความมั่นคงฯ จะประชุมเรื่อง ICC วันที่ 5 กันยายน และเชิญนักวิชาการมาพูดคุยเพราะยังมีมุมมองที่แตกต่างถึงวิธีการซึ่ง ICC เป็นกลไกที่สามารถใช้ได้ ส่วนวันที่ 4 ก.ย. จะประชุมเพื่อถอดบทเรียนดำเนินการนำไปสู่การวางแผนสนับสนุนความมั่นคงที่เปลี่ยนไปตามแนวชายแดน เพราะต้องยอมรับว่าแนวชายแดนไม่เหมือนเดิมอีกแล้วย้ำว่า การประชุมกมธ.ครั้งนี้เปิดใจกันมากเราได้เห็นถึงข้อจำกัดและข้อท้าทาย ซึ่งตนยืนยันว่าการปะทะกันทางอาวุธไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายในตอนนี้
ซ่อมบ้าน4จว.ชายแดนแล้ว60%
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานความคืบหน้าการติดตามการให้การช่วยเหลือประชาชน และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จกว่า 400 หลังคาเรือน จากทั้งสิ้น 705 หลังคาเรือน ซึ่งที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมที่ได้รับความเสียหายไม่มากนักประมาณ 200หลังคาเรือน ทั้งนี้ อธิบดีกรมการปกครองได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธของกัมพูชาที่ยิงถล่มเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน โดยรัฐบาลกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การซ่อมแซมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมทั้งลงพื้นที่สำรวจ และประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
ทั้งนี้ รัฐบาลอำนวยความสะดวกในการใช้งบประมาณจากหลายภาคส่วน อาทิ กระทรวงมหาดไทย โดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย/กองทุนสำนักนายกฯ สภากาชาดไทย และเงินบริจาค พบว่าบ้าน/ที่อยู่อาศัยประจำ ได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 จังหวัด จำนวน 705 หลัง เสียหายทั้งหลัง (เกิน 70%) รวมจำนวน 41 หลัง เสียหายมาก (30 - 70 %) รวมจำนวน 65 หลัง เสียหายน้อย (น้อยกว่า 30%) รวมจำนวน 599 หลัง (ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 18.00 น.) รวมดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 60% อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม 374 หลัง แยกเป็นรายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ 445 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 134 หลัง คงเหลือ 311 หลัง) จังหวัดอุบลราชธานี 139 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 129 หลัง คงเหลือ 10 หลัง) จังหวัดสุรินทร์ 107 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 58 หลัง คงเหลือ 49 หลัง) จังหวัดบุรีรัมย์ 14 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 10 หลัง คงเหลือ 4หลัง)
รบ.ยันงดเก็บค่าไฟ-น้ำพื้นที่อพยพ
ส่วนการนำเสนอข่าวชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ที่อพยพกลับจากศูนย์พักพิงภายหลังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นั้น ขอยืนยันว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีข้อสั่งการงดเว้นเก็บค่าไฟและค่าน้ำประจำเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่อพยพไปแล้ว ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ จึงไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า หากกรณีชำระแล้ว กฟภ.จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักจากค่าไฟฟ้าในเดือนถัดไปได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.1129 PEA Contact Center ตลอด24ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี