วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘กต.’ยัน‘บ้านหนองจาน’อยู่ในอธิปไตยไทย แต่‘กัมพูชา’ขยายชุมชนรุกล้ำผิด MOU 43

‘กต.’ยัน‘บ้านหนองจาน’อยู่ในอธิปไตยไทย แต่‘กัมพูชา’ขยายชุมชนรุกล้ำผิด MOU 43

วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 17.14 น.
Tag : กระทรวงต่างประเทศ ชายแดนไทยกัมพูชา บ้านหนองจาน สระแก้ว MOU43
  •  

‘กต.’ยัน‘บ้านหนองจาน’อยู่ในอธิปไตยไทย แต่‘กัมพูชา’ขยายชุมชนรุกล้ำผิด MOU 43

22 สิงหาคม 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. แถลงเกาะติดสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับพื้นที่บ้านหนองจาน จ. สระแก้ว


นายนิกรเดช กล่าวว่า จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าฝ่ายไทยวางลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา นั้น ในเรื่องนี้กองทัพบกและกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงแล้ว และตนก็ได้ชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงการแถลงข่าวประจำสัปดาห์เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2568 ผ่านมา และขณะที่เรากำลังแถลงข่าวอยู่นี้ทางกองทัพภาคที่ 1 ก็กำลังนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เพื่อสังเกตการณ์และรับทราบข้อเท็จจริงในพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ดี เรายังคงพบเห็นการแสดงความเห็นในเรื่องนี้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งจากพี่น้องประชาชนฝั่งไทย และทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างกล่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้อยู่ในอธิปไตยของตน

นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า ตามที่ตนได้เคยชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ว่าพื้นที่บ้านหนองจาน เดิมเคยใช้เป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยสู้รบในอดีตเข้ามาในประเทศไทย และต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้ขยายชุมชนออกไป ถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ปี 2543  ซึ่งไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยมาโดยตลอด แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ตอบสนองใดๆ 

ในส่วนของการวางลวดหนามในเขตไทยนั้น ก็เป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย เป็นไปเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการเข้ามาวางทุ่นระเบิดโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของไทยนี้ไม่ขัดต่อข้อตกลง จากการประชุมจีบีซี สมัยวิสามัญ ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นจากการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร หรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้งทางทหารที่ล้ำออกไปนอกเขตของฝ่ายตน และเพื่อเป็นการไขความคล่องใจให้ความกระจ่าง ในวันนี้ นายเบญจมินทร์ จะเป็นผู้ให้ข้อมูลรายละเอียดกับประเด็นในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เพื่อให้พี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

ด้านนายเบญจมินทร์ กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนและสาธารณะชนได้รับทราบประเด็นปัญหา ที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวกัมพูชาได้สร้างบ้านเรือนลุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทย ตนจึงอยากใช้โอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า บ้านหนองจานตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ซึ่งเป็นแนวเขตแดนที่ เป็นไปตามความตกลงสยามฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1907 มีแนวเป็นเส้นตรง เมื่อปี 2524 ไทยก็อนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซีอาร์ จัดตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรม ให้กับชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามกลางเมืองภายในประเทศกัมพูชาเอง ทั้งนี้ก็เป็นไปตามที่ยูเอ็นเอสซีอาร์ร้องขอ โดยทหารไทยก็ได้จัดทำแนวรั้วเพื่อจำกัดเขตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ดี เมื่อสงครามยุติลงแล้ว ในช่วงปี 2542 แต่ชาวกัมพูชากลุ่มนั้น ซึ่งหนีภัยสงครามมาอยู่ก็ยังได้เข้าก่อสร้าง ที่อยู่อาศัยขยายที่ดินทำกิน จนขยายออกมานอกแนวรั้วที่เราเห็นกันอยู่จนปัจจุบันนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาฝ่ายไทยก็ได้ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปักปันเขตแดนของ สมช. เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้รวม 4 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมก็มีมติ ให้ดูแลเพื่อไม่ให้ราษฎรชาวบ้านบูชาขยายพื้นที่ทำกิน  และหารือเจรจาร่วมกับฝ่ายกัมพูชาอย่างสันติ รวมทั้งเร่งรัดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในบริเวณดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 28-30 ส.ค. 2545 ทางกระทรวงการต่างประเทศ และกรมแผนที่ทหาร ก็ได้มีการหารือร่วมกับ นายวาคิมฮอง ประธานเจบีซี ของกัมพูชา ณ ขณะนั้น โดยฝ่ายไทยขอให้ราษฎรของกัมพูชาย้ายออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะต้องขอตรวจสอบแนวที่แน่ชัดของหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ก่อน

เมื่อเดือนกันยายน 2560 ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา กรณีการขยายตัวของชุมชนบริเวณบ้านหนองจาน  มีการชักธงชาติกัมพูชา และจัดตั้งหน่วยงานทางการของกัมพูชาในพื้นที่  ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และละเมิดข้อ 5 ของ MOU 2543 จึงขอให้ปลดธงชาติและย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีหนังสือตอบกลับหรือโต้แย้งแต่อย่างใด

ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่าพื้นที่บ้านหนองจาน เป็นพื้นที่ของไทย โดยไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชา ที่หนีบไทยสงครามช่วงเขมรแดงมาอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม การที่ชุมชนกัมพูชาขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ไทยไม่ได้ยอมรับ  และไม่กระทบกับการปักปันเขตแดนที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างไทยกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เป็นประเด็นทางสังคมในวงกว้าง เนื่องจากฝ่ายไทยรับทราบมาตลอดว่าให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยเข้ามาอาศัยอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อฝ่ายกัมพูชาปัจจุบันออกมากล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ฝ่ายไทยต้องประท้วง และก็ชี้แจงข้อเท็จจริงในวันนี้

นายเบญจมินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาไทยได้มีการประท้วงกัมพูชาตลอดเวลาในหลายจุดที่มีการล่วงล้ำเขตแดนไทย แต่ก็ไม่ได้ตอบรับที่ดีหรือนิ่งเฉยจากฝ่ายกัมพูชา ดังนั้น เราก็คงต้องปฏิบัติไปตามหลักสากลก่อน โดยแสดงจุดยืนและท่าทีของเราให้ชัดเจนว่าจุดใดที่เห็นว่ากัมพูชาร่วงล้ำเข้ามา เราก็ทำการประท้วง และการประท้วงของไทยก็ไม่ได้ทำโดยไม่มีหลักฐานทางกฎหมาย เนื่องจาก MOU ปี 2543 หรือ MOU 2000 ก็พูดชัดเจนว่าไม่ควรจะมาทำให้พื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจนไปเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ ซึ่งก็เป็นข้อห้ามที่ชัดเจนอยู่แล้วในความตกลงกัน และขณะนี้เรากำลังรอคำตอบการประชุมออตตาวา ที่เจนีวา ซึ่งเรามีการดำเนินการผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งการกระทำที่ไม่เป็นไปตามความตกลง คือ ไม่ผลิต ไม่นำมาใช้ซึ่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยไทยได้ดำเนินการไปแล้ว ขณะนี้ก็กำลังรอผลการดำเนินการ และการตรวจสอบของการประชุมออตตาวา

นายนิกรเดช กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 มีการประชุมออตตาวาที่เจนีวา ซึ่งเอกอัครทูตผู้แทนถาวรของไทย ประจำนครเจนีวา ก็จะเข้าร่วมการประชุมและจะมีการส่งเอกสารเพิ่มเติมบังคับให้รัฐภาคีดำเนินการตามอนุสัญญา แต่ ณ ตอนนี้การประชุมน่าจะยังไม่เริ่มหรืออาจจะเพิ่งเริ่มประชุม ดังนั้น ในสัปดาห์หน้าตนจะมารายงานให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่คณะทูตประเทศต่างๆได้ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความคิดเห็นของทูตเหล่านั้นจะถูกนำเข้าเสนอต่อที่ประชุมออตตาวาในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ และไทยเราคาดหวังให้การประชุมครั้งนี้ผลักดันให้เกิดผลอะไรขึ้นบ้าง

นายนิกรเดช กล่าวว่า ทูตหลายท่าน ก็ได้แสดงความคิดเห็น แต่ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุนระเบิด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาออตตาวา ก็ไม่เกี่ยวกับอนุสัญญานี้ แต่ก็จะไปเกี่ยวข้องกับอย่างอื่น แต่ทูตหลายท่านก็ได้แสดงความเห็นและให้สัมภาษณ์สื่อในเชิงเห็นใจว่าไทยเป็นผู้ถูกกระทำ อันนี้เป็นผลดีกับเราแน่นอนว่าสิ่งที่เราพูดนั้นเป็นความจริงและก็สะท้อนออกมาให้ผู้แทนระดับเอกอัครราชทูตหรือผู้แทนต่างประเทศที่ได้ลงพื้นที่นั้นเห็นด้วยตนเอง  ดังนั้น ก็มีความสำคัญมากในการที่จะมีการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ 1.เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เราพูดนั้นเป็นจริง 2. กดดันกัมพูชาให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'โฆษก ทบ.\'ยันผลถก RBC ไร้ดีลเขมรเก็บกู้ทุ่นแลกไทยรื้อลวดหนาม ขอยึดแถลง ทภ.1เท่านั้น 'โฆษก ทบ.'ยันผลถก RBC ไร้ดีลเขมรเก็บกู้ทุ่นแลกไทยรื้อลวดหนาม ขอยึดแถลง ทภ.1เท่านั้น
  • อ้าวเฮ้ย!! \'ภูมิธรรม\'บอกเขมรไม่ได้ผิดนัดประชุม RBC บอกจะถก\'เที่ยงคืน-ตี 1\'ได้ทั้งนั้น อ้าวเฮ้ย!! 'ภูมิธรรม'บอกเขมรไม่ได้ผิดนัดประชุม RBC บอกจะถก'เที่ยงคืน-ตี 1'ได้ทั้งนั้น
  • ‘แม่ทัพภาคที่ 1’แจงปมโซเชียลฯถล่มโยงการเมือง-ขัดแย้ง‘ทหาร’ด้วยกัน ลั่นคนก็พูดกันไป ‘แม่ทัพภาคที่ 1’แจงปมโซเชียลฯถล่มโยงการเมือง-ขัดแย้ง‘ทหาร’ด้วยกัน ลั่นคนก็พูดกันไป
  • \'พล.อ.ณัฐพล\'ชี้เป็นสัญญาณดี เขมรตอบรับร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์ 'พล.อ.ณัฐพล'ชี้เป็นสัญญาณดี เขมรตอบรับร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์
  • ‘แม่ทัพภาคที่ 1’เปิดใจครั้งแรก แจงยิบช่วงรบไทย-กัมพูชา ยันคำนึงถึงศักดิ์ศรี-ผลประโยชน์ชาติ ‘แม่ทัพภาคที่ 1’เปิดใจครั้งแรก แจงยิบช่วงรบไทย-กัมพูชา ยันคำนึงถึงศักดิ์ศรี-ผลประโยชน์ชาติ
  • เปิดผลประชุมRBC ‘กัมพูชา’รับเพิ่ม 3 ข้อเสนอ ปัดแก้ปัญหา MOU 43 โยนถก JBC แทน เปิดผลประชุมRBC ‘กัมพูชา’รับเพิ่ม 3 ข้อเสนอ ปัดแก้ปัญหา MOU 43 โยนถก JBC แทน
  •  

Breaking News

เตือนภัยร้อน! องค์กรโลกแนะวิธีป้องกันคนทำงานจากภาวะอากาศร้อนจัด

พอเถอะ! ‘รัชดา’ฟาด ต่อให้ได้เป็นนายกฯต่อ แต่ผู้นำสภาพแบบนี้ เดินไปไหนก็อาย

เหตุโจมตีตำรวจทหาร-ใน'โคลอมเบีย' เสียชีวิต 18 ราย

'อุทยานฯทองผาภูมิ'จัดระเบียบ'บ้านปิล๊อกคี่' สกัดลอบขุดแร่ทองคำ แจ้งร้านทองในพื้นที่ห้ามรับซื้อ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved