เสียงแข็ง‘อิ๊งค์’ไม่ผิดจะลาออกทำไม  พท.โวสัญญาณดี  หยันปลุกชื่อ‘บิ๊กตู่-หนู’ไร้สาระ  ไว้ใจไม่ถูกพรรคร่วมตลบหลัง

เสียงแข็ง‘อิ๊งค์’ไม่ผิดจะลาออกทำไม พท.โวสัญญาณดี หยันปลุกชื่อ‘บิ๊กตู่-หนู’ไร้สาระ ไว้ใจไม่ถูกพรรคร่วมตลบหลัง

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เสียงแข็ง‘อิ๊งค์’ไม่ผิดจะลาออกทำไม

พท.โวสัญญาณดี

หยันปลุกชื่อ‘บิ๊กตู่-หนู’ไร้สาระ

ไว้ใจไม่ถูกพรรคร่วมตลบหลัง

‘เทพไท’เชื่อลูก‘แม้ว’ไม่รอด

อดีตสว.‘สมชาย’ฟันธงผิดชัด

“เพื่อไทย” เรียงหน้าหลับหูหลับตารับลูกอ้างสัญญาณดี 29 สิงหาคมนี้ “อุ๊งอิ๊งค์” พ้นพงหนาม และไปต่อได้ เนื่องจากมีความรักชาติเป็นที่ตั้ง หยันฝ่ายตรงข้ามไร้สาระโหมชื่อ“บิ๊กตู่-อนุทิน” นั่งนายกฯคนใหม่ไว้ใจ พรรคร่วมฯไม่มีโดนตลบหลัง ขณะที่’เทพไท’ฟันธงลูก’ทักษิณ’ไม่รอดคดีคลิคุน’ฮุนเซน’

เมื่อวันที่ 24ส.ค.2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความเชื่อมั่นจะมีข่าวดีในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยถอดถอนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่29ส.ค.ว่า พรรคเพื่อไทยยังเชื่อมั่นว่าเป็นไปตามนั้น สส.เพื่อไทยทุกคนมั่นใจนายกฯไม่ได้ทำผิดในคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไม่มีเจตนาร้ายต่อประเทศไม่ได้อยากให้ไทยรบกับกัมพูชา สส.ยืนยันว่า นายกฯจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนถึงวันตัดสินคดี ไม่ได้ทำผิดจะลาออกทำไม สส.พร้อมให้กำละงใจนายกฯและเชื่อว่า ยังมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำงานต่อได้ แต่มีคนปล่อยข่าวมาตลอด เเป็นจินตนาการของฝ่ายตรงข้าม


ยังเชื่อมั่น”อุ๊งอิ๊งค์”ไม่ผิด

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเตรียมรับมืออย่างไร หากผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาทางลบ นายกฯต้องหลุดจากตำแหน่ง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า กรณีนั้นค่อยมาว่ากันอีกทีเมื่อถึงเวลา เรายังเชื่อมั่นนายกฯไม่มีความผิด เมื่อถามว่าหากผลคำวินิจฉัยเป็นทางลบ แคนดิเดตนายกฯที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯคนใหม่ ต้องเป็นชื่อนายชัยเกษม นิติสิริจากพรรคเพื่อไทย คนเดียวใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า แน่นอนต้องเป็นชื่อนายชัยเกษมไม่มีเปลี่ยนเป็นคนอื่น ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วยนั้น จะเอาชื่อคนอื่นมาทำไม เป็นเรื่องไร้สาระ ใครไม่ชอบนายกฯ ก็มักออกมาพูดแบบนี้ ไม่เคยคิดบวก

เชื่อพรรคร่วมไม่ตลบหลัง

เมื่อถามว่า ยังไว้ใจพรรคร่วมรัฐบาลได้ใช้หรือไม่ว่าจะไม่ตลบหลังไปสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯคนอื่นที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไว้ใจได้ มั่นใจไม่มีการตลบหลังพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลก็โหวตลงมติทุกเรื่องไปในทิศทางเดียวกันตลอด อย่างการลงมติงบประมาณรายจ่ายปี2569 เสียงโหวตรัฐบาลก็ไปทางเดียวกัน ไม่มีปัญหา แม้รัฐบาลจะมีเสียงปริ่มน้ำก็ไว้ใจกันได้ คอยประคองกันไป

ตีปี๊บ”อุ๊งอิ๊งค์”ยังไปได้ต่อ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นคำแถลงปิดคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าทีมกฎหมายของน.ส.แพทองธาร จะรวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริงในทุกประเด็นเพื่อจัดทำเป็นคำแถลงปิดคดี โดยจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 25 สิงหาคม เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ระบุว่า น.ส.แพทองธาร จะยื่นลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นพ.พรหมินทร์กล่าวยืนยันว่านายกฯไม่ยื่นลาออกแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ขอสื่ออย่านำประเด็นดังกล่าวไปขยายความต่อเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติในวันที่ 29สิงหาคม เวลา 09.30น.และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00น.

อิ๊งค์ไม่ลาออกแน่นอน

ก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า รัฐบาลมั่นใจ นายกฯสามารถชี้แจงได้และจะมีข่าวดีในวันดังกล่าว การยกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร คดีม.112 ถือเป็นการทำให้ทุกข้อกล่าวหาที่ผ่านมาได้รับความกระจ่าง ศาลวินิจฉัยแล้วก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และกลายเป็นขวัญกำลังใจสำคัญแก่สมาชิกพรรค เพราะนายทักษิณคือผู้นำทางจิตวิญญาณของเพื่อไทย และเคยเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในอดีต

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ส่วนที่ยังเหลืออยู่อีก 2 คดี ได้แก่ คดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธารและคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ หลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบหนักนั้น พรรค พท.ยังมั่นใจจะได้รับข่าวดีเช่นกันและเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม สามารถพิสูจน์ตัวเองได้แน่นอน โดยความมั่นใจมาจากการที่ น.ส.แพทองธารไปชี้แจงต่อศาลด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากพิจารณาโดยตรงจะเห็นว่า น.ส.แพทองธารไม่มีเจตนาทำให้ประเทศเสียหาย ตรงกันข้ามนายกฯได้ปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เมื่อถามว่า ถ้าผลคำวินิจฉัยไม่เป็นไปตามคาดจะมีแผนสำรองไว้อย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่มีแผนสำรอง ส่วนความเป็นไปได้ในการยุบสภานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กรณีงบประมาณไม่ผ่านการพิจารณาวาระ 2-3 แต่ขณะนี้ไม่พบปัจจัยใดที่จะนำไปสู่การยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว น.ส.แพทองธารอาจลาออกเพื่อยุติคดี นายประเสริฐกล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการที่นายกฯเดินทางไปชี้แจงต่อศาลก็คือการพิสูจน์ตัวเองแล้วในอีกทางหนึ่ง เมื่อถามถึงความพร้อมของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย(พท.) หาก น.ส.แพทองธารต้องพ้นตำแหน่งนายกฯ นายประเสริฐกล่าวเพียงว่า ขอให้ถึงจุดนั้นก่อน ขอย้ำว่าขณะนี้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

สว.สมชายชี้เปรี้ยงผิดชัดๆ

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า การสู้รบไทยกัมพูชาเพราะผลประโยชน์หรือความขัดแย้งหรือการหักเหลี่ยมส่วนตัวของผู้นำ 2 ตระกูล โดยมีลูกของคนทั้งสองเป็นตัวแทน จนเกิดสงครามทำให้ประชาชนและทหารทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และยังไม่มีท่าทีจะยุติอย่างแท้จริง คลิปการเจรจาลับที่หลุดออกมา เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งที่เราเห็นเพียงแค่นิดเดียวของข้อเท็จจริง ยังมีเบื้องลึกของการดีลลับผลประโยชน์มากมายมหาศาล มากกว่าที่เห็น นับหมื่นนับแสนล้าน ไม่ต้องพูดถึงความไร้จริยธรรม การไม่ซื่อสัตย์สุจริตในตำแหน่งหน้าที่ การใช้อำนาจหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและครอบครัวในหลายเรื่องที่เข้าข่ายภัยความมั่นคงของประเทศ อาทิ การทำให้ศัตรูล่วงรู้ความลับ การทำให้ข้าศึกได้เปรียบในการรบ การไม่รักษาเกียรติภูมิ การไม่รักษาอธิปไตย การสูญเสียความลับทางราชการทหารและฝ่ายความมั่นคง การสื่อสารต่อรอง เพื่อประโยชน์ชาติหรือผลประโยชน์ตน ไม่ว่าในอนาคตจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร คงต้องน้อมรับ แต่สำหรับผมและคนไทยทั้งชาติ เชื่อเหมือนกันว่าเรามีคำวินิจฉัยตรงกันได้เองว่า ผิดชัดเจนทุกประเด็น แก้ตัวไม่ขึ้นแน่นอนเชื่อว่า ไม่มีบทละครใดที่ซักซ้อมกันมาจนแคล่วคล่อง หรือการตอบที่เก็งข้อสอบแม่นยำ ราวเหตุการณ์ซ้ำรอยคะแนนสอบเอ็นทรานซ์รั่วในอดีต ที่จะสามารถมาอธิบายหักล้างความเชื่อและความจริงที่คนไทยทั้งประเทศเห็นเองรู้เองจากความสูญเสียในชีวิตทรัพย์สินและอธิปไตยของชาติที่ประจักษ์ชัดไปกว่านี้ได้อีกแล้วครับ

เตือนสติเหลือเวลาไม่กี่วัน

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก’ปั่นไปไหน’ระบุว่า ไม่ไหวจะเคลียร์มาตรฐานทางจริยธรรม ที่อาจนำมาใช้ประกอบในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปเสียงการสนทนาแพทองธาร-ฮุนเซ็น มีดังนี้ ข้อ 6 ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ข้อ7 ต้องถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน

ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ข้อ17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ข้อ19 ไม่คบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติหรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ ข้อ25 รักษาความลับของราชการตามกฎหมายและ ระเบียบแบบแผนของราชการ นั่งลงลูก ค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ คิด ว่าเอาไงต่อดี เหลือไม่กี่วันแล้ว

เทพไทเตือนอย่าย่ามใจ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง”หัวข้อ“3เหตุผล พรรคเพื่อแม้ว มั่นใจอุ๊งอิ๊งไปต่อ”ระบุว่า

1.ปรากฏการณ์ที่นางสาวแพทองธาร เดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไต่สวนพยานคดีคลิปเสียงหลุดด้วยตัวเอง ท่ามกลางการคาดคะเนว่าไม่กล้าไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นางสาวแพทองธารมีความมั่นใจ เพราะโดยปกตินางสาวแพทองธาร มักจะหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม แต่เมื่อกล้าที่จะไปไต่สวนพยาน ก็แสดงว่านางสาวแพทองธาร มีความมั่นใจ และมีกระแสข่าวว่านางสาวแพทองธาร สามารถตอบข้อซักถามของศาลรัฐธรรมนูญได้ดี เตรียมตัวมาดี มีความคล่องแคล่วในการตอบ จึงน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี

2.น่าจะมาจากกรณีที่ศาลอาญา ตัดสินคดีการกระทำความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยประเมินว่า น่าจะเป็นสัญญาณเบื้องต้นของคดีแรก ที่นายทักษิณชนะคดีไปได้ และมีความเชื่อว่า 2คดีที่เหลือ คือคดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธารในศาลรัฐธรรมนูญ และคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็สามารถจะชนะคดีได้ ซึ่งเป็นความมั่นใจของคนพรรคเพื่อไทย

3.เนื่องจากมีกระแสข่าวปล่อย กระแสข่าวลือ กระแสข่าววิเคราะห์ว่า มติของศาลรัฐธรรมนูญ จะออกมาในลักษณะ 5:4 ให้นางสาวแพทองธาร รอดจากคดีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสว่าจะหลุดจากตำแหน่ง 9:0 บ้าง 7:2 บ้าง 6:3 บ้าง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า พลิกกลับมาเป็น 5:4 ผลเป็นคุณต่อนางสาวแพทองธาร

คงน่าจะมาจากเหตุผล 3 ข้อนี้ จึงทำให้สมาชิกและแกนนำพรรคเพื่อไทย มีความมั่นใจ และออกมายืนยันกับสื่อมวลชน ว่า ปิดประตูตาย ไม่มีการลาออกก่อนวันมีคำวินิจฉัย และเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นคดีนี้ไปได้ นางสาวแพทองธาร ยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

ดัน”ชัยเกษม”ขึ้นเป็นนายกฯ

พรรคเพื่อไทยไม่ต้องเตรียมการใดๆ ตามที่มีข่าวว่า ถ้าหากนางสาวแพทองธาร หลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะดันนายนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นนายกคนต่อไป และพรรคเพื่อไทยจะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือนายอนุทิน ชาญวีรกุล ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ผมเห็นว่าไม่ว่านางสาวแพทองธาร จะออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นางสาวแพทองธารก็ต้องพ้นจากตำแหน่งอยู่ดี เพราะวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ผมเชื่อมั่นว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนครับ

“อนุสรณ์” เชื่อ’อิ๊งค์’สอบผ่านแน่

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรมวันที่ 29 ส.ค.หลายฝ่ายมองว่าหากน.ส.แพทองธารรอด แล้วจะเจอม็อบต้านหรือไม่ว่า หากวิเคราะห์แบบนี้เป็นการไปกดดันการทำหน้าที่ของตุลาการศาลฯ ไม่ควรวิจารณ์ ตนมองว่าทุกคนควรทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่น ศาลพิจารณาคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เรื่องเนื้อหา การวินิจฉัย ด้านผู้ถูกร้องอย่างน.ส.แพทองธารใช้สิทธิของตัวเองส่งเอกสารแถลงปิดคดี ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไรสังคมต้องยอมรับและเดินหน้าต่อ ไม่ควรวิจารณ์

“ปกติม็อบออกมาอยู่แล้ว เพราะคนจะประท้วงจ้องหาเหตุประท้วงอยู่แล้ว เป็นสิทธิที่พึงทำได้ก็ทำ แต่ต้องชุมนุมในกรอบ ไม่ลิดรอนสิทธิผู้อื่น ดังนั้นสังคมควรจะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่เต็มที่ ส่วนผลออกมาอย่างไรน้อมรับ แต่ไม่ควรวิเคราะห์กดดัน” นายอนุสรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีแนวทางรับมือหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การชุมนุมมีมาตลอด ตนในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ก็เคารพความเคลื่อนไหวตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เตรียมการรับมืออะไร

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top