โฆษก ทบ.โต้เดือดกัมพูชา ใช้'สงครามจิตวิทยา'บิดเบือนข้อเท็จจริง

โฆษก ทบ.โต้เดือดกัมพูชา ใช้'สงครามจิตวิทยา'บิดเบือนข้อเท็จจริง

วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 20.40 น.

โฆษก ทบ.โต้เดือดกัมพูชา ใช้สงครามจิตวิทยา บิดเบือนข้อเท็จจริง ชี้ไทยยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง เปิดเผยข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ต่อประชาคมโลก ชี้คนไทยเคียงค้างทหาร ไม่มีจัดตั้ง

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 จากกรณีสำนักงาน Fresh News ของกัมพูชา ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของ นายเพน โบนา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี/หัวหน้าโฆษกรัฐบาลกัมพูชา เกี่ยวกับความคืบหน้าการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงกัมพูชา - ไทย โดยสรุปเป็น 4 ประเด็น ดังนี้


1.ความเป็นเอกภาพอันแน่นแฟ้นของชาวกัมพูชา ทำให้ "สงครามจิตวิทยา" และกลอุบายข้อมูลเท็จที่ฝ่ายไทยพยายามใช้เพื่อบ่อนทำลายขวัญกำลังใจของประชาชน ต้องล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

2.กัมพูชายังคงเดินหน้าปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงกับไทย ผ่านการประชุม GBC และ RBC ซึ่งมีผลเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี

3.การดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอยู่ภายใต้สายตาของประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน มาเลเซีย รวมถึงคณะทูตและผู้แทนฝ่ายทหารจากต่างประเทศ

4.ความเป็นหนึ่งเดียวของชาวกัมพูชาทั้งในและนอกประเทศ ที่ร่วมกันชูธงชาติและส่งเสียงสนับสนุนอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน พร้อมชื่นชมกองทัพและกองกำลังติดอาวุธทุกหน่วยที่ปกป้องประเทศอย่างแข็งขัน

ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงตอบโต้ว่า ประการแรก ประเทศไทยไม่เคยใช้ "สงครามจิตวิทยา" ต่อกัมพูชา ตรงกันข้ามคือฝ่ายกัมพูชาที่เป็นผู้ใช้วิธีการดังกล่าว ทั้งในรูปแบบการโฆษณาชวนเชื่อและการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเอง ขณะที่ประเทศไทยยึดมั่นเพียงการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบและพิสูจน์ได้ ไม่เคยใช้วิธีการที่เป็นการบิดเบือนหรือสร้างความเข้าใจผิด ที่สำคัญไทยมีเสรีในการนำเสนอข่าว พร้อมเปิดให้สำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศเข้าทำข่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทราบว่าทางกัมพูชาอาจไม่ให้ความสำคัญ โดยดูจากสื่อภายในประเทศกัมพูชาเอง ที่ยังถูกควบคุมและห้ามนำเสนอข่าวข้อเท็จจริงต่อประชาชนกัมพูชา

ประการที่สอง เกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ไทยได้แสดงความจริงใจและยึดมั่นในทุกข้อตกลงมาโดยตลอด การประชุมผ่านกลไก GBC และ RBC ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ไทยยืนยันพร้อมใช้เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี แต่ข้อเท็จจริงในพื้นที่แสดงให้เห็นว่ากัมพูชามักเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง เช่น การเคลื่อนไหวของกำลังทหารในพื้นที่อธิปไตยไทย การลอบวางทุ่นระเบิด และการขัดขวางการทำงานของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดยังมีการพยายามบิดเบือนผลการประชุม RBC ในวันที่ 22 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยได้ประท้วงไปแล้ว สิ่งเหล่านี้สะท้อนชัดว่ากัมพูชาไม่ได้มีความจริงใจจะปฏิบัติตามที่กล่าวอ้าง

ประการที่สาม ในประเด็นที่กัมพูชาระบุว่าการหยุดยิงอยู่ภายใต้สายตาประชาคมโลกนั้น โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ไทยเองได้ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการสื่อสารกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์การระหว่างประเทศ คณะทูต หรือผู้แทนกองทัพจากนานาชาติ โดยไทยนำเสนอข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดว่าไทยเป็นฝ่ายรุกราน ทั้งนี้ นอกจากฝ่ายไทยจะใช้การสื่อสารด้วยการประท้วงและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ยังแสดงให้สังคมโลกเห็นถึงหลักฐานเชิงประจักษ์ต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งทุ่นระเบิดที่พบ และพื้นที่พลเรือนที่เสียหาย ที่ไม่สามารถบิดเบือนได้

ประการสุดท้าย โฆษกกองทัพบกขอขอบคุณประชาชนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ได้แสดงออกถึงการยืนหยัดเคียงข้าง และให้การสนับสนุนกองทัพ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมถึงรัฐบาล ในรูปแบบที่เป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่มีลักษณะการแสดงแสดงออกในเชิงจัดตั้งขึ้นเพื่อหวังผลในเชิงจิตวิทยาแต่อย่างใด ซึ่งเสียงสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในสังคมไทยเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงพลังความสามัคคีและความรักชาติของคนไทยอย่างชัดเจน

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top