เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอออกตัวก่อนว่า ไม่ได้นิยมชมชอบพรรคภูมิใจไทยสักเท่าใด แต่ขอฟันธงว่า พรรคภูมิใจไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยมีคุณอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลว่า ตัวแปรที่สำคัญที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็คือพรรคประชาชน อยู่ที่ว่าพรรคประชาชนจะโหวตให้ใคร ซึ่งเชื่อว่า พรรคประชาชนจะโหวตให้คุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องเพราะ
1. ระหว่างคุณชัยเกษม นิติศิริ ซึ่งหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องรับคำสั่งจากคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคุณชัยเกษมก็ตระหนักดีถึงความจริงข้อนี้ ในขณะที่หากคุณอนุทินได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้มีคุณเนวิน ชิดชอบ อยู่ข้างหลัง แต่คุณอนุทินจะมีอิสระในการตัดสินใจมากกว่าคุณชัยเกษมมาก และด้วยความเป็นนักเลงของคุณเนวิน น่าจะเชื่อใจได้มากกว่าว่าจะพยายามทำตามเงื่อนไขข้อตกลงได้จริง
2. พรรคเพื่อไทยเคยเขี่ยพรรคประชาชนออกจากการเป็นรัฐบาล และข้ามขั้วไปจับมือกับพรรคฝ่ายที่ตัวเองตราหน้าว่าเป็นฝ่ายเผด็จการ หากบอกว่าพรรคประชาชนไม่ติดใจเรื่องนี้ คงเชื่อได้ยาก
3. รัฐบาลเพื่อไทยล้มเหลวทำไม่สำเร็จในเกือบทุกเรื่องที่หาเสียงไว้ ชัดเจนว่า นโยบายที่ใช้หาเสียง มาจาการคิดอะไรได้ก็พูดไปเช่นนั้น ไม่ได้มีการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ วิธีการ และกระบวนการทำงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นเวลาปฏิบัติจริง จึงมะงุมมะงาหรา ไปไม่เป็น วิ่งหาเงินกันจ้าละหวั่น ขนาดเงินงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับชำระหนี้ธนาคารของรัฐ 5 แห่ง 3.5 หมื่นล้าน ก็ลุแก่อำนาจ หักคอไม่ชำระหนี้ โยกเงินจำนวนนี้ไปไว้ในงบกลาง เพื่อเตรียมแจกเงินตามนโยบาย digital wallet อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และยังทำลายหลักปฏิบัติในการใช้งบกลาง ที่เตรียมไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน และในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินอย่างไม่คาดหมาย จึงจะนำเงินจากงบกลางมาใช้
4. การฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ตามข้อ 3 อาจทำให้คณะรัฐมนตรีชุดเดิมเกือบทั้งคณะ ส.ส.อีกจำนวนมาก ต้องพ้นจากตำแหน่ง จะเกิดความวุ่นวายในรัฐบาล โดยเฉพาะคนของพรรคเพื่อไทย และอาจต้องตั้งรัฐบาลกันใหม่อยู่ดี อีกทั้ง พรรคเพื่อไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกยุบเมื่อใดก็ได้ เนื่องจากมีความชัดเจนมากขึ้นทุกวัน จนปราศจากข้อสงสัยแล้วถึงการครอบงำพรรคของคุณทักษิณ
5. ความล้มเหลวของรัฐบาลเพื่อไทย รวมทั้งการจัดการกรณีพิพาทกับกัมพูชา ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล คะแนนนิยมของรัฐบาลเพื่อไทย่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทั้งยังทำให้คนหมดหวังกับการเมืองไทย หากพรรคประชาชนมีความหวังดีต่อประเทศชาติจริงมากกว่าประโยชน์ของพรรค ต้องไม่เลือกพรรคเพื่อไทยเด็ดขาด
ว่ากันตามจริง การที่พรรคประชาชนยื่นข้อเสนอแบบนี้ ยอมรับหรือไม่ว่า เป็นการฉวยโอกาสที่จะให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการในยามที่ถือไพ่เหนือ การตั้งเงื่อนไขให้ยุบสภาโดยอ้างว่าคืนอำนาจให้ประชาชน และว่าเพื่อให้สามารถตั้งรัฐมนตรีจากความสามารถ ไม่ใช่ตามโควต้าของพรรคใดเป็นความเพ้อฝัน เลือกตั้งใหม่อย่างไร คณิตศาสตร์การเมืองก็จะยังคงอยู่
อย่าเพิ่งมั่นใจว่า เมื่อยุบสภาเลือกตั้งใหม่แล้ว พรรคประชาชนจะได้เป็นรัฐบาล เพราะเท่าที่ซาวเสียงดู ผู้ที่เคยเลือกพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เปลี่ยนใจไม่เอาอีกแล้วเป็นจำนวนมาก หากมีพรรคที่เป็นทางเลือกใหม่มาเป็นคู่แข่ง พรรคประชาชนอาจพ่ายแพ้ก็ได้
พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่ยังแทงกั๊ก ไม่ตัดสินใจ อ้างว่าจะให้สมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคตัดสินใจ แต่แท้ที่จริง รอดูว่าพรรคประชาชนจะเลือกใคร แล้วจึงตัดสินใจ ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ควรร่วมหัวจมท้ายด้วย ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายค้านจะดีกว่า
วันนี้ก็น่าจะรู้แล้ว หวยจะออกอย่างไร โปรดติดตามอย่างไม่กระพริบตา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี