‘ทวี’เล่นใหญ่! ชงศาลรธน.ตีความ‘MOAปชน.-ภท.’ ซัดบ่อนเซาะทำลายรธน.

‘ทวี’เล่นใหญ่! ชงศาลรธน.ตีความ‘MOAปชน.-ภท.’ ซัดบ่อนเซาะทำลายรธน.

วันศุกร์ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.26 น.

อาชญากรรมทางประชาธิปไตย! "ทวี"เล่นใหญ่ ชงศาลรธน.ตีความ"MOAปชน.-ภท." ซัดบ่อนเซาะทำลายรธน. ด้าน"เพื่อไทย"ขย้ำไร้ผลทางกม. ขณะที่"เท้ง"โร่โต้ดำเนินการถูกต้อง ส่วน"โรม"ถามกลับตรงๆบอกข้อเสนอผิด แล้วรับเงื่อนไขทำไม

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 10.20 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ภายหลังการเปิดให้สมาชิกอภิปรายเหตุผลว่าจะเลื่อนระเบียบวาระด่วนลำดับที่ 8 การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ลุกอภิปรายว่า วันนี้ตนเห็นว่าการที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย กรณีเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นข้อตกลงทางการเมืองที่บ่อนเซาะระบอบประชาธิปไตย และทำลายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวมีในข้อ 4 เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีใหม่จะยุบสภาภายใน 4 เดือน ที่พรรคภูมิใจไทยต้องดำเนินการด้วยวิธีการใดเพื่อให้รัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อย เพื่อไม่ให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก สิ่งนี้มีการลงชื่อหัวหน้าพรรคประชาชนและหัวหน้าพรรคพรรคภูมิใจไทย


ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีถือเป็นเสาหลัก จริงอยู่ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มาโดยพรรคการเมือง แต่เมื่อมีข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เป็นการขัดรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐธรรมนูญมาตรา 49 คือการกระทำห้ามบุคคลใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง ถึงแม้ข้อ 4 จะไม่ถึงโดยตรง แต่ลักษณะเป็นการบ่อนเซาะ และทำลายระบอบประชาธิปไตย และตัดกระบวนการการตั้งรัฐบาลโดยเสรี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราต้องยอมรับว่า รัฐต้องปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งยังไม่พูดถึงคุณสมบัติว่าเป็นอาชญากรรมหรืออาชญากรทางประชาธิปไตย

"ถ้าเราจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี อยากให้มีการพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว เพราะมีการแถลงในสภาฯ ซึ่งในรายละเอียด ผมคิดว่าควรที่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ถึงขนาดยุบพรรคการเมือง และที่สำคัญหลักประชาธิปไตยเสียงข้างมาก และในรัฐธรรมนูญให้สภาฯ ไม่ถูกครอบงำใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นการครอบงำและแลกผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้เป็นรัฐบาลอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะได้เป็นฝ่ายค้านเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการไม่เห็นหัวประชาชน ถือว่าควรที่จะเลื่อนเพื่อให้บรรจุ และการเลือกนายกรัฐมนตรีควรที่จะมีการวินิจฉัยให้ถ่องแท้ เพราะเบื้องต้นเป็นการผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทำลายประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจ เพราะเป็นพรรคที่ประกาศตัวเองว่ายึดมั่นในประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นข้อเสนอที่เห็นว่าไม่ควรเลื่อนการพิจารณา" พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ด้าน นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เอ็มโอเอที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนทำข้อตกลงกัน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บังคับใช้ไม่ได้ หากปฏิบัติตามถือว่าผิดรัฐธรรมนูญและขัด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ขัดใครเป็นนายกฯ แต่วิธีเข้าถึงอำนาจต้องชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ข้อตกลงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีข้อยกเว้นเรื่องการไม่แก้หมวด 1 และ 2 และการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจเป็นการถูกครอบงำ มีการสัญญาว่าจะให้ และรับผลประโยชน์อี่นใดเพื่อให้ได้รับการดำรงตำแหน่ง ขัดมาตรา 46 พ.ร.บ.พรรคการเมือง ถือว่า เอ็มโอเอบังคับใช้ไม่ได้ เป็นโมฆะ

ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ขอใช้สิทธิ์พาดพิงว่า แม้จะไม่เคยมีการเอ่ยชื่อพรรคประชาชนอย่างชัดเจน แต่อยากเน้นย้ำอีกครั้งว่าตอนนี้เรากำลังอภิปรายญัตติว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระการเลือกนายกฯ ขึ้นมาก่อน เหตุการณ์ที่เรามองเห็นว่าเกิดขึ้นในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นความสับสนจากสมาชิกว่าตกลงจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล หรือการขานชื่อผิดว่าตัวเองอยู่พรรคใดนั้น ตนเห็นด้วยว่าเกิดจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว แต่ก็เพราะเราต้องการหาทางออกให้กับประเทศเพื่อมุ่งสู่การยุบสภาฯ และจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนอยากเรียกร้องถึงประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ และสมาชิกทุกท่าน วันนี้เรามีญัตติการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ฉะนั้น ขอเรียกร้องหัวหน้าและคณะผู้บริหารของพรรคทุกท่านว่าอยากให้ยืนยันว่าหากมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน และเลือกจบแล้ว เราจะอยู่เป็นองค์ประชุมและพิจารณากฎหมายจบทุกฉบับ เพราะถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน รวมถึงเพื่อเป็นการยืนยันต่อประชาชนว่าวันนี้สภาของเราเป็นหลักยึดให้กับประชาชนได้ ไม่ใช่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้วก็กลับบ้านกันไป

จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ชี้แจงว่า ที่บอกว่าพรรคประชาชนทำผิดรัฐธรรมนูญ เป็นพรรคที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รวมถึง MOA ผิดต่อกฎหมาย ประเด็นแรกพวกเราเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของพวกเราจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านแบบนี้ต่อไป หลังจากนี้ ถ้าจะมีการเลือกไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคภูมิใจไทย ใครเป็นคนได้เลือกเป็นรัฐบาล เราต้องทำงานคู่ขนานกันไปแบบนี้ กระบวนการขั้นตอนไม่ได้มีกำหนดว่าห้ามฝ่ายค้านไปเลือกพรรคไหน ตนยืนยันว่าการกระทำของพวกเราไม่ได้เป็นการกระทำที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ

จังหวะนี้ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ท้วงติงว่า พอแล้ว เดี๋ยวจะมีการพาดพิง แต่นายรังสิมันต์ระบุว่า ยังชี้แจงไม่หมด ทำให้มีการโต้เถียงกันไปมา โดยนายรังสิมันต์ บอกว่าเราเสียหาย แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า เดี๋ยวนายณัฐพงษ์ก็อภิปรายแล้ว ก็ฝากให้เขาชี้แจงได้ แต่นายรังสิมันต์ ไม่ยอม

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานมีการลดแลกแจกแถม มีพรรคการเมืองบอกว่ายอมรับทุกข้อของพรรคประชาชน รับทั้งหมด ถ้าท่านบอกว่าสิ่งที่เป็นข้อเสนอของพรรคประชาชนผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ แล้วท่านรับทำไม เพราะวันนี้ท่านไม่ได้รับเลือก ท่านไม่ได้เข้ารอบ

ทำให้ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่าอย่าร้อนตัว ท่านจะอยู่ฝั่งไหนมันก็สุดแท้แต่ เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่นายวันมูหะมัดนอร์พยายามเบรคก่อนที่จะให้สมาชิกท่านอื่นอภิปรายต่อ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top