‘ทวี’ให้กำลังใจจนท.“ศูนย์ศรัทธาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” พบปะ แลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มนักศึกษา P.N.Y.S
วันที่ 6 กันยายน 2568 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ณ ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดปัตตานี หรือ“ศูนย์ศรัทธาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เพื่อติดตามการดำเนินงานและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงผู้เข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม
โดยพันตำรวจเอกทวี กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ว่าเน้นย้ำความสำคัญของการทำงานแบบบูรณาการของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข เทศบาล ผู้นำชุมชน และภาคประชาชน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือ ลดปัญหา เพิ่มโอกาส และสร้างสังคมที่เข้มแข็งปลอดภัย กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังได้ให้กำลังใจผู้เข้ารับการฟื้นฟูฯให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวและสังคมได้อย่างยั่งยืน
พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดปัตตานี จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักพิงและดูแลผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายหลักคือการเตรียมความพร้อมให้กับผู้บำบัดก่อนกลับสู่ครอบครัวและชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดตั้งศูนย์ฯ นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อเดือนที่ผ่านมา และได้รับการประสานงานเร่งรัดอย่างต่อเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 (ป.ป.ส. ภ.9) กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากปัตตานีมีความพร้อมด้านสถานที่และบุคลากรมากที่สุด โดยใช้งบประมาณจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สำหรับการดำเนินงานในระยะแรก
“แม้ว่าในขณะนี้ศูนย์ฯ จะใช้รูปแบบการอบรมเป็นรุ่น ซึ่งรุ่นแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ แต่ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ระบุว่า แนวทางในอนาคตจะมีการปรับปรุงเพื่อให้ผู้ที่ต้องการเข้ารับการบำบัดสามารถ “Walk in” ได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้าถึง นอกจากในพื้นที่ปัตตานีแล้ว ยังมีความคืบหน้าในการจัดตั้งศูนย์พักคอยในพื้นที่อื่นๆด้วย โดยที่จังหวัดยะลาได้มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก ป.ป.ส. ภ.9 กระทรวงยุติธรรม เบื้องต้นจำนวน 350,000 บาท เพื่อใช้สถานที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดยะลา เป็นศูนย์พักคอย โดยมีหลักสูตรการดูแลสุขภาพ การส่งเสริมจริยธรรม การฝึกอาชีพ เช่น ช่างตัดผม การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการปั้นปูน รวมถึงการพัฒนาทักษะชีวิต”
พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจะใช้ฐานข้อมูลจากสาธารณสุข และกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ (ศป.ปส.อ.) ร่วมกับผู้นำชุมชนคัดกรอง และเมื่อสำเร็จการฟื้นฟูฯแล้ว จะมีการส่งกลับชุมชนพร้อมระบบติดตามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน โดย อสม.และผู้นำศาสนา รวมถึงการส่งเสริมอาชีพตามความต้องการของผู้บำบัดสำหรับจังหวัดนราธิวาส ทาง ป.ป.ส. ภ.9 กระทรวงยุติธรรม กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งศูนย์พักคอยต่อไป ทั้งนี้ โดยในส่วนของ “บ้านอุ่นไอรัก” ในจังหวัดปัตตานี ได้ยื่นเอกสารขอจัดตั้ง “ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมมูลนิธิบ้านอุ่นไอรัก” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์พักคอย เพื่อให้การดำเนินการสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากหากต้องการยกระดับเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจะมีกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานานกว่า ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนในครั้งนี้จะสะท้อนถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการจัดการระบบดูแลผู้ติดยาเสพติดและผู้ผ่านการบำบัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน(6 กันยายน) พันตำรวจเอกทวี ยังมีกำหนดการลงพื้นที่ไปพบปะ แลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายภาคใต้ (P.N.Y.S) ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี