‘พริษฐ์’เผย‘ปชน.-พท.-ภท.’เห็นพ้องเดินหน้าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ให้ทุกพรรคส่ง‘โมเดล’สัปดาห์หน้า ชงสภาแก้‘ม.256’ก่อนทำประชามติ 2 ครั้ง เชื่อเสร็จทันภายใน 4 เดือน ปลาย ม.ค.69 ยุบสภา-เลือกตั้ง
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 11 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ใน กรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการหารือกับ 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) รวมทั้งตัวแทน กมธ.พัฒนาการเมือง วุฒิสภา และภาคประชาชน ซึ่งเป็นการหารือถึงแนวทางต่อไปในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา
นายพริษฐ์ กล่าวว่า หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าคำวินิจฉัยของศาลธรรมนูญนั้นมีปัญหาจริงๆ ทำให้ในส่วนของกระบวนการการตอบคำถาม เนื้อหาของคำวินิจฉัย ที่ดูเหมือนเป็นการปิดประตู ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง ซึ่งขัดหลักการประชาธิปไตย และขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยเมื่อปี 2564 ดังนั้นในที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกัน 3 ข้อ ที่ทั้ง 3 พรรคเห็นตรงกัน
ข้อสรุปที่ 1 การทำประชามติทั้งหมด 2 รอบ เริ่มจะให้รัฐสภาพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 15 / 1 คือกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาผ่าน 3 วาระแล้ว ก็จะจัดทำประชามติรอบแรก ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 คำถาม คือ
1.จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
2.เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 / 1 เกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่รัฐสภาเห็นชอบหรือไม่
เมื่อมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ก็จะมีการจัดทำประชามติรอบที่ 2 เพื่อถามว่าประชาชนเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งก็จะสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ข้อสรุปที่ 2 เห็นว่ากระบวนการดังกล่าวสามารถเดินหน้าเพื่อให้มีการจัดทำประชามติรอบแรกให้ทันพร้อมกับการเลือกตั้ง ภายในกรอบเวลาMOA ที่ต้องยุบสภาภายใน4 เดือนหลังจากแถลงนโยบาย หากแถลงนโยบายช่วง ปลายเดือนกันยายน 2568 หมายความว่าต้องมีการยุบสภาภายในช่วงปลายเดือนมกราคม 2569 โดยเชื่อว่าภายในกรอบเวลา4เดือนMOA สามารถเดินหน้าจัดทำประชามติรอบแรกการเลือกตั้งได้
“ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าสามารถเดินหน้ายื่นและพิจารณาร่างแก้ไขและรัฐธรรมนูญหมวด 15 ได้เลย หากผ่านวาระที่หนึ่งไป แล้วกรรมาธิการพิจารณาเสร็จ สามารถส่งกลับในวาระที่สองช่วงเดือนธันวาคม ก็ทำให้สามารถให้ความเห็นชอบในวาระที่สามได้ ภายในเดือนธันวาคม 2568 ก็ยังมีเวลาในเดือนมกราคมที่ต้องเคาะเรื่องของวันการจัดทำประชามติ ซึ่งก็จะเกิดขึ้นกับการยุบสภาไม่เกินช่วงปลายเดือนมกราคม” นายพริษฐ์กล่าว
ข้อสรุปที่ 3 แต่ละพรรคจะหารือภายในเพื่อทบทวนจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 15 /1 ให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อให้ยึดโยงกับประชาชนมีส่วนร่วม โดยตั้งเป้าว่าภายในสัปดาห์หน้า ต้องการให้ทั้ง 3 พรรคการเมืองมานำเสนอแนวคิดร่างของตนเองต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ
เมื่อถามว่า ร่างของพรรคประชาชนจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ของเราเสร็จ และที่คุยจากตัวแทนพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าสามารถดำเนินการให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้าได้ ส่วนตัวแทนพรรคภูมิใจไทยออกจากห้องก่อนที่จะมีการสรุปประเด็นนี้ แต่มีการให้คำยืนยันว่าจะจัดทำโดยเร็ว จึงหวังว่าในสัปดาห์หน้าจะได้เห็นร่างหรือโมเดลของทั้งสามพรรค เพื่อได้ยื่นเข้าสู่ระเบียบวาระและเปิดพิจารณาในวาระที่1
เมื่อถามถึงเนื้อหาหลักของพรรคประชาชน นายพริษฐ์ กล่าวว่า จะต้องมีการหารือกันภายใน ในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้ เนื่องจากเนื้อหาเดิมในร่างที่ค้างอยู่เป็นการให้เสนอ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง จำนวน 200 คน 100 คนมาจากแบ่งเขตจังหวัด อีก 100 คนมาจากบัญชีรายชื่อระดับประเทศ เมื่อมีคำวินิจฉัยมาก็ต้องมีการทบทวน ว่าการมี ส.ส.ร.โดยตรงจะไปต่อได้หรือไม่ หากขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องออกแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางตรง และยึดโยงกับประชาชนทางตรง ซึ่งมีหลายแนวคิดที่นำเสนอและสังคมอยู่ขณะนี้ จะเป็นขั้นตอนที่พักพูดคุยกันและสรุปเป็นข้อเสนอ
เมื่อถามว่า แนวทางของพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทยใกล้กัน แต่ของพรรคภูมิใจไทยและฝั่ง สว.ได้หารือหรือพูดคุยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า 3 ข้อสรุปที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นข้อสรุปของทั้ง3พรรคการเมืองในการเดินหน้าจัดทำฉบับใหม่ผ่านการทำประชามติ 2 รอบ และเห็นต้องการว่าสามารถใช้กรอบเวลา 4 เดือนให้นำไปสู่การกระทำประชามติรอบแรกพร้อมกับการเลือกตั้งได้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ข้อสรุปที่สามทั้ง 3 พรรคการเมืองก็เห็นตรงกันว่าขณะนี้เป็นหน้าที่ของทั้งสามพรรคการเมืองไปเร่งจัดทำร่างหมวด 15/1 เพื่อมานำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งวันนี้มีตัวแทนของ กมธ.พัฒนาการเมืองของวุฒิสภามาร่วมประชุมด้วย ซึ่งชี้ว่าเป็นหน้าที่ของทุกพรรคการเมืองในการพูดคุยทำความเข้าใจและโน้มน้าวให้วุฒิสภาเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากจะผ่านความเห็นชอบไปได้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3
เมื่อถามว่า หากสัปดาห์หน้าภูมิใจไทยไม่พร้อม จะทำให้ไทม์ไลน์ถูกยื้อหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากวาระหนึ่งถูกเลื่อนออกไป ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ กมธ.จะได้เวลาน้อยลง เพื่อให้เวลา กมธ.คงเวลาไว้ที่ 2 เดือนเต็ม และมีการพูดคุยให้ตกผลึกก่อนเข้าวาระ 1
เมื่อถามว่า หากต้องรอคำวินิจฉัยฉบับเต็ม จะทันหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องขอเรียกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่ายิ่งประเด็นนี้มีความสำคัญ ยิ่งมีการถกเถียง หรือประเด็นมองว่าเป็นการตอบเกินคำถามนั้น อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญเร่งออกคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนบุคคลของทั้ง 9 คนมาโดยเร็ว ซึ่งมติคณะกรรมาธิการล่าสุดก็มีการทำหนังสือขอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน ทางที่ดีที่สุด ขอให้เปิดต่อสาธารณะโดยเร็ว
เมื่อถามว่า มีการหารือส่วนตัวกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า มีการพูดคุยกันทันที ตั้งแต่หลังมีคำวินิจฉัย ได้คุยกับทางพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย ว่าตีความความไว้อย่างไร มองแนวทางเดินหน้าอย่างไร ซึ่งวันนี้จึงถือเป็นการได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการในที่ประชุม กมธ. ส่วนเป็นสัญญาใจใช่หรือไม่นั้น เป็นสัญญาประชาคมที่ถูกประทึกไว้ในกรรมาธิการ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี