‘สุชาติ’ทิ้งทวน!

ตั้งกรรมการสอบ

เจ้าอาวาสวัดโสธร

ปมทรัพย์สิน-สีกา

“สุชาติ” ทิ้งทวน ตั้งคณะกรรมการสอบเจ้าอาวาสวัดโสธรฯปมทรัพย์สิน-สีกาหลังจากมีข่าวสะพัดโลกโซเชียลฯ คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์รู้ผล ด้าน “บิ๊กเต่า” เผยคดีวัดพระบาทน้ำพุ-วัดบางคลาน คืบหน้า เน้นสอบเส้นเงิน บัญชีธนาคาร 100-200 บัญชี เรียกพยานสอบ พบวัดบางคลาน มีการทุจริตเงิน 30 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการร้องเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร ผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยเป็นการร้องเรียนเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้อง รวมถึงตัวเจ้าอาวาส เพราะหากไม่เป็นความจริง จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงมอบหมายให้ ผวจ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธาน ตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย ยอมรับว่าได้ยินเรื่องนี้มานาน แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกอย่างต้องว่าไปตามระเบียบ กฎหมาย และจะให้ พศ.ดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า วางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วางกรอบเวลา แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ตน ไม่ทำไม่ได้ และยังเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทนฯ เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีมูลมานานแล้วใช่หรือไม่ นายสุชาติ ยอมรับว่า มีมานาน เคยไปสอบถามและเตือนเจ้าอาวาสมาแล้ว ว่ามีเรื่องใดที่ผิดพระธรรมวินัย แต่เนื่องจากมีเสียงร้องเรียนจากโซเชียล จึงต้องดำเนินการ

ต่อข้อถามว่าจำนวนทรัพย์สินของวัดโสธรฯ มีเท่าใด นายสุชาติ กล่าวว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก แต่เราไม่ทราบว่าเจ้าอาวาส มีทรัพย์สินแค่ไหน เพราะเห็นว่ามีการโอนกันไป-มา แต่อย่าลืมว่าพระสังฆาธิการ คือเจ้าพนักงานรัฐ เรื่องนี้สำคัญที่สุด เมื่อถามว่า จำเป็นที่เจ้าอาวาสจะต้องลาสิกขาระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็น เพราะท่านยังไม่ผิด ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าเรื่องสีกาที่เขาร้องเรียนเป็นความจริงหรือไม่

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าเจ้าอาวาสจะหลบหนี นายสุชาติ กล่าวว่า คิดว่าท่านคงไม่หนีไปไหน ต่อข้อถามอีกว่ามีงานอะไรจะฝากไปยัง รมต.ประจำสำนักนายกฯ คนใหม่ หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า คงไม่ต้องฝาก เพราะเขาต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว ไม่ว่ามีเรื่องอะไรค้างคาก็ต้องสานต่อ

วันเดียวกัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดียักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และวัดบางคลาน จ.พิจิตร ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนของมูลนิธิ และวัด โดยเฉพาะบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 100-200 บัญชี

“เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรัดสอบปากคำพยานทุกส่วน ทั้งลูกจ้างและผู้เกี่ยวข้องในมูลนิธิ เพื่อให้ทราบว่าเงินที่หมุนเวียนในแต่ละบัญชีมีผู้รับผิดชอบอย่างไร โดยเฉพาะประเด็นสำคัญ 24 เรื่อง เรากำลังเร่งสอบให้ครบภายใน 10 วัน จากนั้นจะมีการประชุมสรุปความคืบหน้าอีกครั้ง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

สำหรับกรณีตลกดัง ชื่อ 3 พยางค์นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาว่าบุคคลดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับอดีตพระอลงกตหรือไม่ โดยขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมายสอบปากคำ และยังไม่มีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับบุคคลดังกล่าว

“คงต้องตรวจสอบว่าบุคคลนี้เข้ามาเกี่ยวข้องในช่วงที่อดีตพระอลงกตยังเป็นพระอยู่ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่กำลังหาข้อมูลอย่างรอบคอบ” รอง ผบช.ก.กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีวัดบางคลาน ว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบวัดและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง พบว่ามีการทุจริตเงินวัด รวม 30 ล้านบาท ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังพบการค้าขายวัตถุมงคลที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของวัด มีการนำเงินที่ได้ไปฝากในบัญชีบุคคลอื่นแทนบัญชีวัด นอกจากนี้ได้เรียกสอบไวยาวัจกร และกรรมการวัด หลายคน ซึ่งนำเอกสารค่าใช้จ่ายและข้อมูลทางการเงินเก็บไว้ที่บ้านพักส่วนตัว โดยจะนำมาตรวจสอบว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่

สำหรับการแก้ปัญหาการบริหารงานวัดนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า มีการพูดคุยและประชุมร่วมกันเป็นคณะใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัด อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 18 ฝ่าย และตำรวจภูธรจังหวัด โดยมีมติแต่งตั้งรองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอเก่า มาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อความเป็นกลางและความสมานฉันท์ระหว่างชาวบ้านกับพระสงฆ์ในการปกครองวัด

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจสอบเส้นทางเงิน การสอบปากคำพยาน และการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อให้การสอบสวนเสร็จสิ้นและสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้