'สุรเดช'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ลั่นต้องยกเลิก MOU 43-44 และข้อตกลงทั้งหมดที่ผ่านมาก่อน

'สุรเดช'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ลั่นต้องยกเลิก MOU 43-44 และข้อตกลงทั้งหมดที่ผ่านมาก่อน

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.10 น.

'สุรเดช'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ลั่นต้องยกเลิก MOU 43-44 และข้อตกลงทั้งหมดที่ผ่านมาก่อน หลังไทยได้รัฐบาลใหม่แล้ว เชื่อดีกว่ารัฐบาลเก่าที่อ่อนแอ เจรจาเสียเปรียบตลอดแน่นอน แนะเจรจาเงื่อนไขให้กัมพูชาชดใช้ เยียวยาสิ่งที่ไทยสูญเสียทั้งชีวิต-ทรัพย์สินก่อนคุยเปิดด่านในอนาคต

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2568 นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม GBC โดยมีข้อหนึ่งที่มีรายงานมีบางประเทศกดดันให้ไทยทบทวนการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปรากฎว่ามีกระแสสังคมออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยผ่านโซเชียลฯ เป็นจำนวนมากว่า ส่วนตัวตนก็ไม่เห็นด้วยในการเปิดด่านเช่นกัน เพราะเราไว้ใจเขมรไม่ได้ ตนถึงบอกว่าอยากให้มีการกั้นกำแพงเลย การเปิดด่านควรต้องเป็นหลังจากที่มีการกั้นกำแพงแล้ว และเราไม่ควรฟังประเทศใดๆที่มากดดันเรา ปัญหาอะไรที่ประเทศเหล่านั้นกังวลให้เขาไปจัดการกันเอง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของอธิปไตยของไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก


“เราต้องเอาตามข้อตกลงของเรา ไม่ใช่ข้อตกลงของกัมพูชา พูดง่ายๆคือที่ผ่านมาต้องยกเลิกทั้งหมด ไม่ต้องไปเจรจาอะไรกับกัมพูชาแล้ว และตอนนี้เราเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ดังนั้นเราก็ต้องเปลี่ยนท่าทีใหม่ เราต้องไม่อ่อนแอเหมือนรัฐบาลเก่าที่มีการเจรจาเสียเปรียบมาโดยตลอด ทั้งๆที่ถ้าเราต่อสู้กัน ปะทะกัน เราก็ชนะอยู่แล้ว ที่ผ่านมากัมพูชาก็พยายามละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงมาตลอด ที่ไปตกลงกันมาไม่มีประโยชน์เลย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเปิดด่านจะต้องมีการยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ44 ก่อน เป็นเอ็มโอยูที่ทางพรรคภูมิใจไทยเสนอในสภาแล้ว และตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำรัฐบาลแล้ว ก็ต้องมาพิจารณาตรงนี้ก่อนเลย คือยกเลิกไปเลยทั้งเอ็มโอยู 43 และ 44 ข้อตกลงเก่าที่ผ่านมายกเลิกให้หมด แล้วมาดูกันใหม่ ส่วนการเปิดด่านต้องเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถ้ากัมพูชายอมก็ต้องชดใช้สิ่งที่ประเทศไทยสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนและทหาร จะมาใช้วิธีว่าเมื่อปะทะกันแล้ว ขอให้ต่างคน ต่างดูแลคนของตัวเองอย่างนั้นมันไม่ได้ เพราะกัมพูชามารังแกเราก่อน มาฆ่าประชาชนคนไทยที่ไม่รู้เรื่อง“

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ารัฐบาลใหม่ที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชากันในเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ และการปิด- เปิดด่าน ได้หรือไม่ นายสุรเดช กล่าวว่า ตนอยากเสนอแนะว่า เป็นรัฐบาลใหม่ ไม่ควรที่จะไปยุ่งอะไรกับด่านเลย เพราะความจริงควรปิดไปก่อนเลย ไม่ควรที่จะมีการเจรจาผ่อนปรนในทุกกรณี ให้ทางทหาร ทางแม่ทัพเป็นผู้ดำเนินการตัดสินใจ อย่างไรก็ตามส่วนตัวตนเห็นว่า เราควรเสนอไปยังฝ่ายกัมพูชาว่าเราต้องการอะไร อย่างไรบ้าง ทางกัมพูชาไม่มีสิทธิ์มาเสนออะไรเราเลยเพราะเราเป็นฝ่ายถูกกระทำจากเขา เราต้องฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศครั้งนี้มีรัฐบาลใหม่และมีรัฐมนตรีใหม่แล้ว จึงอยากเรียกร้องให้เร่งทำงานในเชิงรุก ต้องมีท่าทีที่แข็งกร้าว อย่าอ่อนปวกเปียกเหมือนกระทรวงการต่างประเทศที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ต่างๆ หรือเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ต้องรุกให้กัมพูชายอมรับ

เมื่อถามว่ามองว่าอำนาจในการปิด-เปิดด่าน รัฐบาลควรมอบอำนาจให้กับทางทหารหรือกองทัพ เป็นผู้ตัดสินใจเลยใช่หรือไม่ นายสุรเดช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่าทางกัมพูชา ได้ทวงในเรื่องของการที่เราจะไปสร้างโรงเรียน หรือสิ่งอื่นใดให้เขา ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าก็ต้องยกเลิกหมดเพราะเราเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ข้อตกลงอะไรต่างๆ ที่เป็นข้อตกลงกับทางรัฐบาลเก่าต้องยกเลิกหมด

“ในเมื่อเราไม่สามารถไว้วางใจกัมพูชาได้ เราก็ไม่สามารถที่จะทำเรื่องอื่นๆได้ เพราะทุกครั้งที่เราไปตกลงทางกัมพูชาก็จะละเมิดข้อตกลงอยู่ตลอด ซึ่งการที่ผมเสนอให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44  ก็เชื่อมโยงกับการปิด-เปิดด่านด้วย ดังนั้นถ้ากัมพูชาต้องการให้ประเทศไทยเปิดด่าน ทางกัมพูชาก็ต้องแสดงความจริงใจโดยต้องยินยอมทำตามข้อตกลงของเรา ถึงจะมีการพูดคุยกันได้ ต้องมาคุยกันก่อนว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย กัมพูชา จะเยียวยาอย่างไร ทางกัมพูชาต้องต้องยอมรับก่อนว่าละเมิดอธิปไตยเราก่อน ดังนั้นต้องตกลงกันให้ชัดเจน ส่วนเอ็มโอยูจะยกเลิกกันได้หรือไม่ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในสภาแล้วก็ว่ากันไป แต่ยืนยันว่าด่านเปิดไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะผู้ประกอบการออกมาเรียกร้องอยากให้คนไทยเห็นใจประชาชนที่บริเวณชายแดนโดยเฉพาะที่จังหวัดตราดและจันทบุรี นายสุรเดช กล่าวว่าเราต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ เพราะเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในเมื่อเสียงส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เปิดด่าน ก็ควรจะปฏิบัติตามนั้น จึงอยากให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการเห็นแก่ส่วนรวม ไม่ใช่เห็นกับธุรกิจของตัวเอง ต้องคิดว่าเมื่อเปิดแล้วจะเกิดความเสียหายอย่างไรและส่วนตัวเห็นว่าเรื่องของความเสียหายที่เกิดกับประชาชนบริเวณชายแดนทางรัฐบาลก็สามารถจ่ายเยียวยาผู้ประกอบการเหล่านั้นได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปเปิดด่านมันก็จะไม่ต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้ว และปัญหาก็จะเกิดขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าเมื่อเรามีรัฐบาลใหม่แล้วปัญหาไทยกัมพูชาจะสามารถจบลงกันด้วยดีหรือไม่นายสุรเดช กล่าวว่าสำหรับรัฐบาลใหม่ ตนไม่แน่ใจว่าเรื่องของปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จะจบหรือไม่ อย่างไร เพราะรัฐบาลนี้มีระยะสั้นเวลาทำงานสั้นๆ แค่ 4 เดือนเท่านั้น เวลาแค่นี่จะไปทำอะไรได้มาก แต่สิ่งที่ตนมั่นใจก็คือดีกว่ารัฐบาลเก่าแน่นอน เนื่องจากรัฐบาลเก่าได้พิสูจน์ให้ประชาชนคนไทยเห็นแล้วว่าอ่อนแอมาก จนทำให้เกิดความเสียหาย เจรจาอะไรก็เสียเปรียบมาหมดเพราะฉะนั้นรัฐบาลใหม่ดีกว่ารัฐบาลเก่าแน่ เพียงแต่จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับระยะเวลา

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top