‘หนู’ขนรมต.ศก.พบสภาอุตฯ
ทูลเกล้าฯสัปดาห์นี้
ยันโผครม.นิ่ง-ครบ100%
ย้ำ‘คนละครึ่ง’รบ.ลุยแน่
‘อ้วน’โวชนะเลือกซ่อม
‘พท.’ฐานเสียงเก่ายังปึ้ก
“อนุทิน” ทูลเกล้าฯครม.สัปดาห์นี้ ยึดสไตล์ทำงาน คนละพรรค แต่พวกเดียวกันสำคัญกว่า ย้ำโผครม.นิ่ง-ครบ นำรายชื่อทูลเกล้าฯแล้ว ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติ ด้าน “กกต.”สรุปเลือกซ่อมเขต 7 ใช้สิทธิ์ 59.19% “สง่า พรมเมือง”จาก’พท.’ชนะ45,615คะแนน ทิ้งห่าง’ปชน.’ขาดลอย ถ้าไม่มีร้องเรียน ประกาศรับรองใน60วัน‘ภูมิธรรม’ฟุ้งผลเลือกซ่อม‘เพื่อไทย’ฐานเสียงยังแน่น ถึงเวลาปรับปรุงพรรคให้แข็งแรง กลับมายิ่งใหญ่ ปัด‘ทักษิณ’เข้าคุกเรียกคะแนนสงสาร ย้ำสู้เพื่อความบริสุทธิ์ให้เรื่องจบ เชื่อศรัทธาพรรคยังอยู่
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 15กันยายน2568 ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวเปิดการประชุมว่า ในวงหารือวันนี้เป็นพี่น้องกันทั้งนั้นรู้จักกันมานาน หลังจากนี้เป็นช่วงเวลาที่ประเทศต้องขับเคลื่อนให้ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไขและจะมีการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ แต่เราคงไม่ปล่อยเวลาให้เสียประโยชน์ ได้ประสาน กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รัฐบาลกับผู้นำทางเศรษฐกิจต้องไปคู่กัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงในมิติอื่นๆ เช่น หากเศรษฐกิจดีคุณภาพชีวิตก็จะดี สังคมก็จะมีความสงบสุข
‘หนู’บริหารงานต้องเป็นหนึ่งเดียว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า บางครั้งต้องยอมรับว่า มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้รัฐบาลชุดนี้เข้ามา ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะทำให้เห็นว่า จะทำให้เป็นตัวอย่าง ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาล ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ ที่ผ่านมาผมอยู่มา 6ปี เห็นปัญหาเยอะแยะ ที่สำคัญการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เอาตรงนี้เสนอขึ้นมา เช่น พรรคนี้คุมกระทรวงอุตสาหกรรม แต่นายกฯเป็นคนละพรรคกัน ก็ไม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะกลัวคะแนนตก ไปที่พรรคอื่น ซึ่งขอเรียนว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลของผม เพราะถือคติ คนละพรรคแต่พวกเดียวกันสำคัญกว่า พรรคเดียวกันคนละพวก
ครม.นิ่ง-ครบ-ทูลเกล้าฯสัปดาห์นี้
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้วและได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนได้รับผิดชอบให้พรรคร่วมรัฐบาลได้พิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือ ตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบประวัติ ครม.ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่า จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีใครที่ไม่ผ่านคุณสมบัติหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าพอแล้วนะ ก่อนที่จะทำท่าเจ็บคอ
ปชช.รอได้เลย โครงการคนละครึ่ง
นายอนุทิน ยังให้สัมภาษณ์หลังประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้างว่า หลังไมค์ก็มีการเตรียมพร้อม เมื่อเราเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินตามเวลาที่กําหนดก็จะดําเนินการ ถามอีกว่า ที่ประชาชนคาดหวังกับนโยบายคนละครึ่งจะสามารถเปิดกระเป๋ารอได้เลยใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า” รอได้ครับ เดี๋ยวใน รายละเอียดจะให้รมว.คลังชี้แจงกับประชาชน ในแผนที่เราได้วางเอาไว้ การดําเนินการเมื่อเราเข้ามาบริหารอย่างเต็มตัว ว่าจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้นโยบายนี้ดำเนินการได้เร็วที่สุด”
ยื่นเอกสารเพิ่มให้สลค.ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าการแต่งตั้ง ครม.อนุทิน1หลังจากที่ นายอนุทิน ระบุว่า จะนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าได้ภายในสัปดาห์นี้ ว่า ในส่วนของรายชื่อถือว่า 100เปอร์เซ็นต์แล้ว อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในสัปดาห์นี้ ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 09.00น.ทีมงานของ นายอนุทิน ได้นำเอกสารมาส่งที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพิ่มเติม โดยคาดว่าเป็นเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีนอกจากนี้ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลา 13.30น
เลือกซ่อมพท.ชนะ45,615คะแนน
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้สรุปผลการเลือกตั้งสส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีทั้งสิ้น 133,960คน มีผู้มาใช้สิทธิ 79,288 คน คิดเป็นร้อยละ 59.19 บัตรดี 65,477 ใบ คิดเป็นร้อยละ82.58 บัตรเสีย 3,072 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.87 และบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 10,739 ใบ คิดเป็นร้อยละ13.54 สำหรับผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุด ได้แก่ นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนเสียงทั้งสิ้น 45,615 คะแนน ตามมาด้วยนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาชนได้รับคะแนนเสียงทั้งสิ้น 19,862 คะแนน
ทั้งนี้ มาตรา 125 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด เป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากนี้สำนักงานกกต.จะดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมรายงาน ผลการนับคะแนน พร้อมทั้งพิจารณาคำร้องหรือเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หากไม่มีเหตุ อันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และไม่มีคำร้องคัดค้านภายในระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนด คณะกรรมการการเลือกตั้งจะพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ภายใน 60วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ตามมาตรา127ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.พ.ศ.2561
‘อ้วน’กู้ซาก‘เพื่อไทย’สู้เลือกตั้ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ชนะการเลือกตั้งซ่อมที่เขต7เชียงราย ว่า การเลือกตั้งที่เชียงรายเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า สิ่งที่ตนเคยพูดว่า พรรคเพื่อไทยโดยรวมทั้งหมดไม่ได้กระทบอะไร เพราะฐานเสียงจริงๆของพรรคยังคงอยู่ ฉะนั้นที่บอกว่า หลังจากนี้ไปเรามีโอกาสได้กลับมาทบทวนดำเนินการต่างๆ รวมถึงผู้แทนของพรรค ตนคิดว่าจะสามารถทำความเข้าใจกันได้และมาช่วยกันปรับปรุงสร้างพรรคให้แข็งแรงได้ ส่วนที่บอกว่า จะมีคนออกหรือเลือดไหลออกไปบ้าง ขณะนี้ยังไม่มีลักษณะที่จะเป็นอย่างนั้นไปมากมาย ล้วนแต่เป็นข่าว กระแสข่าว ข่าวลือ ข่าวปล่อย อาจทำให้เกิดความสับสนได้
“ผมคิดว่าความไม่พึงพอใจ สส.ในพรรคเกี่ยวกับการบริหารจัดการที่ผ่านมามีปัญหาอยู่จริง เดี๋ยวพวกเราจะเข้ามาช่วยดูและจะช่วยกันแก้ไข เพราะที่ผ่านมาทีมที่เป็นอดีตผู้บริหารพรรค หรือคนทำงานให้พรรค ไปเป็น ครม.ฝ่ายบริหาร บางทีขาดความเชื่อมโยง ประสานและมีปัญหาอยู่บ้าง ตรงนั้นคงใช้เวลาไม่นาน ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มแกนแต่ละส่วนอยู่บ้างแล้ว” นายภูมิธรรม กล่าว
‘แม้ว’เข้าคุก-ไม่เกี่ยวเรียกคะแนน
เมื่อถามถึงกรณีที่แม้ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะชนะ แต่มีผลการสำรวจว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยเป็นรองพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทำให้หลายฝ่ายมองว่าถึงจุดวิกฤตของพรรคเพื่อไทย เลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะไม่ได้สส.เท่าแบบเดิม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมองว่าเมื่อวานผลที่ออกมาพรรคเพื่อไทย ทิ้งห่างพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นเท่าตัว ซึ่งการทำโพลก่อนเลือกตั้งมองว่า ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ตามกฎหมายไม่ควรทำ เป็นการชี้นำ แต่ผลความเป็นจริงของคะแนนออกมาให้เห็นเป็นอย่างไร เชื่อว่าคะแนนที่เป็นแฟนคลับเพื่อไทย ไม่ได้ห่างหายไปไหน เขายังรักและศรัทธาเพื่อไทย ปัญหาอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเดินไปในจุดยืนในเป้าหมายหรือทิศทางที่สมาชิกพรรคยังเข้าใจ ยังศรัทธาอยู่หรือไม่ เชื่อว่าสิ่งนี้มีอยู่เต็มเปี่ยม
เมื่อถามว่า การที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯยอมเข้าเรือนจำ เพื่อให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งนี้จะทำให้เรียกศรัทธาแฟนคลับพรรคกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ที่จริง นายทักษิณ ไม่ได้เริ่มต้นจากการยอมติดคุก หรือยอมเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้พรรคเพื่อไทยเดินต่อได้ เพราะอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็เดินต่อได้อยู่แล้ว ส่วนการที่ นายทักษิณ ตัดสินใจ เพราะท่านอายุมากแล้ว และสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของท่าน ทำให้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ ท่านก็ยอมรับ และเป็นการเข้าไปเพื่อให้จบเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเงาที่ติดตัว นายทักษิณ มาตลอด
ปชป.ถก18ก.ย.เลือกวันเคาะหน.ใหม่
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ ว่า วันที่ 18ก.ย.เวลา 10.00น.จะประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ชุดรักษาการ เพื่อพิจารณา วัน เวลาและสถานที่ในการจัดประชุมใหญ่วิสามัญเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ ทั้งนี้ เชื่อว่าการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ คนที่ต้องการสมัคร ข้อบังคับพรรคเปิดกว้าง ให้บุคคลที่ได้รับการคัดสรรมีโอกาสมากขึ้น ขณะนี้ทั้งกรรมการ และสาขา ก็มีสัญญาณกระตือรือร้นมาก ในการที่จะมีผู้บริหารพรรคชุดใหม่และหัวหน้าพรรคคนใหม่ เหมือนกับเป็นความหวังของพรรคฯที่จะเลือกคนมานำทัพ ทั้งเลือกตั้งทั่วไป และเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ทุกอย่างจึงต้องมีการตัดสินใจเร็ว ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น โดยคาดว่าจะได้หัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ปลายเดือนตุลาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี