เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 นายวีระ สุดสังข์ หรือ "ฟอน ฝ้าฟาง" ศิลปินมรดกอีสาน ปี 2558 อดีตครูสอนภาษาไทย นักเขียนอิสระ ผู้ก่อตั้งกลุ่มวรรณกรรมลำน้ำมูลและสโมสรนักเขียนภาคอีสาน ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า วีระวิเคราะห์

เรื่องการเมืองจะไม่พูดก็ไม่ได้ เพราะมันกระทบกับชีวิตเราอยู่ทุกๆวัน เวลาพูดหลายคนอาจถูกใจ หลายคนอาจไม่ถูกใจ นั่นเป็นเรื่องธรรมดาของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย

ผมเห็นด้วยกับคุณชูวิทย์ กมลวิศษฏ์ นะครับว่า เด็กพรรคส้มกินนมวัวกินนมถั่วถูกตาแก่พรรคพรรคน้ำเงินกินไวน์กินเหล้าหลอกเอาคะแนนโหวตเป็นนายกแบบขำๆ

MOA ยุบสภาภายใน 4 เดือน ผมวิเคราะห์ว่าไม่ถึง 4 เดือนหรอกครับ เมื่อใดที่กลุ่มงูเห่าจากพรรคต่างๆเลื้อยเข้าพรรคน้ำเงินจนจัดการทุกอย่างได้ลงตัวแล้ว พรรคน้ำเงินจะประกาศยุบสภาทันที มิทันที่พรรคส้มจะสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครบ 3 วาระ ซึ่งพรรคน้ำเงินก็ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว สรุปว่าพรรคส้มไม่ได้อะไรเลยจากการโหวตนายกให้พรรคน้ำเงิน เป็นเด็กอ่อนหัดจริงๆ ส่วนตาแก่ก็เขี้ยวลากดินจริงๆ เล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองแพรวพราว รู้จักตาแก่บุรีรัมย์น้อยไป แม้แต่โทนาฟยังเอาไม่อยู่ ประสาอะไรกับเด็กน้อยยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

พรรคน้ำเงินมีโอกาสจัดขบวนทัพทุกเขตเลือกตั้งพร้อมกับใช้โอกาสการเป็นรัฐบาลหาเสียงอย่างคุ้มค่า แค่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศ"ไม่เปิดด่าน...หรือจะปิดด่านจนกว่า..." คะแนนิยมก็ท่วมท้นแล้ว พลังของประชาชนขณะนี้คือกระแสคลั่งชาติ อดอยากจะตายห่า สินค้าจะราคาแพงก็ช่าง "ขอแต่ตัดขาดเขมร" การเลือกตั้งสมัยหน้ามีโอกาสชนะพรรคส้มหรือแม้แต่พรรคแดง โอกาสการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีอยู่สูง นี่คือการสร้างโอกาสให้แก่ตัวเองอย่างชาญฉลาด

การตัดสินใจที่ผิดพลาดของพรรคส้มในวันนี้จะส่งผลให้คะแนนของพรรคส้มลดลง โอกาสที่พรรคส้มจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใดๆหรือร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับยิ่งยากออกไปอีก

- 006